Anheuser-Busch InBev ยื่นข้อเสนอควบรวมกิจการกับ SABMiller เพื่อตั้งบริษัทเบียร์ระดับโลกอย่างแท้จริง

พฤหัส ๐๘ ตุลาคม ๒๐๑๕ ๑๗:๕๗
การควบรวมกิจการจะก่อให้เกิดบริษัทสินค้าผู้บริโภคชั้นแนวหน้าของโลก

เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ พร้อมขยายความครอบคลุมของธุรกิจ

ข้อเสนอฉบับแก้ไขนี้ถือเป็นโอกาสทองสำหรับเหล่าผู้ถือหุ้นของ SABMiller ด้วยข้อเสนอซื้อหุ้นด้วยเงินสดในราคาสูงกว่าราคาปิด 44% และข้อเสนอ Partial Share Alternative ที่ให้ราคาสูงกว่าราคาปิด 28%

มุ่งเน้นทำธุรกิจในแอฟริกาใต้และทวีปแอฟริกา เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคตข้างหน้า

นำเสนอตัวเลือกที่มากขึ้นให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลก

Anheuser-Busch InBev หรือ AB InBev (Euronext: ABI) (NYSE: BUD) ยื่นข้อเสนอฉบับแก้ไขต่อคณะกรรมการบริหารบริษัท SABMiller plc หรือ SABMiller (LSE: SAB) (JSE: SAB) เพื่อควบรวมกิจการสองบริษัทและก่อตั้งบริษัทเบียร์แห่งแรกที่ทำธุรกิจครอบคลุมทั่วโลกอย่างแท้จริง

ข้อเสนอฉบับแก้ไขนำเสนอทางเลือกที่ดึงดูดใจแก่ผู้ถือหุ้นของ SABMiller

ข้อเสนอฉบับแก้ไขที่ AB InBev ได้ประกาศในวันนี้ (7 ต.ค.) ประกอบไปด้วยข้อเสนอซื้อกิจการของ SABMiller ในราคา 42.15 ปอนด์ต่อหุ้นด้วยเงินสด พร้อมข้อเสนอ Partial Share Alternative ซึ่งมีจำนวน 41% ของหุ้นทั้งหมดของ SABMiller ก่อนหน้านี้ทาง AB InBev ได้ยื่นข้อเสนอเป็นลายลักษณ์อักษรแก่ SABMiller เป็นการส่วนตัวถึงสองครั้งด้วยกัน โดยครั้งแรกยื่นข้อเสนอซื้อหุ้นในราคา 38.00 ปอนด์ต่อหุ้นด้วยเงินสด และครั้งที่สอง 40.00 ปอนด์ต่อหุ้นด้วยเงินสด อย่างไรก็ดี AB InBev รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่งที่ทางบอร์ดบริหารของ SABMiller ได้ปฏิเสธข้อเสนอทั้งสองครั้งโดยไม่ได้มีการทำข้อตกลงแต่อย่างใด

AB InBev เชื่อว่าข้อเสนอฉบับแก้ไขนี้น่าจะมีความดึงดูดใจเป็นอย่างมากต่อเหล่าผู้ถือหุ้นของ SABMiller และเป็นโอกาสทองที่ยากจะอดใจไหว ด้วยข้อเสนอซื้อหุ้นด้วยเงินสดในราคาที่สูงกว่า 44% เมื่อเทียบกับราคาปิดของหุ้น SABMiller ที่ 29.34 ปอนด์ ณ วันที่ 14 กันยายน 2558 (วันทำการสุดท้ายก่อนที่ AB InBev จะทำข้อเสนอฉบับแก้ไข)

ข้อเสนอฉบับแก้ไขนี้ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้ดึงดูดใจมากขึ้นสำหรับบรรดาผู้ถือหุ้นของ SABMiller และเพื่อโน้มน้าวให้บริษัท Altria Group, Inc. และ BevCo Ltd. ลงทุนต่อไป (ทั้งสองบริษัทถือหุ้นของ SABMiller รวมกันราว 41%) AB InBev เชื่อว่าข้อเสนอดังกล่าวจะสอดรับกับความต้องการทางการเงินของสองบริษัทนี้ ที่สำคัญคือ ข้อเสนอ Partial Share Alternative ได้ช่วยให้การระดมทุนมีโอกาสประสบความสำเร็จ และช่วยให้ AB InBev สามารถยื่นข้อเสนอซื้อหุ้นด้วยเงินสดได้ในราคาสูงขึ้น สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนของ Partial Share Alternative และเงื่อนไขเบื้องต้นของข้อเสนอฉบับแก้ไขนี้ สามารถรับชมได้ด้านล่าง

AB InBev เชื่อว่าข้อเสนอซื้อหุ้นด้วยเงินสดฉบับแก้ไข ซึ่งเสนอไว้ที่ 42.15 ปอนด์ต่อหุ้นนั้น น่าสนใจพอที่ทางบอร์ดบริหารของ SABMiller จะให้การยอมรับ

โอกาสครั้งยิ่งใหญ่

การผนวกรวมกิจการของ AB InBev และ SABMiller จะก่อให้เกิดธุรกิจเบียร์ตัวจริงบนเวทีโลก ซึ่งจะก้าวขึ้นเป็นบริษัทสินค้าผู้บริโภคชั้นแนวหน้ารายหนึ่งของโลก แบรนด์ที่แข็งแกร่งขึ้นและธุรกิจที่มีความครอบคลุมมากขึ้นจะทำให้บริษัทที่เกิดขึ้นใหม่สามารถดำเนินธุรกิจในตลาดเบียร์ใหญ่ๆได้แทบทุกที่ในโลก ครอบคลุมถึงภูมิภาคเกิดใหม่ที่มีศักยภาพเติบโตสูงอย่างแอฟริกา เอเชีย อเมริกากลาง และอเมริกาใต้

หากมีการควบรวมกิจการเกิดขึ้น บริษัทใหม่แห่งนี้จะทำรายได้ถึง 6.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วย EBITDA ที่ 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ[1] AB InBev เชื่อว่าการทำธุรกรรมครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค ผู้ถือหุ้น พนักงาน ผู้ค้าส่ง หุ้นส่วนธุรกิจ และชุมชนที่บริษัททั้งสองดำเนินงาน

"เรามีความเคารพเป็นอย่างสูงต่อ SABMiller รวมถึงพนักงานและคณะผู้บริหารของบริษัท เราเชื่อว่าการผนวกรวมสองบริษัทที่มีความยิ่งใหญ่เช่นนี้ จะก่อให้เกิดบริษัทเบียร์รายแรกที่ก้าวไกลในระดับโลกอย่างแท้จริง" Carlos Brito ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Anheuser-Busch InBev กล่าว "ทั้งสองบริษัทมีวัฒนธรรมเบียร์ที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับต้นๆของโลก ทั้งยังมีความหลงใหลในการทำเบียร์เช่นเดียวกัน และทุ่มเทในด้านคุณภาพมาอย่างยาวนาน การผสานมรดกตกทอดตลอดจนแบรนด์และบุคลากรของเราเข้าด้วยกัน จะทำให้ลูกค้าของเรามีโอกาสมากขึ้นในการลิ้มรสและเพลิดเพลินกับเบียร์ชั้นเลิศของโลก นอกจากนี้ ทั้งสองบริษัทยังมุ่งมั่นทำประโยชน์ให้กับชุมชนที่เราดำเนินงานและดำรงชีวิตในฐานะสององค์กรชั้นนำของโลก พูดง่ายๆคือ เราเชื่อว่าการควบรวมกิจการกันจะทำให้ประสบความสำเร็จมากกว่าการอยู่เป็นบริษัทเดี่ยว ช่วยให้เบียร์ของเราเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น และเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นด้วย"

ผนวกรวมเพื่อสร้างโอกาสมหาศาลในการเติบโต เพื่อประโยชน์ของผู้มีส่วนร่วมทั่วโลก

การรวมตัวกันของ AB InBev และ SABMiller จะสร้างโอกาสมหาศาลในการเติบโต ด้วยการจัดจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ใหม่ผ่านเครือข่ายกระจายสินค้าที่มีความครอบคลุมกว่าเดิม และจากการผสานแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ดีที่สุดของทั้งสองบริษัทในองค์กรที่ก่อตั้งใหม่ นอกจากนี้ ประสบการณ์อันโชกโชนในการสร้างแบรนด์ ประกอบกับความสำเร็จในการสั่งสมชื่อเสียงในระดับประเทศ ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่นำมาซึ่งความสำเร็จของทั้ง AB InBev และ SABMiller

แบรนด์ระดับโลกและท้องถิ่นที่จะเพิ่มขึ้นจากการผนวกรวมกิจการครั้งนี้ จะมอบทางเลือกที่มากขึ้นให้แก่บรรดาคอเบียร์ทั้งในตลาดใหม่และตลาดเดิมทั่วโลก นอกจากนี้ การผสานศักยภาพของทั้งสองบริษัทจะก่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ อันจะนำไปสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้บริโภคทั่วโลก

ประโยชน์จากการควบรวมกิจการมีให้เห็นแล้วในอดีต โดยหลังจากควบรวมกิจการกับ Anheuser-Busch ทาง AB InBev ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในการพัฒนาแบรนด์ Budweiser ในตลาดโลก โดยปัจจุบันมียอดขายทั่วโลกเกินครึ่งหนึ่งของยอดขายทั้งหมด

สร้างบุคลากรมากความสามารถที่เป็นเลิศในระดับโลก

AB InBev เชื่อว่า การผนวกรวมกับ SABMiller จะก่อให้เกิดบริษัทสินค้าผู้บริโภคที่มีความเหนือชั้นในระดับโลก เนื่องจากจะมีการผสานทักษะ ความกระตือรือร้น ความมุ่งมั่น พลัง และแรงผลักดันของทีมบุคลากรมากความสามารถในระดับโลกจากทั้งสองบริษัท

AB InBev เป็นองค์กรระดับนานาชาติอย่างแท้จริง โดยมีผู้บริหารระดับสูงเกือบ 30 สัญชาติ ขณะที่ทีมบริหารมากประสบการณ์ของ SABMiller มาพร้อมกับความเชี่ยวชาญอันกว้างขวางในตลาดต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคที่ทาง AB InBev ยังไม่ได้วางรากฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง

ด้วยเหตุนี้ AB InBev จึงหวังว่าสมาชิกรายสำคัญในคณะผู้บริหารและพนักงานของ SABMiller จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นใหม่

ทวีปแอฟริกาจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทใหม่ โดยต่อยอดความแข็งแกร่งของ SABMiller ในภูมิภาค

ทวีปแอฟริกาเป็นตลาดที่น่าดึงดูดเป็นอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาจากจีดีพีที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการขยายตัวของชนชั้นกลาง และโอกาสทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น ทวีปแอฟริกาจะยังคงมีบทบาทสำคัญในอนาคตของบริษัทใหม่ โดยต่อยอดจากรากฐานอันแข็งแกร่งและความสำเร็จของ SABMiller ในภูมิภาค ที่ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 19 โดย AB InBev มีความตั้งใจที่จะจดทะเบียนตลาดรองในตลาดหลักทรัพย์โจฮันเนสเบิร์ก และยังมีแผนแต่งตั้งบอร์ดบริหารในพื้นที่ ซึ่งจะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จในอนาคตของบริษัทก่อตั้งใหม่

AB InBev ตั้งใจให้โจฮันเนสเบิร์กเป็นสถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคแอฟริกาเมื่อทั้งสองบริษัทรวมตัวกัน นอกจากนี้ AB InBev ยังเล็งเห็นถึงบทบาทของ SABMiller ในการสนับสนุนความก้าวหน้าของสังคมแอฟริกาใต้มาอย่างยาวนาน และยังมีความใกล้ชิดกับเหล่าผู้ถือผลประโยชน์ในพื้นที่ โดย AB InBev รู้สึกชื่นชมโครงการ Broad-Based Black Economic Empowerment ที่ทาง SABMiller ได้ริเริ่มขึ้น และตั้งใจว่าจะสานต่อโครงการนี้ต่อไป

เดินหน้าสร้างสรรค์โลกที่ดีกว่าร่วมกัน

ทั้งสองบริษัทต่างมีความมุ่งมั่นที่จะทำประโยชน์ให้แก่ชุมชนที่ดำเนินงานและดำรงชีวิตอยู่ ด้วยการนำเสนอโอกาสต่างๆตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่เกษตรกร ผู้กลั่นเบียร์ คนขับรถบรรทุก ไปจนถึงผู้บริโภค พร้อมยกระดับความรับผิดชอบต่อสังคมให้มีมาตรฐานสูงสุด

การควบรวมกิจการจะผนวกรวมทรัพยากรและความเชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัทเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่และมีความหมายยิ่งขึ้นต่อโลกใบนี้ โดยทั้งสองบริษัทมีโครงการสำคัญๆที่เกิดจากการร่วมมือกับเหล่าผู้ถือผลประโยชน์ เพื่อส่งเสริมการดื่มอย่างมีความรับผิดชอบ รวมถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในแง่ของทรัพยากรน้ำ พลังงาน และการรีไซเคิล ตลอดจนการพัฒนาชุมชนที่บริษัทดำรงชีวิตและดำเนินงาน

ประวัติความสำเร็จในการทำธุรกรรมและสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้น

AB InBev มีประวัติความสำเร็จอันยาวนานในการทำธุรกรรมและสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้น บริษัทประสบความสำเร็จในการทำธุรกรรมครั้งใหญ่หลายต่อหลายครั้งตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็บรรลุเป้าหมายและพันธกิจต่างๆอย่างต่อเนื่อง อันเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นทุกราย การควบรวมกิจการจะผนวกรวมทรัพยากรและความเชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัทเข้าไว้ด้วยกัน อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนทั่วโลกมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม

มุ่งมั่นทำงานเชิงรุกร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแล

ทั้งสองบริษัทดำเนินธุรกิจในระดับทวีปและภูมิภาค และ AB InBev จะประสานงานกับ SABMiller รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การทำธุรกรรมครั้งนี้ผ่านการรับรองของหน่วยงานกำกับดูแลอย่างเหมาะสมและทันเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกาและจีนนั้น บริษัทจะเคลียร์ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับสัญญาหรือการรับรองด้วยความรวดเร็วที่สุด เช่นเดียวกับในแอฟริกาใต้และพื้นที่อื่นๆ AB InBev จะประสานงานกับ SABMiller เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆของหน่วยงานกำกับดูแล

ข้อเสนอ Partial Share Alternative

ข้อเสนอฉบับแก้ไขนี้ประกอบด้วยข้อเสนอ Partial Share Alternative ที่ครอบคลุมหุ้นสูงสุด 326 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนราว 41% ของหุ้นทั้งหมดของ SABMiller ซึ่งหุ้นเหล่านี้เป็นหุ้นอีกประเภทหนึ่งของ AB InBev ("Restricted Share") โดยมีลักษณะดังต่อไปนี้

- เป็นหุ้นที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาด และไม่ได้รับอนุญาตให้ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ใดๆ

- มีระยะเวลา lock up นาน 5 ปีนับตั้งแต่บรรลุข้อตกลง

- สามารถแปลงเป็นหุ้นสามัญของ AB InBev แบบหนึ่งต่อหนึ่งหุ้น เมื่อพ้นระยะเวลา 5 ปีข้างต้น

- มีความเท่าเทียมกับหุ้นสามัญของ AB InBev ในด้านเงินปันผลและสิทธิในการออกเสียง

ในช่วงระยะเวลาก่อนแปลงเป็นหุ้นสามัญของ AB InBev ทางผู้ถือหุ้นของ SABMiller ที่เลือก Partial Share Alternative จะได้ถือหุ้น Restricted Share จำนวน 0.483969 หุ้น ต่อหุ้นสามัญของ AB InBev หนึ่งหุ้น[2] และยังได้รับเงินสด 2.37 ปอนด์ต่อหุ้น SABMiller หนึ่งหุ้น โดยเมื่ออ้างอิงจากราคาปิดของหุ้นสามัญของ AB InBev ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2558 ที่ 98.06 ยูโร จะพบว่า Partial Share Alternative ซึ่งรวมถึงเงินสด 2.37 ปอนด์ต่อหุ้น จะทำให้หุ้น SABMiller มีมูลค่า 37.49 ปอนด์ต่อหุ้น หรือมีมูลค่าสูงกว่าราว 28% เมื่อเทียบกับราคาปิดของหุ้น SABMiller ที่ 29.34 ปอนด์ ณ วันที่ 14 กันยายน 2558[3]

นั่นหมายความว่า มูลค่าของข้อเสนอ Partial Share Alternative ต่ำกว่ามูลค่าของข้อเสนอเงินสด แม้ว่าจะยังไม่พิจารณาถึงข้อเสียเปรียบของหุ้น Restricted Share ที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดและไม่สามารถโอนเปลี่ยนมือกันได้ โดย AB InBev จะไม่ขอรับคำแนะนำจากบอร์ดบริหารของ SABMiller ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Partial Share Alternative

AB InBev หวังว่าผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ของ SABMiller จะยอมรับข้อเสนอเงินสดที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า และถ้าต้องการก็สามารถนำเงินกลับมาลงทุนในหุ้นสามัญของ AB InBev ได้ ในขณะเดียวกันผู้ถือหุ้นของ SABMiller ก็สามารถเลือก Partial Share Alternative ได้เช่นกัน

เงื่อนไขก่อนการประกาศ

การประกาศทำธุรกรรมอย่างเป็นทางการจำเป็นต้องบรรลุเงื่อนไขดังต่อไปนี้

- การรับคำแนะนำจากบอร์ดบริหารของ SABMiller ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อเสนอเงินสด และการลงมติเห็นชอบการทำธุรกรรมจากสมาชิกบอร์ดบริหารของ SABMiller ในรูปแบบที่ AB InBev ยอมรับได้

- การลงมติเห็นชอบการทำธุรกรรมและการเลือกข้อเสนอ Partial Share Alternative โดยผู้ถือหุ้นใหญ่สองรายใน SABMiller ได้แก่ Altria Group, Inc. และ BevCo Ltd. ในรูปแบบที่ AB InBev ยอมรับได้

- การตรวจสอบฐานะหนี้สินและทรัพย์สินจนเป็นที่พอใจ

- การรับรองขั้นสุดท้ายจากบอร์ดบริหารของ AB InBev โดยบอร์ดบริหารของ AB InBev ให้การสนับสนุนข้อเสนออย่างเต็มที่ และหวังว่าจะให้การรับรองอย่างเป็นทางการทันที (เมื่อบรรลุเงื่อนไขข้างต้น) ก่อนที่จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการ

AB InBev สงวนสิทธิ์ในการยกเลิกเงื่อนไขบางส่วนหรือทั้งหมดในประกาศนี้

การทำธุรกรรมจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด และต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของทั้งสองบริษัท รวมทั้งได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลและต่อต้านการผูกขาดทั้งหมด

เมื่อพิจารณาในแง่ของกรอบเวลาสำหรับการได้รับการอนุมัติ AB InBev คาดการณ์ว่าจะดำเนินธุรกรรมแบบมีเงื่อนไขโดยสอดคล้องกับกฎหมาย The City Code on Takeovers and Mergers ("กฎหมาย")

สำหรับเงินสดในการทำธุรกรรมจะระดมจากแหล่งเงินทุนภายในบริษัท AB InBev ประกอบกับเงินกู้ล็อตใหม่จากบุคคลที่สามภายนอกองค์กร

ข้อเสนอนี้มิใช่ข้อผูกมัดว่า AB InBev จำเป็นต้องยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการในภายหลัง และมิใช่หลักฐานยืนยันเจตจำนงในการยื่นข้อเสนอภายใต้นิยามของกฎหมายข้างต้น ดังนั้น AB InBev จึงไม่ถือว่านี่เป็นการปูทางสู่การประกาศอย่างเป็นทางการตามมาตรา 2.2(a) ของกฎหมาย

ทั้งนี้ ยังไม่เป็นที่แน่นอนว่าจะมีการประกาศยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการ โดยจะมีการแถลงเพิ่มเติมตามความเหมาะสม

AB InBev ขอสงวนสิทธิ์ในการ

a) เสนอผลตอบแทนรูปแบบอื่นๆ และ/หรือ เปลี่ยนแปลงรายละเอียดของผลตอบแทน

b) ทำธุรกรรมผ่านทางหรือร่วมกับบริษัทในเครือของ AB InBev หรือบริษัทที่จะมาอยู่ในเครือของ AB InBev

c) ยื่นข้อเสนอ (ทั้งข้อเสนอเงินสดและ Partial Share Alternative) ให้แก่ SABMiller ด้วยเงื่อนไขที่ด้อยกว่าเดิมเมื่อใดก็ได้ หาก

(i) ได้รับความเห็นพ้องหรือคำแนะนำจากบอร์ดบริหารของ SABMiller

(ii) บุคคลที่สามแสดงเจตจำนงชัดเจนว่าต้องเสนอเงื่อนไขที่ด้อยกว่าเดิมให้แก่ SABMiller หรือ

(iii) SABMiller ประกาศทำธุรกรรม whitewash ตามกฎหมาย

d) ลดข้อเสนอ (ทั้งข้อเสนอเงินสดและ Partial Share Alternative) ในกรณีที่ SABMiller มีการประกาศหรือจ่ายเงินปันผล โดยจะลดข้อเสนอในจำนวนที่เท่ากับเงินปันผลนั้นๆ

AB InBev ได้ว่าจ้างบริษัท Lazard เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัท Freshfields Bruckhaus Deringer LLP เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย ในส่วนของข้อมูลในประกาศนี้

เว็บไซต์เฉพาะกิจและวิดีโอของซีอีโอ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม และวิดีโอของ Carlos Brito ซีอีโอ AB InBev ที่พูดถึงเรื่องการควบรวมกิจการ สามารถรับชมได้ที่ www.globalbrewer.com รวมถึงลิงค์วิดีโอ http://www.globalbrewer.com/home/#news-and-facts

รายละเอียดของการประชุมทางโทรศัพท์สำหรับนักลงทุนและนักวิเคราะห์

AB InBev จัดการประชุมทางโทรศัพท์ 2 รอบสำหรับนักลงทุนและนักวิเคราะห์ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

การประชุมทางโทรศัพท์สำหรับนักลงทุนและนักวิเคราะห์ #1

เวลา: 4.00 น. EDT / 9.00 น. BST / 10.00 น. CET

ลิงค์: http://cache.merchantcantos.com/webcast/webcaster/4000/7464/16532/52926/Lobby/default.htm

เบอร์โทรในสหราชอาณาจักร: +44 (0) 20 7192 8000

เบอร์โทรในสหรัฐอเมริกา: +1 866 966 1396

รหัสการประชุม: 56262876

การประชุมทางโทรศัพท์สำหรับนักลงทุนและนักวิเคราะห์ #2

เวลา: 8:30 น. EDT / 13.30 น. BST / 14.30 น. CET

ลิงค์: http://cache.merchantcantos.com/webcast/webcaster/4000/7464/16532/52927/Lobby/default.htm

เบอร์โทรในสหราชอาณาจักร: +44 (0) 20 7192 8000

เบอร์โทรในสหรัฐอเมริกา: +1 866 966 1396

รหัสการประชุม: 56267073

สามารถฟังการประชุมย้อนหลังและดูสำเนาการประชุมได้ที่ www.globalbrewer.com

รายละเอียดของการประชุมทางโทรศัพท์สำหรับสื่อมวลชน

AB InBev จัดการประชุมทางโทรศัพท์ 2 รอบสำหรับสื่อมวลชน ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

การประชุมทางโทรศัพท์สำหรับสื่อมวลชน#1

เวลา: 2.30 น. EDT / 7.30 น. BST / 8.30 น. CET

เบอร์โทรในสหราชอาณาจักร: +44 (0) 20 7192 8000

เบอร์โทรในสหรัฐอเมริกา: +1 866 966 1396

รหัสการประชุม: 56231478

การประชุมทางโทรศัพท์สำหรับสื่อมวลชน#2

เวลา: 9.30 น. EDT / 14.30 น. BST / 15.30 น. CET

เบอร์โทรในสหราชอาณาจักร: +44 (0) 20 7192 8000

เบอร์โทรในสหรัฐอเมริกา: +1 866 966 1396

รหัสการประชุม: 56244076

Lazard ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแต่เพียงผู้เดียวของ AB InBev และไม่ได้เป็นที่ปรึกษาให้กับบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในประกาศนี้ โดยไม่และจะไม่รับผิดชอบต่อบุคคลอื่นนอกเหนือไปจาก AB InBev ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องลูกค้าหรือให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเนื้อหาในประกาศนี้ ในที่นี้ "Lazard" หมายถึงบริษัท Lazard Freres & Co. LLC และ Lazard & Co., Limited โดย Lazard & Co., Limited ได้รับอนุญาตและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Financial Conduct Authority แห่งสหราชอาณาจักร ทั้ง Lazard และบริษัทในเครือไม่มีภาระผูกพันธ์หรือยอมรับในพันธะ หนี้สิน หรือความรับผิดชอบใดๆ (ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ไม่ว่าตามสัญญา การละเมิด ภายใต้กฎหมาย หรืออื่นใด) ต่อบุคคลใดๆที่ไม่ใช่ลูกค้าของ Lazard ที่เกี่ยวข้องกับประกาศนี้หรือเนื้อหาในประกาศนี้

Deutsche Bank AG ได้รับอนุญาตภายใต้กฎหมายการธนาคารของเยอรมนี (พนักงานเจ้าหน้าที่: ธนาคารกลางยุโรป) และในสหราชอาณาจักรโดย Prudential Regulation Authority และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารกลางยุโรปและ BaFin ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินแห่งชาติของเยอรมนี และในสหราชอาณาจักรอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Prudential Regulation Authority และ Financial Conduct Authority สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับขอบเขตอำนาจและกฎระเบียบของ Prudential Regulation Authority และ Financial Conduct Authority สามารถขอได้จาก www.db.com/en/content/eu_disclosures.htm

Deutsche Bank AG ซึ่งดำเนินงานผ่านทางสาขาในลอนดอน ("DB") ทำหน้าที่เป็นบริษัทโบรกเกอร์ให้กับ AB InBev และไม่ได้ทำหน้าที่ให้กับบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับประกาศนี้หรือเนื้อหาในประกาศนี้ DB ไม่รับผิดชอบต่อบุคคลใดๆนอกเหนือไปจาก AB InBev ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องลูกค้าหรือให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเนื้อหาในประกาศนี้ DB และบริษัทในเครือ สาขา หรือบริษัทในเครือของสาขา หรือคณะกรรมการ เจ้าหน้าที่ ตัวแทน พนักงาน ที่ปรึกษา หรือนายหน้าของบริษัท ไม่มีภาระผูกพันธ์หรือยอมรับในพันธะ หนี้สิน หรือความรับผิดชอบใดๆ (ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ไม่ว่าในสัญญา การละเมิด ภายใต้กฎหมาย หรืออื่นใด) ต่อบุคคลใดๆที่ไม่ใช่ลูกค้าของ DB ที่เกี่ยวข้องกับประกาศนี้ เนื้อหาในประกาศนี้หรือที่อื่นๆ

ภายใต้มาตรา 2.6(a) ของกฎหมาย AB InBev จะต้องประกาศเจตจำนงของบริษัทในการยื่นข้อเสนอต่อ SABMiller ตามมาตรา 2.7 ของกฎหมาย หรือประกาศว่าจะไม่ยื่นข้อเสนอต่อ SABMiller ภายในเวลา 17.00 น. ของวันพุธที่ 14 ตุลาคม 2558 โดยเมื่อมีการประกาศจะถือว่ามาตรา 2.8 ของกฎหมายมีผลบังคับใช้ สำหรับเส้นตายดังกล่าวสามารถเลื่อนได้ต่อเมื่อได้รับการยินยอมจาก SABMiller และ Takeover Panel ภายใต้มาตรา 2.6(c) ของกฎหมาย

รับชมข่าวประชาสัมพันธ์ในภาษาอังกฤษ ดัทช์ และฝรั่งเศส ได้ที่ www.ab-inbev.com

หมายเหตุ

การเปิดเผยข้อมูลตามบทบัญญัติของกฎหมาย

ภายใต้มาตรา 8.3(a) ของกฎหมาย บุคคลใดที่มีความสนใจในหลักทรัพย์ประเภทใดก็ตามที่เกี่ยวข้อง ในสัดส่วนตั้งแต่ 1% ขึ้นไป ของบริษัทที่ได้รับข้อเสนอหรือของผู้ยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ (ผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่นนอกเหนือจากผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้ประกาศไปแล้วว่า ข้อเสนอของบริษัทเป็นหรือมีแนวโน้มว่าจะเป็นเงินสดเพียงอย่างเดียว) จะต้องทำ Opening Position Disclosure หลังเข้าสู่ช่วงการยื่นข้อเสนอ ไม่เช่นนั้นก็หลังการประกาศระบุตัวผู้ยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์เป็นครั้งแรก Opening Position Disclosure จะต้องประกอบไปด้วยรายละเอียดผลตอบแทนที่บุคคลได้รับ รวมถึงสถานะการขายและสิทธิในการจดทะเบียนหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องของ (i) บริษัทที่ได้รับข้อเสนอ และ (ii) ผู้ยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ การทำ Opening Position Disclosure โดยบุคคลตามมาตรา 8.3(a) จะต้องดำเนินการไม่เกินเวลา 15.30 น. (ตามเวลาลอนดอน) ของวันทำการที่ 10 ภายหลังเข้าสู่ช่วงการยื่นข้อเสนอ มิเช่นนั้นก็ไม่เกินเวลา 15.30 น. (ตามเวลาลอนดอน) ของวันทำการที่ 10 หลังการประกาศระบุตัวผู้ยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์เป็นครั้งแรก สำหรับบุคคลที่ทำการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องของบริษัทที่ได้รับข้อเสนอหรือของผู้ยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ ก่อนถึงเส้นตายในการทำ Opening Position Disclosure จะต้องทำ Dealing Disclosure แทน

ภายใต้มาตรา 8.3(b) ของกฎหมาย บุคคลใดที่มีความสนใจในหลักทรัพย์ประเภทใดก็ตามที่เกี่ยวข้อง ในสัดส่วนตั้งแต่ 1% ขึ้นไป ของบริษัทที่ได้รับข้อเสนอหรือของผู้ยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ จะต้องทำ Dealing Disclosure หากบุคคลดังกล่าวทำการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องของบริษัทที่ได้รับข้อเสนอหรือของผู้ยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ Dealing Disclosure จะต้องประกอบไปด้วยรายละเอียดของการทำข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง ผลตอบแทนที่บุคคลได้รับ รวมถึงสถานะการขายและสิทธิในการจดทะเบียนหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องของ (i) บริษัทที่ได้รับข้อเสนอ และ (ii) ผู้ยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ เว้นแต่ว่ารายละเอียดดังกล่าวได้เปิดเผยไปก่อนหน้านี้แล้วภายใต้มาตรา 8 การทำ Dealing Disclosure โดยบุคคลตามมาตรา 8.3(b) จะต้องดำเนินการไม่เกิน 15.30 น. (ตามเวลาลอนดอน) ของวันทำการภายหลังวันที่มีการทำข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง

หากมีบุคคลตั้งแต่ 2 รายขึ้นไปดำเนินการร่วมกันตามข้อตกลงหรือบันทึกความเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือไม่เป็นทางการ เพื่อเข้าซื้อหรือควบคุมผลตอบแทนในหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องของบริษัทที่ได้รับข้อเสนอหรือผู้ยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ จะถือว่าเป็นบุคคลเดียวกันตามมาตรา 8.3

การทำ Opening Position Disclosures จะต้องดำเนินการโดยบริษัทที่ได้รับข้อเสนอและโดยผู้ยื่นข้อเสนอรายใดก็ตาม ขณะที่การทำ Dealing Disclosures จะต้องดำเนินการโดยบริษัทที่ได้รับข้อเสนอ ผู้ยื่นข้อเสนอรายใดก็ตาม หรือบุคคลใดก็ตามที่ดำเนินการเพื่อบุคคลดังกล่าว (ดูมาตรา 8.1, 8.2 และ 8.4)

รายละเอียดของบริษัทที่ได้รับข้อเสนอและบริษัทผู้ยื่นข้อเสนอที่มีหลักทรัพย์ที่ต้องทำ Opening Position Disclosures และ Dealing Disclosures สามารถดูได้ใน Disclosure Table บนเว็บไซต์ของ Takeover Panel ที่ www.thetakeoverpanel.org.uk ซึ่งรวมถึงรายละเอียดของจำนวนหลักทรัพย์ที่ต้องทำเมื่อเข้าสู่ช่วงการยื่นข้อเสนอ และเมื่อมีการประกาศระบุตัวผู้ยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์เป็นครั้งแรก กรุณาติดต่อแผนก Market Surveillance Unit ของ Takeover Panel ที่หมายเลข +44 (0)20 7638 0129 หากมีข้อสงสัยว่าตนเองต้องทำ Opening Position Disclosure หรือ Dealing Disclosure หรือไม่

ข้อความคาดการณ์อนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มี "ข้อความคาดการณ์อนาคต" ซึ่งอ้างอิงจากการคาดการณ์และมุมมองในปัจจุบันของฝ่ายบริหารของ AB InBev ที่มีต่อเหตุการณ์และแนวโน้มในอนาคต โดยมีทั้งความไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลง ข้อความคาดการณ์อนาคตในข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วย ข้อความที่เกี่ยวข้องกับข้อเสนอของ AB InBev ต่อบอร์ดบริหารของ SABMiller รวมถึงข้อความอื่นๆที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงในอดีต ข้อความคาดการณ์อนาคตมักจะใช้คำว่า "จะ" "อาจจะ" "ควรจะ" "เชื่อว่า" "ตั้งใจ" "คาดการณ์" "คาดหวัง" "ตั้งเป้า" "ประเมิน" "มีแนวโน้ม" "คาดคะเน" หรือคำศัพท์อื่นๆที่มีความหมายในทำนองเดียวกัน ข้อความคาดการณ์อนาคตอาจรวมถึงข้อความที่เกี่ยวข้องกับการคาดการณ์ลักษณะของบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบรวม, การถือครองหุ้นในบริษัทที่เกิดจากการควบรวมโดยผู้ถือหุ้นของ AB InBev และ SABMiller, การคาดการณ์เกี่ยวกับการเขาถึงลูกค้าของบริษัท, การคาดการณ์เกี่ยวกับผลประโยชน์จากการทำธุรกรรม และการระดมทุนเพื่อทำธุรกรรม ข้อความทั้งหมดที่มิใช่ข้อเท็จจริงในอดีตถือเป็นข้อความคาดการณ์อนาคต ซึ่งไม่ควรยึดถือมากเกินไป เพราะเป็นเพียงมุมมองในปัจจุบันของฝ่ายบริหารของ AB InBev ซึ่งมีทั้งความเสี่ยงและความไม่แน่นอนหลายประการเกี่ยวกับ AB InBev และ SABMiller และยังขึ้นกับหลายปัจจัย ซึ่งบางปัจจัยอยู่นอกเหนือการควบคุมของ AB InBev นอกจากนั้นยังมีปัจจัย ความเสี่ยง และความไม่แน่นอนที่สำคัญที่อาจเป็นสาเหตุให้ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงมีความแตกต่างอย่างมากจากที่คาดการณ์ ซึ่งรวมถึงความไม่แน่นอนที่ว่าการดำเนินการตามที่กล่าวถึงในที่นี้จะนำไปสู่การยื่นข้อเสนอหรือการบรรลุข้อตกลงหรือไม่ หรือความไม่แน่นอนของเงื่อนไขของข้อตกลง ตลอดจนความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ AB InBev ตามที่อธิบายไว้ใน Item 3.D ของรายงานประจำปี Form 20-F ที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ("SEC") ของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2558 นอกจากนั้นยังมีปัจจัยอื่นๆที่ไม่ทราบหรือไม่สามารถคาดเดาได้ ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงมีความแตกต่างอย่างมากจากที่กล่าวถึงในข้อความคาดการณ์อนาคต

ควรอ่านข้อความคาดการณ์อนาคตร่วมกับคำเตือนจากที่อื่นๆ ซึ่งรวมถึง Form 20-F ล่าสุดของ AB InBev, รายงาน Form 6-K และเอกสารอื่นๆที่ AB InBev หรือ SABMiller เปิดเผยต่อสาธารณะ ข้อความคาดการณ์อนาคตใดๆก็ตามในข่าวอยู่ภายใต้เงื่อนไขของแถลงการณ์การเตือนนี้ และไม่รับประกันว่าผลลัพธ์หรือแนวโน้มตามการคาดการณ์ของ AB InBev จะเกิดขึ้นจริง หรือหากเกิดขึ้นจริงก็ไม่รับประกันว่าจะมีผลต่อ AB InBev หรือธุรกิจหรือการดำเนินงานของบริษัทในแบบที่คาดการณ์ไว้หรือไม่ ทั้งนี้ AB InBev ไม่มีภาระผูกพันในการปรับปรุงหรือปรับทบทวนข้อความคาดการณ์อนาคตให้สะท้อนถึงข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามมาภายหลัง หรืออื่นใดก็ตาม เว้นแต่กฎหมายกำหนด

หมายเหตุถึงนักลงทุนในสหรัฐ

หาก AB InBev ทำการยื่นข้อเสนอต่อ SABMiller ผู้ถือหุ้นในสหรัฐของ SABMiller ควรรับทราบว่า ขั้นตอนต่างๆของการทำธุรกรรมที่ต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของ SABMiller อาจจะดำเนินการภายใต้แนวทางของสหราชอาณาจักรตามกฎหมายบริษัทของอังกฤษ หากเป็นเช่นนั้น คาดว่าหุ้นที่จะออกให้กับผู้ถือหุ้นของ SABMiller จะไม่อยู่ภายใต้ข้อบังคับการจดทะเบียนตามกฎหมายหลักทรัพย์สหรัฐปี 2476 มาตรา 3(a)(10) โดยจะอยู่ภายใต้ข้อกำหนดการเปิดเผยข้อมูลของสหราชอาณาจักร (ซึ่งแตกต่างจากของสหรัฐ) จึงต้องดำเนินการเสนอซื้อกิจการตามกฎหมายของอังกฤษแทน หุ้นที่มีการออกภายใต้การทำธุรกรรมดังกล่าวให้แก่ผู้ถือหุ้นของ SABMiller จะมีการจดทะเบียนภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ของสหรัฐ ซึ่งไม่มีข้อยกเว้นจากการจดทะเบียน หากการทำธุรกรรมดังกล่าวมีการดำเนินงานในรูปแบบข้อเสนอการซื้อกิจการของอังกฤษ ก็จะมีการปฏิบัติตามกฎระเบียบภายใต้กฎหมายแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์สหรัฐปี 2477 ซึ่งจะรวมถึงข้อยกเว้นที่กำหนดไว้ภายใต้มาตรา 14d-1(d)

เอกสารนี้มิใช่ข้อเสนอขายหรือชี้ชวนให้ซื้อหลักทรัพย์ใดๆ หรือเป็นการขายหลักทรัพย์ในเขตปกครองใดๆที่การเสนอ ชี้ชวน หรือการขาย อาจขัดต่อกฎหมายหากยังมิได้ทำการจดทะเบียนหรือได้รับการรับรองภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ของเขตปกครองนั้นๆ จะไม่มีการเสนอขายหลักทรัพย์ยกเว้นด้วยวิธีการทำหนังสือชี้ชวนตามมาตรา 10 ของกฎหมายหลักทรัพย์สหรัฐปี 2476 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม

รายชื่อสำหรับการติดต่อ Anheuser-Busch

สื่อมวลชน

Marianne Amssoms

โทร. +1-212-573-9281

อีเมล: [email protected]

Karen Couck

โทร. +1-212-573-9283

อีเมล: [email protected]

Kathleen Van Boxelaer

โทร. +32-16-27-68-23

อีเมล: [email protected]

Steve Lipin, Brunswick Group US

โทร. +1-212-333-3810

อีเมล: [email protected]

Richard Jacques, Brunswick Group UK

โทร +44-20-7404-5959

อีเมล: [email protected]

นักลงทุน

Graham Staley

โทร. +1-212-573-4365

อีเมล: [email protected]

Christina Caspersen

โทร. +1-212-573-4376

อีเมล: [email protected]

Heiko Vulsieck

โทร. +32-16-27-68-88

อีเมล: [email protected]

ที่ปรึกษาทางการเงิน - Lazard

William Rucker / Charlie Foreman

โทร. +44 20 7187 2000

โบรกเกอร์ - Deutsche Bank

Ben Lawrence / Simon Hollingsworth

โทร. +44 20 7545 8000

เกี่ยวกับ Anheuser-Busch InBev

Anheuser-Busch InBev เป็นบริษัทที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (Euronext: ABI) ที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองลูเวน ประเทศเบลเยียม และมีตราสาร American Depositary Receipts ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE: BUD) Anheuser-Busch InBev เป็นบริษัทเบียร์ระดับโลกและเป็น 1 ใน 5 บริษัทสินค้าผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดในโลก เบียร์ ซึ่งถือเป็นเครือข่ายทางสังคมยุคบุกเบิก สามารถดึงดูดผู้คนให้มารวมตัวกันมานานหลายพันปีแล้ว และผลิตภัณฑ์เบียร์มากกว่า 200 แบรนด์ของเรายังคงเดินหน้าสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงแบรนด์ระดับโลกอย่าง Budweiser(R), Corona(R) และ Stella Artois(R), แบรนด์ระดับนานาชาติอย่าง Beck's(R), Leffe(R), และ Hoegaarden(R) และแบรนด์ชั้นนำในประเทศอย่าง Bud Light(R), Skol(R), Brahma(R), Antarctica(R), Quilmes(R), Victoria(R), Modelo Especial(R), Michelob Ultra(R), Harbin(R), Sedrin(R), Klinskoye(R), Sibirskaya Korona(R), Chernigivske(R), Cass(R), และ Jupiler(R) ความทุ่มเทในเรื่องคุณภาพของ Anheuser-Busch InBev มีรากเหง้ามาตั้งแต่ 600 ปีที่แล้ว ณ โรงกลั่นเบียร์ Den Hoorn ในเมืองลูเวน ประเทศเบลเยียม รวมทั้งจิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกของ Anheuser & Co ที่มีต้นกำเนิดในเซนต์หลุยส์ สหรัฐอเมริกา มาตั้งแต่ปี 2395 Anheuser-Busch InBev ดำเนินธุรกิจในหลายภูมิภาคทั่วโลกอย่างสมดุลทั้งในตลาดที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา และมีเครือข่ายบุคลากรที่แข็งแกร่งราว 155,000 คนใน 25 ประเทศทั่วโลก ในปี 2557 AB InBev มีรายได้ 4.71 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ บริษัทมุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทเบียร์ที่ดีที่สุดที่นำผู้คนมารวมกันเพื่อโลกที่ดีกว่า สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ ab-inbev.com, facebook.com/ABInBev หรือทางทวิตเตอร์ที่ @ABInBevNews

ข้อมูลที่แนบมาประกอบไปด้วยข้อมูลตามที่บัญญัติไว้ในพระราชกฤษฎีกาของเบลเยียม ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2550 ว่าด้วยหน้าที่ของผู้ออกเครื่องมือทางการเงินที่ได้รับอนุญาตให้ทำการซื้อขายในตลาดที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล

ห้ามแจกจ่าย ตีพิมพ์ หรือเผยแพร่ข้อมูลทั้งหมดหรือบางส่วนในเขตปกครองที่การกระทำนี้จะเป็นการขัดต่อกฎหมายหรือข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องของเขตปกครองนั้นๆ

ประกาศนี้มิใช่ประกาศยืนยันเจตจำนงในการยื่นข้อเสนอภายใต้มาตรา 2.7 ของกฎหมายว่าด้วยการซื้อและควบรวมกิจการ และไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะมีการยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการหรือไม่

[1] ตัวเลขแสดงรายได้รวมและ EBITDA ของ (a) ช่วงเวลา 12 เดือนสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2558 (ในกรณีของ SABMiller) และ (b) ช่วงเวลา 12 เดือนสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 (ในกรณี AB InBev)

[2] ในกรณีที่มีการเลือก Restricted Share มากกว่า 326 ล้านหุ้น การเลือกจะถูกปรับลดลงตามสัดส่วน

[3] อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนที่ 1.3515 ยูโรต่อปอนด์ ซึ่งเป็นข้อมูลจากบลูมเบิร์ก ณ เวลา 16.30 น. BST ของวันที่ 6 ตุลาคม 2558

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๗ ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๑๗:๕๓ NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๑๗:๐๕ แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๑๗:๓๒ แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๑๗:๒๕ RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๑๗:๔๘ ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๑๗:๐๕ เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๑๗:๐๖ ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๑๗:๔๙ ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud
๑๗:๐๐ เปิดรับสมัครแล้ว HaadThip Fan Run 2024 แฟนรัน ฟันแลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์ หาดสมิหลา จ.สงขลา