เริ่มต้นควอลิฟายในเช้าวันเสาร์ แซนดี้ได้กริดสตาร์ทที่ 17 ด้วยเวลา 1.35.090 ห่างจาก ลูก้า จิออตโต้ (Luca Ghiotto) ที่ได้โพลโพซิชั่น เพียง 1.061 วินาที
เรสที่ 1 – โชคไม่เข้าข้าง รถของแซนดี้เกือบไม่ได้ลงแข่ง เนื่องจากสวิตช์จุดระเบิดหลวม เกิดความผิดพลาดขึ้นในเครื่องยนต์ ทีมช่างพยายามแก้ไขวงจรไฟเพื่อให้ออกสตาร์ทได้ ในขณะที่ผู้เข้าแข่งขันคันอื่นขับทิ้งห่างไปแล้วถึง 2 แลป เมื่อลงสนามสู่แข่ง แซนดี้ได้พยายามอย่างสุดความสามารถ โชว์ฟอร์มเด่น ด้วยการทำเวลาเร็วสูงสุดต่อรอบได้หลายครั้ง เนื่องจากห่างกันถึง 2 แลป จึงยากเกินกว่าที่จะแซงหรือขึ้นอับดับได้ แซนดี้จึงจบลงด้วยอันดับที่ 22 ในขณะที่ อันดับ 1 -2 -3 เป็นของ ลูก้า จิออตโต้, เอสเทอบาน โอคอน (Esteban Ocon) และ มาร์วิน เคิร์ชฮอฟเฟอร์ (Marvin Kirchhofer) ตามลำดับ แซนดี้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า "อันที่จริงผมรู้สึกว่าผมได้พัฒนาตัวเองขึ้นมากจากสนามที่แล้วที่ซิลเวอร์สโตน มาครั้งนี้พร้อมที่จะทำคะแนนเพิ่มกลับไปให้ได้ มันเป็นโชคไม่ดีที่เกิดขึ้นได้กับรถ ผมก็เลยถือเป็นโอกาสที่ได้ทดสอบยางอย่างเต็มที่ เห็นความคืบหน้าได้อย่างชัดเจนขึ้นมาก แน่นอนว่าสำหรับการแข่งในเรสที่ 2 มันก็จะเป็นเรื่องของการพัฒนาตัวเอง ที่ผมจะพยายามให้เต็มที่และดีที่สุดว่าจะไต่จากอันดับท้ายสุด ขึ้นมาได้สักกี่อันดับ"
เรสที่ 2 - เริ่มขึ้นในเช้าวันอาทิตย์ แซนดี้ออกสตาร์ทจากอันดับสุดท้าย สตาร์ทผ่านไปไม่กี่โค้ง ก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ทำให้รถเซฟตี้คาร์ออกมานำ เมื่อกลับสู่การแข่งขันอีกครั้ง แซนดี้พยายามอย่างหนัก ไล่แซงขึ้นมาทีละอันดับ จากอันดับที่ 22 ไต่ขึ้นมาจนถึงที่อันดับที่ 14 และกรรมการตีธงสิ้นสุดการแข่งขันอันดุเดือด อันดับ 1 เป็นของ เควิน เค็คคอน (Kevin Ceccon) อันดับ 2 และ 3 เป็นของ เอสเทอบาน โอคอน (Esteban Ocon) และ จิมมี่ อิริคสัน (Jimmy Eriksson) ตามลำดับ แซนดี้กล่าวว่า "ความจริงน่าจะทำผลงานได้ดีกว่านี้ ถ้าเริ่มต้นออกสตาร์ทดีกว่านี้ แต่การไต่ขึ้นอันดับ 10 ก็ต้องยอมรับว่าไม่ง่ายถ้าเราต้องออกสตาร์ทจากคันสุดท้าย"
สนามที่ 5 จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 21-23 สิงหาคม ที่ สปา ฟรองคอฌองส์ ประเทศเบลเยียม สนามแห่งประวัติศาสตร์ ที่ผ่านมาแซนดี้เคยทำผลงานได้ดีที่สนามนี้ แซนดี้จึงคาดหวังเป็นอย่างสูงที่จะคว้าคะแนนสะสมเพิ่มได้สำเร็จ