ไทยจับมือมาเลย์-อินโดฯ เดินหน้าใช้ยางในประเทศเพิ่ม 10 % เพิ่มช่องทางตลาดให้เกษตรกรรายย่อย พร้อมดึงกลุ่ม CLMV ร่วมเป็นผู้ผลิตยางธรรมชาติ ขยายแนวร่วมสร้างอำนาจต่อรอง

อังคาร ๑๕ กันยายน ๒๐๑๕ ๐๙:๓๗
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยถึงผลการประชุมภาคีประเทศผู้ปลูกยางพารา 3 ประเทศ ครั้งที่ 25 หรือ The 25thMeeting of International Tripartite Rubber Council (ITRC) ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 10-11 กันยายน 2558 ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมITRC ซึ่งมีประเทศสมาชิก ได้แก่ มาเลเชีย อินโดนีเซีย และไทย ได้มีมติเห็นชอบร่วมกันกำหนดเป้าหมายขยายการใช้ยางพาราในแต่ละประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 10 % จากเดิมที่มีการใช้ไม่เกิน 5 % โดยให้แต่ละประเทศกำหนดมาตรการที่มีความชัดเจน เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้ยางธรรมชาติในประเทศมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพาตลาดส่งออก และช่วยให้เกษตรกรชาวสวนยางพารามีช่องทางทางการตลาดเพิ่มขึ้นด้วย

โดยแนวทางขยายการใช้ยางพาราในประเทศ ทั้ง 3 ประเทศเห็นตรงกันว่าสามารถใช้ยางพาราราดถนนทดแทนยางมะตอยได้ ซึ่งจะมีความคงทนสูงกว่า ขณะเดียวกันยังสามารถใช้ยางพาราปูพื้นสนามกีฬา สนามเด็กเล่น ตลอดจนใช้ปูพื้นคอกสัตว์เพื่อกันลื่นได้ ขณะที่มาเลเชียได้กำหนดให้สถานพยาบาลของรัฐใช้ถุงมือยางที่ทำจากยางพารา โดยมีการศึกษามาตรฐานถุงมือยางให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานความปลอดภัย

"นอกจากนี้ ที่ประชุมฯยังได้เร่งรัดการศึกษาวิจัยด้านคาร์บอนเครดิตของผลิตภัณฑ์ยางพาราแต่ละชนิด ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการปลูกสร้างสวนยางอย่างยั่งยืน พร้อมเปิดโอกาสให้สวนยางพาราเป็นส่วนหนึ่งของตลาดคาร์บอนเครดิต จะช่วยให้เกษตรกรรายย่อยมีรายได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน อีกทั้งยังจะปล่อยให้ราคายางพาราเป็นไปตามกลไกของตลาดปกติ และทั้ง 3 ประเทศยังมอบหมายให้กลุ่มผู้เชี่ยวชาญทำการศึกษารูปแบบและความเป็นไปได้ในการจัดตั้งตลาดยางพาราในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งคาดว่า ผลการศึกษาดังกล่าวจะเสร็จสิ้นในปี 2559?และเป็นตลาดสำหรับภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง" นายสมชาย กล่าว

รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวอีกว่า ในที่ประชุม ITRC ครั้งนี้ ยังได้หารือกับผู้แทนของกัมพูชาและเวียดนามซึ่งมีพื้นที่ปลูกยางเป็นจำนวนมากและมีความพร้อม ให้เข้าร่วมเป็นภาคีผู้ผลิตยางพาราด้วย ขณะที่ สปป.ลาว และเมียนมาร์ อยู่ระหว่างการตัดสินใจเข้าร่วมภาคีฯเช่นกัน ซึ่งคาดว่า การผนึกกำลังของประเทศผู้ผลิตยางพาราครั้งนี้ จะสามารถช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองทางการค้า และเป็นโอกาสดีที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวสวนยางพารารายย่อยให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้นในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๐:๕๙ อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud