คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว กำหนดมาตรการในการกำกับดูแลป้องกันการรั่วไหลข้าวเข้าสู่ระบบการค้าปกติ หลังเห็นชอบผลการประมูลข้าวผิดไปจากมาตรฐานฯ ล็อตแรกกว่า 3.7 หมื่นตัน ?

พุธ ๑๖ ธันวาคม ๒๐๑๕ ๐๙:๓๔
พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการนำข้าวไปใช้ในอุตสาหกรรมว่า ก่อนหน้านี้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว หรือ นบข. ได้เห็นชอบผลการประมูลข้าวผิดไปจากมาตรฐานในสต๊อคของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่เพื่อการบริโภคของคนหรือสัตว์ ครั้งที่ 1/2558 โดยมีผู้เสนอราคาซื้อสูงสุดจำนวน 2 รายเป็นผู้ประกอบกิจการเกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้าเพื่อการจำหน่าย และผู้ประกอบกิจการผลิตปุ๋ย เสนอในราคา 5,020-5,420 บาทต่อตัน ใน 10 คลัง 7 จังหวัด ปริมาณรวม 37,412 ตัน มูลค่า 198 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ ผู้เสนอซื้อจะต้องทำสัญญาซื้อขายข้าวกับองค์การคลังสินค้า (อคส.) หรือองค์การตลาดเพื่อเกษตร (อตก.) ภายใน 15 วัน /พร้อมทั้งยื่นแผนการขนย้ายข้าวและแผนการนำข้าวไปใช้ในอุตสาหกรรมตามที่ได้แจ้งไว้

อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันการรั่วไหลข้าวเข้าสู่ระบบการค้าปกติ และการเกิดผลกระทบต่อชื่อเสียงของข้าวไทย นบข. จึงได้กำหนดมาตรการในการกำกับดูแล โดยมอบหมายให้ อคส. เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการสุ่มตรวจการส่ง-มอบ ข้าวตามแผนการขนย้ายข้าวสาร/ รวมถึงให้ อคส. และ อตก. กำหนดเงื่อนไขและบทลงโทษในสัญญาซื้อขายข้าวสารในสต๊อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรม /นอกจากนี้ยังให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานในระดับจังหวัดเพื่อสุ่มตรวจสอบบัญชีคุมสินค้า ซึ่ง นบข. มั่นใจว่า จะสามารถควบคุมและกำกับดูแลไม่ให้ข้าวในโครงการเข้าสู่วงจรการค้าเพื่อการบริโภค ซึ่งจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับตลาดและผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ

สำหรับเรื่องที่จะเสนอ นบข. ในวันที่ 21 ธันวาคม 2558 จะเน้นเรื่องการพยุงราคาข้าว โดยจะเสนอให้ขยายระยะเวลาการเก็บสต๊อคข้าวของโรงสีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรับซื้อข้าว โดยรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยให้ในอัตราร้อยละ 3 ซึ่งคาดว่าเงินชดเชยจะอยู่ในวงเงิน 2 ล้าน 5 แสนบาท นอกจากนี้ จะเสนอให้ลดปัจจัยการผลิต โดยเฉพาะปุ๋ย จะลดราคากระสอบละ 10-30 บาท ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้ลดราคาปุ๋ยไปแล้ว 40-50 บาทต่อกระสอบ โดยหากผ่านความเห็นชอบ ราคาปุ๋ยจะลดลงจนถึงเดือนพฤษภาคม 2559 /ส่วนยาปราบศัตรูพืช จะลดราคาลงอีกร้อยละ 8-10 / รวมถึงค่าเช่ารถเกี่ยวข้าวและที่นา

สำหรับสถานการณ์ข้าว ผลผลิตข้าวเปลือกนาปี ปี 58/59 มีทั้งหมด 22.98 ล้านตัน แบ่งเป็นข้าวเปลือกหอมมะลิจำนวน 6 ล้านตัน และข้าวเปลือกเหนียวจำนวน 6.74 ล้าน ซึ่งทั้ง 2 ชนิดเก็บเกี่ยวแล้ว ขณะนี้เหลือเพียงข้าวเปลือกเจ้า 10.24 ล้านตัน ซึ่งคาดว่าผลผลิตของข้าวจำนวนนี้จะออกมาในช่วงเดือนธันวาคม 2558 - กุมภาพันธ์ 2559 ประมาณ 4-5 ล้านตัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๙ PROS จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2567 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวอนุมัติทุกวาระ
๐๙:๔๙ ซีพี - ซีพีเอฟ สนับสนุนโครงการ สานใจไทย สู่ใจใต้ รุ่นที่ 42 ส่งเสริมเยาวชนรุ่นใหม่ ตอบแทนคุณแผ่นดิน
๐๙:๑๓ นักวิชาการ TEI แนะมุมมองการสร้าง Urban Climate Resilience ต้องเร่งปรับตัวและเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
๐๙:๓๙ TEI เปิดวงเสวนา บทเรียนและทางออกการจัดการกากแคดเมียม ? พร้อมเร่งแก้ปัญหา โจทย์ใหญ่กากแคดเมียม จัดการอย่างไรให้ปลอดภัยและถูกต้อง
๐๙:๒๔ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต ร่วมกับกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้กับสตรีที่ด้อยโอกาสในโครงการส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรี ณ
๐๙:๑๑ เขตปทุมวันกำชับเจ้าของพื้นที่ตั้งวางสิ่งของ-อุปกรณ์การค้าริมกำแพงส่วนบุคคลให้เรียบร้อย
๐๙:๓๔ ม.หอการค้าไทย ปฐมนิเทศสำหรับผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านนวัตกรรมการบริการ รุ่นที่ 5 (Top Executive Program for Creative Amazing Thai Services :
๐๙:๐๒ เฮงลิสซิ่ง รับรางวัล หน่วยงานส่งเสริมสุขภาพการเงินพนักงาน ระดับดีเด่น โดย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
๐๙:๔๕ มูลนิธิเฮอริเทจ (ประเทศไทย) ส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดสมุทรสาคร
๐๙:๔๔ พาราไดซ์ พาร์ค ต้อนรับ The Little Gym เปิดสาขาที่ 3