พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า กรณีหญิงอายุ ๕๔ ปี พบทารกเพศชายแรกเกิด อายุไม่เกิน ๗ วัน ถูกนำใส่กล่องโฟมมาทิ้งในสวนกล้วย ซึ่งถูกมดและแมลงรุมต่อยทั่วทั้งตัว ที่จังหวัดชลบุรี ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี (พมจ.ชลบุรี) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจกระทรวงฯ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามหาพ่อและแม่ของเด็ก หากไม่พบตัวให้นำเด็กมาอยู่ในความดูแล ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ต่อไป
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับกรณีหญิงชรา อายุ ๗๖ ปี ป่วยเป็นโรคหัวใจ เบาหวานความดันและกล้ามเนื้ออ่อนแรง อาศัยอยู่ในบ้านสภาพเก่าทรุดโทรมกับสามี อายุ ๘๐ ปี ร่างกายเคลื่อนไหวลำบาก เนื่องจากบาดเจ็บถูกเสาปูนล้มทับขา ต้องรับภาระเลี้ยงดูหลาน ๓ คน ซึ่งหลานอายุ ๖ และ ๗ ขวบ ยังไม่ได้เข้าเรียนหนังสือ ทางบ้านมีฐานะยากจน ที่จังหวัดนครราชสีมา ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมา (พมจ.นครราชสีมา) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลของหญิงชราและชายชราอย่างต่อเนื่อง และดูแลเรื่องการศึกษาของเด็กในระยะยาว พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้ถูกสุขลักษณะ และกรณีเด็กชาย อายุ ๑๓ ปี ถูกรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส สมองกระทบกระเทือน กลายเป็นเด็กพิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องให้อาหารทางสายยาง ที่จังหวัดนราธิวาส ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนราธิวาส (พมจ.นราธิวาส) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจกระทรวงฯ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง
“สำหรับการดูแลชาวโรฮีนจาทั้งที่เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์และผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ในพื้นที่หน่วยงานของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ นั้น ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ โดยยึดหลักมนุษยธรรมและการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ กระทรวงฯ ได้ประสานขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อช่วยดูแล ความปลอดภัย ทั้งในระยะสั้นและระยาวต่อไป” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย