พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า กรณี ด.ญ. อายุ ๗ ขวบ ถูกพ่อ อายุ ๓๓ ปี ที่เมาสุราเป็นประจำ ทำร้ายร่างกายโดยทุบตีที่ใบหน้าและตามลำตัว ซึ่งแม่พยายามเข้าช่วยเหลือแล้วถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน จากนั้น นำไปแจ้งความ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ไม่สามารถดำเนินคดีได้ ที่จังหวัดกำแพงเพชร ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกำแพงเพชร (พมจ.กำแพงเพชร) เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจ ของกระทรวงฯ พร้อมทั้งช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็กโดยด่วน และกรณี หญิงชรา อายุ ๗๕ ปี พิการทางสายตา และเดินไม่ได้มานานกว่า ๑๕ ปี ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ มีเนื้อตัวมอมแมมเพราะไม่ได้อาบน้ำมานานกว่าสิบปี ต้องอาศัย ลูกชายสติไม่ดีไปขอข้าววัดมากินเพื่อประทังชีวิต ที่จังหวัดอุบลราชธานี ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์จังหวัดอุบลราชธานี (พมจ.อุบลราชธานี) เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น ตามภารกิจด้านคนพิการและผู้สูงอายุของกระทรวงฯ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลในเรื่องการรักษาพยาบาลหญิงชราและลูกชายในระยะยาวต่อไป
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณี โลกออนไลน์โพสต์เรื่องราวน่าเหลือเชื่อนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างดีในโรงเรียนวัดท่าไชย (ประชานุกูล) จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นเด็กพิการหูหนวกและเป็นใบ้ แต่สามารถเรียนกับเพื่อนได้อย่างเป็นปกติ อีกทั้งเป็นนักกิจกรรมและมีความสามารถพิเศษ ทำให้ได้รับรางวัลแชมป์คัดลายมือระดับประเทศ ตนขอชื่นชมชมนักเรียนหญิงคนดังกล่าวมีความสามารถพิเศษจนเป็นที่ยอมรับและยกย่องจากสังคม อันเป็นแบบอย่างที่ดีของเยาวชนพิการไทยที่ใช้ความสามารถพิเศษเป็นเครื่องพิสูจน์ตนเอง อีกทั้งสามารถใช้ชีวิตประจำวันร่วมกับบุคคลทั่วไปได้อย่างเป็นปกติสุข