นางสาวเพียงฝัน นาคสุขไพบูลย์ นักศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาชีวสารสนเทศและชีววิทยาระบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เป็นหนึ่งในตัวแทนประเทศไทยที่ได้รับคัดเลือกครั้งนี้ กล่าวว่า ได้มีโอกาสเข้าค่ายกับ dtac & Telenor Youth Forum ในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด "Knowledge for All" ซึ่งภายในค่ายกำหนดให้มีการนำเสนอหัวข้อที่สนใจและมีการคัดเลือกอยู่หลายรอบจนรอบสุดท้ายคณะกรรมการสากลจะเป็นผู้คัดเลือกตัวแทนประเทศไปร่วมงาน Telenor Youth Forum 2015 ณ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์
"งานนี้จัดขึ้นเพื่อให้ตระหนักว่าปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของโลกตอนนี้คือเรื่องความรู้ของเด็กไม่ว่าจะประเทศใดก็ตามปัญหาที่เกี่ยวกับเยาวชนคือเรื่องการศึกษา ซึ่งเรื่องที่เรานำเสนอนั้นก็เกี่ยวกับการศึกษาของคนพิการ โดยมีแรงบันดาลใจมาจากคนตาบอดที่เรียนหนังสือต้องมีคนธรรมดามาอ่านหนังสือให้ฟัง และหลายครั้งเห็นคนตาบอดถือกระป๋องใส่ตังแล้วก็เดินร้องเพลงไปตามร้านอาหาร ประเทศไทยมีคนประมาณเจ็ดสิบล้านคนแต่มีคนพิการที่ได้เรียนหนังสือจบสูงๆ เพียงไม่กี่คนเท่านั้น จึงเกิดแนวคิดว่าทำอย่างไรคนพิการจึงจะสามารถเลือกทางเดินชีวิตและทำตามความฝันของตัวเองได้เหมือนกับคนปกติทั่วไป จึงได้นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับนวัตกรรมการศึกษาเพื่อคนพิการโดยนำเทคโนโลยี 3D Printing เข้ามาร่วมในการเรียนวิชาต่างๆ"
เพียงฝัน กล่าวเพิ่มเติมว่า โปรเจกที่นำเสนอและทำให้ได้รับคัดเลือกในครั้งนี้มีชื่อว่า Solved เริ่มจากการใช้เทคโนโลยี 3D Printing มาใช้กับสิ่งต่างๆ ที่ต้องการเรียนรู้เพื่อให้คนพิการทางสายตาสามารถเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสผ่าน 3D Model จากนั้นใช้แอพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ 3D Model ทำงานด้วยระบบเสียงโดยการอธิบายออกมาเป็นเสียงได้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร ทำงานอย่างไร และมีหลักการทางวิทยาศาสตร์อย่างไร
"ที่นอร์เวย์เรามีโอกาสได้นำเสนอต่อหน้า Speakers ระดับโลกหลายคนเช่น Torbjorn Roe Isaksen รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาของนอร์เวย์ Jimmy Wales ผู้ก่อตั้งวิกิพีเดีย Johan Brand ผู้ก่อตั้งบริษัท Kahoot ซึ่งเป็นบริษัทที่สอนเรื่อง Active Learning ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งหลังจากที่เรานำเสนอเรียบร้อยก็ได้การตอบรับว่าเป็นแนวคิดที่มีความเป็นไปได้และจะทำให้เกิดความเท่าเทียมทางการศึกษา ดังนั้นตอนนี้จึงเป็นช่วงที่กำลังเก็บข้อมูลเพื่อนำมาใช้ในการต่อยอดสู่การใช้งานจริงในอนาคต"
นอกจากนั้น เพียงฝัน ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จากประสบการณ์ในการเข้าค่ายกับ dtac และการไปร่วมงาน Telenor Youth Forum 2015 ที่ประเทศนอร์เวย์ที่ผ่านมา การได้พบเจอและแลกเปลี่ยนความรู้และวัฒนธรรมกับเพื่อนต่างชาติ ต่างภาษาทำให้ได้รู้ว่าทุกประเทศมีปัญหาการศึกษาเหมือนกันหมดไม่ใช่แค่ประเทศไทย เพียงแค่ปัญหาที่ต่างกันออกไปเท่านั้น ดังนั้นคนรุ่นใหม่ นักเรียนรุ่นใหม่ไม่ควรเฝ้ารอการพัฒนาเรื่องความรู้จากระบบหรือกระทรวงต่างๆ แต่ควรเริ่มที่ตัวเองเพราะผู้เรียนเป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่าตัวเองต้องการอะไร
"สิ่งที่น่าภูมิใจที่สุดในการไปร่วมงาน Telenor Youth Forum ที่นอร์เวย์ครั้งนี้นอกจากการได้นำเสนองานต่อหน้าบุคคลสำคัญของโลกหลายคนแล้ว อีกสิ่งหนึ่งคือการได้รับเชิญไปร่วมงานประกาศผลรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ซึ่งเราเป็นหนึ่งในสองคนไทยที่ได้เข้าร่วมงานครั้งนี้ ซึ่งการได้ไปอยู่ในที่ๆ มีไม่กี่คนจะได้รับโอกาสแบบนี้ทำให้รู้สึกว่าเราต้องให้โอกาสกับความคิดเล็กๆ ของตัวเองเพราะในวันหนึ่งอาจเป็นความคิดที่เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นก็ได้ และสำหรับคนที่มีโอกาสได้เรียนหนังสือควรตั้งใจเรียนและหมั่นหาความรู้นอกห้องเรียนมากๆ เพราะมันช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้จริงๆ และอย่าลืมที่จะเผื่อแผ่ความรู้ให้กับคนที่ไม่มีโอกาสด้วย"