การแข่งขันกอล์ฟรายการ ไทยแลนด์ โอเพ่น เป็นการร่วมกันจัดการแข่งขันระหว่างวันเอเชียและเจแปนกอล์ฟทัวร์
โดยเหล่านักกอล์ฟชั้นนำไทยอาทิ โปรอาร์ม กิรเดช อภิบาลรัตน์ , ถาวร วิรัตน์จันทร์ และ พรหม มีสวัสดิ์ ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ต่างคาดหวังที่จะคว้าแชมป์รายการนี้ให้ได้
โดยในปี 2013 ประหยัด มากแสง กลายเป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 3 ได้ทำผลงานเป็นที่น่าจดจำด้วยการทำสกอร์ 4 วัน 24อันเดอร์ 264 (68-67-65-64) ก่อนจะคว้าแชมป์ถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปครอง ที่สนามธนาซิตี้ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ และถึงแม้ในปี 2014 การแข่งขันรายการนี้ถูกยกเลิกไปเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองก็ตาม แต่โปรหมายก็ยังรอคอยที่จะกลับมาสร้างตำนานคว้าแชมป์อีกครั้งในปีนี้
“ผมรู้สึกมีความสุขมากที่คว้าแชมป์ไทยแลนด์ โอเพ่นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผมอยากจะเดินตามรอยของโปรบุญชู เรืองกิจ ที่เป็นแชมป์รายการนี้ ถึง 2 สมัยในปี 1992 และปี 2004 แม้ผมจะเป็นแชมป์ครั้งแรกเมื่อปี 2013 ก็ตาม แต่มันก็เป็นความทรงจำที่ยอดเยี่ยมในอาชีพของผม และการเป็นแชมป์ ไทยแลนด์ โอเพ่น ถือเป็นเป้าหมายสูงสุดของโปรกอล์ฟไทยที่หวังคว้ารางวัลนี้มาครองให้ได้ จะเห็นได้ว่ามีนักกอล์ฟไทยเพียงไม่กี่คน ที่คว้าถ้วยรางวัลนี้มาครอง เพราะพวกเราทุกคนมีทัศนะเดียวกันว่า เล่นเพื่อถ้วยรางวัลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ในความฝันคือเราต้องการชนะ" ประหยัด เผย
ทั้งนี้เจ้าตัวยังให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงการกลับมาลงแข่งขันในครั้งนี้ว่า " ในการแข่งขันปี 2015 นี้ ผมจะกลับมาป้องกันแชมป์ให้ได้อย่างแน่นอน เพราะเป้าหมายของผมคือการชนะถ้วยรางวัลพระราชทาน และผมเชื่อว่านักกอล์ฟไทยทุกคน ก็คิดเหมือนผมเช่นกัน สนามสยามคันทรีคลับ พัทยา แพลนเทชั่น มีจุดเด่นที่กรีนคือจุดเด่นของสนาม เมื่ออยู่ในการแข่งขันแน่นอนว่า สภาวะต่างๆจะยากมาก สิ่งนี้เป็นความท้าทายสำหรับผม อย่างไรก็ดียังเชื่อมั่นว่า ผมจะเล่นได้ดีอย่างแน่นอน"
สำหรับประหยัด มากแสง ปัจจุบันลงแข่งขันอยู่ในเจแปนทัวร์ และคว้าแชมป์ไปแล้วทั้งสิ้น 4 รายการ และถึงแม้ปัจจุบัน เขาจะมีอายุเข้าสู่วัย 50 ปีแล้ว แต่เรียกได้ว่าเป็นนักกอล์ฟที่มีสุขภาพที่แข็งแรง เพราะเขาจะรักษาสุขภาพด้วยการแช่ตัวในน้ำพุร้อน โดยประหยัดเผยถึงเรื่องนี้ว่า "แน่นอนว่า อายุเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ไม่สามารถหยุดยั้งได้ ถ้าหากผมมัวแต่คิดถึงอายุที่มากขึ้นก็คงไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ดีอย่างแน่นอน แต่หลักการในการดูแลสุขภาพของผมคือการลงแช่ตัวในน้ำพุร้อนและเย็นที่ญี่ปุ่น โดยทำการยืดพร้อมอบอุ่นร่างกาย จึงทำให้ไม่ค่อยประสบกับอาการบาดเจ็บได้ง่ายๆ อีกทั้งยังช่วยให้ผมเล่นกอล์ฟได้ดีขึ้นอีกด้วย "
ทั้งนี้ ในปี 2015 ประหยัดคว้าแชมป์ในประเทศไทยมาได้ทั้งสิ้น 2 รายการจาก "สิงห์ มาสเตอร์" และ "สิงห์ พัทยา โอเพ่น " โดยเขายังเชื่อว่าวิธีบำบัดของเขาจะช่วยให้เขาเล่นกอล์ฟได้ยาวนานขึ้นพร้อมระบุว่า "ผมรู้สึกโชคดีจริงๆ ที่ไม่ต้องพยายามอะไรมากในการสวิง ผมจึงแทบไม่ค่อยบาดเจ็บแต่อย่างใด"
นอกจากนี้สำหรับการแข่งขัน "สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ไทยแลนด์ โอเพ่น" ยังมีนักกอล์ฟไทยอย่าง โปรอาร์ม กิรเดช อภิบาลรัตน์ ที่เพิ่งคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ รายการ "เสินเจิ้น อินเตอร์เนชั่นแนล โอเพ่น" เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็ได้ยืนยันว่าจะเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ แม้ว่าตารางการแข่งขันของต่างประเทศ เขาต้องไปเล่นที่ มอซีเรียส อังกฤษ และไอร์แลนด์ก็ตาม
ขณะที่ โปรแล็ก-ถาวร วิรัตน์จันทร์ ที่ครองสถิติเป็นนักกอล์ฟเอเชียที่คว้าแชมป์เอเชียนทัวร์ ทั้งสิ้น 18 ครั้ง และ กอล์ฟรายการ วันเอเชีย อินโดนีเซีย โอเพ่น 2011 ก็มีความต้องการที่จะคว้าแชมป์รายการนี้เช่นกัน โดยเมื่อเดือนที่แล้วเขาได้ถอนตัวจากการแข่งขัน "วันเอเชีย เอสเค เทเลคอมโอเพ่น" และได้ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บบริเวณเข่า ได้ให้สัมภาษณ์ว่า "ไทยแลนด์ โอเพ่น เป็นอีกรายการหนึ่งที่ผมอยากจะคว้าแชมป์มาครองให้ได้ ด้วยตัวเลขของอายุในวัย 48 ปี ผมมีเวลาอีก 2-3 ปีที่จะได้ลุ้น และผมอาจจะเป็นนักกอล์ฟที่มีอายุแก่ที่สุดที่คว้าแชมป์ก็ได้ "
ด้าน พรหม มีสวัสดิ์ ที่มีคุณพ่อของเขา สุเทพ มีสวัสดิ์ เป็นคนไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ ไทยแลนด์ โอเพ่น มาครองได้ในประวัติศาสตร์ไทยเมื่อปี 1991 ก็ได้ออกมากล่าวว่า "ผมอยากจะลงเล่นทุกครั้งที่มีรายการไทยแลนด์ โอเพ่น จัดแข่ง และรายการนี้มีความหมายต่อตัวผมมาก ซึ่งผมอยากจะคว้าแชมป์มาครองให้ได้เหมือนพ่อของผม"
สำหรับการแข่งขันกอล์ฟรายการ ไทยแลนด์ โอเพ่น ปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 45 กำหนดแข่งขันระหว่างวันที่ 11-14 มิถุนายนนี้ ที่สนามสยาม คันทรีคลับ แพลนเทชั่น จังหวัดชลบุรี โดยมีบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ผู้สนับสนุนหลัก พร้อมด้วยผู้ร่วมสนับสนุนรายอื่นๆ อาทิ เมอร์เซเดส-เบนซ์, ซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์เปอเรชั่น, เอมิเรตส์ แอร์ไลน์ส และสยามแอทสยาม ดีไซน์ โฮเทล พัทยา