เจาะน้ำบาดาลช่วยภัยแล้งคืบหน้ากว่าร้อยละ 80 พร้อมระดมคนและเครื่องจักรเสริมทัพ หากรัฐบาลสั่งการให้เพิ่มพื้นที่เป้าหมาย

ศุกร์ ๑๗ กรกฎาคม ๒๐๑๕ ๑๕:๐๘
พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า การเจาะบ่อน้ำบาดาลเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ประสบภัยแล้งระยะเร่งด่วนในขณะนี้ดำเนินการไปได้ กว่าร้อยละ 80 แล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จได้ภายในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ แต่หากสถานการณ์ภัยแล้งยังส่งผลกระทบต่อเนื่องทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ก็จะให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลระดมกำลังคนและเครื่องจักรเข้าไปดำเนินการเจาะบ่อน้ำบาดาลในพื้นที่อื่นๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อนำน้ำบาดาลมาใช้ให้เพียงพอกับ ความต้องการ

จากการที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับส่วนราชการและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คณะกรรมการกำหนดนโยบายและ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ กระทรวงกลาโหม และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จัดทำโครงการจัดหาและพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรในพื้นที่ประสบภัยแล้งระยะเร่งด่วน ประจำปี 2558 ในพื้นที่ลุ่มน้ำ ภาคกลางและภาคเหนือตอนล่างบางส่วน รวม 15 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร ชัยนาท นครปฐม นครสวรรค์ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา พิจิตร พิษณุโลก ลพบุรี สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี อ่างทอง อุตรดิตถ์ และจังหวัดราชบุรี โดยคัดเลือกพื้นที่เป้าหมายพิจารณาจากพื้นที่ปลูกข้าวในเขตชลประทานที่เป็นพื้นที่ดอน เสี่ยงต่อน้ำไปไม่ถึง และเป็นพื้นที่ที่ได้เริ่มปลูกข้าวแล้ว เน้นพื้นที่ปลูกข้าวช่วงอายุ 15-60 วัน (ช่วงที่ต้องการ น้ำมาก) และเป็นพื้นที่ที่น้ำบาดาลคุณภาพดี มีอัตราการให้น้ำมากกว่า 10 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง โดยดำเนินการเจาะบ่อน้ำบาดาล และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเทอร์ไบน์ จำนวนทั้งสิ้น 511 บ่อ และทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฟฟ้าแบบจุ่มใต้น้ำของบ่อสังเกตการณ์ จำนวน 380 บ่อ

ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้สรุปผลการดำเนินงาน เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2558 ที่ผ่านมา มีการเจาะบ่อน้ำบาดาลแล้วเสร็จ จำนวน 415 แห่ง หรือร้อยละ 81.21 ของเป้าหมาย 511 แห่ง ปริมาณน้ำบาดาลที่นำขึ้นมาใช้ประโยชน์ จำนวน 178,453 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ส่วนการติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฟฟ้าของบ่อสังเกตการณ์ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 202 บ่อ หรือร้อยละ 53.16 ของเป้าหมาย 380 บ่อ ปริมาณน้ำบาดาลที่นำขึ้นมาใช้ประโยชน์ จำนวน 30,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ทั้งนี้ หากดำเนินการตามแผนงานแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ จะสามารถช่วยเหลือพื้นที่เกษตรให้สามารถสูบน้ำบาดาลมาใช้ได้ 350,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน มีพื้นที่ได้รับผลประโยชน์จากน้ำบาดาล ไม่น้อยกว่า 130,000 ไร่ หรือไม่น้อยกว่า 4,000 ครัวเรือน โดยใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 179.38 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ภัยแล้งยังส่งผลกระทบต่อพื้นที่อื่นๆ เพิ่มมากขึ้น หรือส่งผลทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคของประชาชน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากร น้ำบาดาล พร้อมระดมสรรพกำลังเครื่องจักรและบุคลากรเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันที ซึ่งปัจจุบัน มีหน่วยเจาะบ่อน้ำบาดาลที่ดำเนินการในพื้นที่ลุ่มน้ำภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง จำนวน 65 หน่วย สามารถระดมหน่วยเจาะบ่อน้ำบาดาลเพิ่มขึ้นได้อีก 15 หน่วย รวมเป็น 80 หน่วย ส่วนหน่วยติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฟฟ้า ของบ่อสังเกตการณ์ ปัจจุบันดำเนินการอยู่ในพื้นที่ 40 หน่วย สามารถระดมหน่วยติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฟฟ้าเพิ่มขึ้นได้อีก 10 หน่วย รวมเป็น 50 หน่วย นอกจากนี้ ยังมีรถปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาล 18 คัน สามารถรับน้ำจากบ่อสังเกตการณ์ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 1,069 บ่อ หรือจากจุดจ่ายน้ำถาวรทั่วประเทศ จำนวน 87 แห่ง บรรทุกน้ำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนในพื้นที่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคได้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันมีพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งซ้ำซากต่อเนื่อง 5 ปี จำนวน 2,214 หมู่บ้าน กรมทรัพยากรน้ำบาดาลมีแนวทางให้ความช่วยเหลือโดยมีการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2557-2559 รวมจำนวนทั้งสิ้น 202 แห่ง (ปรับปรุงบ่อสังเกตการณ์เป็นบ่อผลิต 191 แห่ง และบ่อน้ำบาดาลที่เป็นจุดจ่ายน้ำถาวร 11 แห่ง) นอกจากนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มีแผนดำเนินการเจาะบ่อน้ำบาดาลเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบภัยแล้ง เสนอต่อคณะกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดยมีพื้นที่เป้าหมาย 1,173 แห่ง ซึ่งได้ตรวจสอบความซ้ำซ้อนกับโครงการของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลแล้วพบว่า มีความ ซ้ำซ้อนกัน จำนวน 201 แห่ง และไม่มีศักยภาพน้ำบาดาล จำนวน 61 แห่ง ดังนั้น กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย สามารถพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลได้ จำนวน 911 แห่ง ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 1,101 แห่ง จะเป็นหน้าที่ของกรมทรัพยากรน้ำ ที่จะดำเนินการสำรวจเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภัยแล้งซ้ำซากต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง