นายกิตติโชค แซ่ว่อง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ซีพีเอฟ กล่าวว่า โครงการ “นักสืบสายน้ำ” เป็นโครงการที่สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งสถานศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ประกอบการ ที่ตระหนักถึงความสำคัญของลำน้ำมูลที่อยู่คู่ชุมชนมาเป็นเวลานาน ซึ่งลำน้ำมูลแห่งนี้เป็นแม่น้ำสายหลักของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยต้นกำเนิดอยู่ในเขตจังหวัดนครราชสีมาและปราจีนบุรี มีชุมชนอาศัยและทำการเกษตรอยู่ทั้งสองฝั่งของลำน้ำทั้งตอนบนและตอนล่าง โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ซีพีเอฟ จังหวัดนครราชสีมาตั้งอยู่ระหว่างตอนกลางของลำน้ำ ซึ่งจะเห็นได้ว่าทุกภาคส่วนได้ประโยชน์จากลำน้ำแห่งนี้ ซีพีเอฟจึงเกิดแนวคิดว่าเมื่อเราได้ประโยชน์เราควรช่วยกันรักษา จึงเป็นที่มาของโครงการที่คัดเลือกน้อง ๆ ในชุมชน เข้ามาเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งการสังเกตแม่น้ำและสภาพโดยรอบว่ามีสิ่งสกปรกถูกปล่อยลงสู่แหล่งน้ำหรือไม่ สอนวิธีการสังเกตสิ่งมีชีวิตรอบๆ บริเวณแหล่งน้ำ โดยหวังว่าน้อง ๆ ที่เข้าร่วมโครงการจะถ่ายทอดความรู้ให้กับเพื่อน ๆ เป็นแนวร่วมในการป้องกันรักษาลำน้ำ ก่อเกิดความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการทำประโยชน์ให้กับชุมชนของตน
“ซีพีเอฟได้จัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการตรวจวัดคุณภาพน้ำทางกายภาพ ทางเคมี และทางชีวภาพ พร้อมสอนใช้เครื่องมือ DO Meter ในการวัดปริมาณอ็อกซิเจนที่ละลายในน้ำ เครื่องวัด PH ที่บ่งบอกความเป็นกรด-ด่างของแหล่งน้ำ เพื่อชี้วัดความสกปรกของน้ำ โดยในปีนี้ได้คัดเลือกน้อง ๆ จากโรงเรียนบ้านหนองเสาเดียว โรงเรียนบ้านกุดโบสถ์ และโรงเรียนบ้านดอนพราหมณ์ ในจังหวัดนครราชสีมา ร่วมโครงการซึ่งหวังว่าเยาวชนเหล่านี้จะเป็นเครือข่ายในการช่วยกันสอดส่องดูแลและเฝ้าระวัง เพื่อให้ลำน้ำมูลคงความสะอาด ปลอดภัย ชาวชุมชนสามารถใช้ได้ตลอดไป” นายกิตติโชค กล่าว
โครงการ “นักสืบสายน้ำ” เป็นกิจกรรมที่ซีพีเอฟดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ภายใต้โครงการรักษ์ลำน้ำมูล ซึ่งอยู่ในยุทธศาสตร์ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของซีพีเอฟ ด้าน “ดินน้ำป่าคงอยู่” ที่มุ่งอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งทรัพยากรธรรมชาติรอบรั้วสถานประกอบการ เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้คนรุ่นใหม่ในยุคนี้และคนรุ่นต่อไปในยุคหน้าได้มีทรัพยากรใช้อย่างยั่งยืนตลอดไป