โอกาสนี้ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงมีพระดำรัสเปิดงานกล่าวถึงจุดเริ่มต้นและความสำเร็จของภาพยนตร์ไทยในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ความว่า
“เมื่อ 15 ปีที่แล้ว วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ได้กำกับภาพยนตร์เรื่องฟ้าทะลายโจร ซึ่งเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรก ที่ได้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่งดงามในคานส์ของผู้สร้างภาพยนตร์ไทย ภาพยนตร์เรื่องนี้มีรูปแบบการนำเสนอที่แปลกใหม่และแตกต่าง แต่ก็สามารถนำเสนอความเป็นไทยได้เป็นอย่างดีต่อมาเมื่อภาพยนตร์ของ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล เรื่อง “ลุงบุญมีระลึกชาติ” ได้ร่วมในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ เขาได้นำรางวัลที่ทรงเกียรติที่สุดรางวัลหนึ่งในโลกภาพยนตร์กลับมาเมืองไทย นั่นคือ รางวัล 'Palme d'Or' (รางวัลปาล์มทองคำ) และในปีนี้ภาพยนตร์เรื่อง “Cemetery of Splendour” (รักที่ขอนแก่น) ผลงานล่าสุดของ อภิชาติพงศ์ ถูกคัดเลือกให้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ในสาย Un Certain Regard อีกด้วย”
“แน่นอนว่า เมืองคานส์ ไม่ได้มีความสำคัญเพียงการเป็นเทศกาลที่ฉายภาพยนตร์เท่านั้น แต่ที่นี่คือตลาดของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่โครงการต่างๆถือกำเนิด ได้รับการเพาะบ่มและได้ค้นพบบ้านแห่งใหม่ในโลกกว้าง เป็นการยํ้าเตือนเราว่าภาพยนตร์มีเอกลักษณ์พิเศษที่เป็นทั้งศิลปะและอุตสาหกรรม”
นอกจากนี้ ทรงมีพระดำรัสกล่าวถึงนักแสดงหนังแอคชั่นชาวไทย โทนี่ จา ซึ่งได้แสดงฝีมือในภาพยนตร์ฮอลลีวูด เรื่อง 'Fast and Furious 7' ว่าถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้กลายเป็นซีรีย์ที่ดีที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ว่าได้
หลังจากนั้นทรงทอดพระเนตรการแสดงชุด “A Window on Thailand” อันแสดงให้เห็นว่า ภาพยนตร์ คือ หน้าต่างของประเทศ ที่จะเปิดกว้างให้ทุกคนได้ประจักษ์ถึงวัฒนธรรมที่เป็น เอกลักษณ์ของแต่ละประเทศ เบิกโรงด้วยการขับเสภาแบบร่วมสมัยของ “นพพร เพริศแพร้ว” สอดประสานข้ามวัฒนธรรมกับ “ศิโยน ดาวรัตนหงษ์” นักร้องโอเปราเสียงโวปราโน ก่อนนำเข้าสู่วีดิทัศน์ถ่ายทอดศักยภาพอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า “ด้วยพระกรุณาธิคุณต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในปัจจุบันธุรกิจบันเทิงของไทยก้าวสู่ระดับแนวหน้าของโลก ในปัจจุบันอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทยพัฒนาไปอย่างต่อเนื่องทั้งตลาดไทย และในตลาดโลก โดยในปีที่แล้วรายได้จากการจำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์มีมูลค่ากว่า 34 ล้านดอลลาร์ และรายได้จากการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างชาติในประเทศไทย มีมูลค่าสูงถึง 58 ล้านดอลลาร์ กล่าวได้ว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ได้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ จากความร่วมมือระหว่างประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ประเทศไทยพร้อมที่จะประกาศจุดยืนในการเป็นผู้ผลิตคอนเทนท์ และศูนย์กลางด้านโปรดักชัน โดยงานไทยไนท์จะเป็นงานที่ผลักดันให้เกิดความร่วมมือกับนานาชาติมากยิ่งขึ้น”
สำหรับในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ 2015 นี้ จัดเป็นครั้งที่ 68 ระหว่างวันที่ 13 – 24 พฤษภาคม 2558 มีภาพยนตร์ที่ได้รับการคัดเลือกอย่างเป็นทางการเพื่อเข้าฉายและประกวดจำนวน 53 เรื่องจากทั่วโลก หนึ่งในนั้นคือภาพยนตร์เรื่อง รักที่ขอนแก่น หรือ Cemetery of Splendour ของ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ผู้กำกับชาวไทย ที่ได้รับคัดเลือกเข้าฉาย ใน Un Certain Regard หรือสายภาพยนตร์ที่น่าจับตามอง เป็นเรื่องราวของแม่บ้านวัยกลางคนผู้โดดเดี่ยว ซึ่งรับหน้าที่คอยพยาบาลและดูแลทหารนายหนึ่ง ซึ่งป่วยจนนอนหลับเป็นเจ้าชายนิทรา กระทั่งเขาดิ่งจมลงไปในอาการหลอน ที่นำไปสู่การมองเห็นภาพฝันอันแปลกประหลาด ภูตผีต่าง ๆ ตลอดจนเรื่องราวความรัก
ในส่วนของตลาดซื้อขายภาพยนตร์ (Marché du Film) ภายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้นำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานจำนวน 7 บริษัท ได้แก่ บริษัท เบนีโทน (ประเทศไทย) จำกัด , บริษัท เดอ วอร์เรนท์ พิคเจอร์ จำกัด , บริษัท ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น จำกัด , บริษัท แฮนด์เมด ดิสทริบิวชั่น จํากัด , บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) , บริษัท กลองชัย ภาพยนตร์ จำกัด และบริษัท โมโน ฟิล์ม จำกัด ณ คูหาประเทศไทย Thailand Pavilion อาคาร Palais Level 01 No. 20.02 – 22.01 ซึ่งปีนี้ได้สร้างโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการไทย โดยการจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ประกอบการไทย และผู้สร้าง ผู้ลงทุนจากต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 13 – 17 พฤษภาคม 2558 มีบริษัทต่างชาติเข้าร่วมเจรจาธุรกิจจำนวนกว่า 40 ราย
พร้อมกันนี้ ในวันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม 2558 เวลา 15.00 – 18.00 น. กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงต้อนรับผู้สร้างภาพยนตร์นานาชาติ ขึ้น ณ International Village Riviera No.138 อันจะก่อให้เกิดโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน ระหว่างผู้สร้างภาพยนตร์นานาชาติ และบริษัทผู้สนับสนุนการสร้างภาพยนตร์ของไทย อีกทางหนึ่ง
นอกจากนี้ ยังมีโครงการสร้างภาพยนตร์เพื่อการร่วมทุน (Thai Film Pitching Project 2015) โดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนผู้อำนวยการสร้างและผู้สร้างภาพยนตร์ให้มีโอกาสนำเสนอโครงการกับต่างชาติ มีภาพยนตร์ 3 เรื่องที่ได้รับการคัดเลือกได้แก่ 1. อังเคิล โฮ ของคุณเกษมศักดิ์ วงศ์รัฐปัญญา 2. สุริยา ลูกทุ่ง โดยคุณวิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง และ 3. ซิดนีย์ โดยคุณวสุนันท์ หุตเวช