ปภ. รายงานมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง 13 จังหวัด พร้อมเร่งให้การช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง

อังคาร ๒๖ มกราคม ๒๐๑๖ ๑๓:๒๑
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) 13 จังหวัด รวม 60 อำเภอ 333 ตำบล 3,092 หมู่บ้านปภ.ได้ประสานจังหวัดแก้ไขปัญหาภัยแล้ง โดยใช้กลไก "ประชารัฐ" ในการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบและวางแผนจัดสรรน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด เน้นสร้างการรับรู้และความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำ และแผนการจัดสรรน้ำ รวมถึงรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนร่วมกันใช้น้ำที่มีปริมาณจำกัดให้มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามแผนที่กำหนด เพื่อให้มีน้ำอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้ง

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายพื้นที่ของประเทศได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง โดยปัจจุบันมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง)

13 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ และพะเยา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา นครพนม มหาสารคาม ขอนแก่น ร้อยเอ็ด และสุรินทร์ ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว ภาคกลาง 1 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี รวม 60 อำเภอ 333 ตำบล 3,092 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 4.12 ของจำนวนหมู่บ้านทั่วประเทศ ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานจังหวัดแก้ไขปัญหาภัยแล้ง โดยใช้กลไก "ประชารัฐ" ในการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบและวางแผนการจัดสรรน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด

เน้นสร้างการรับรู้และความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำ แผนการจัดสรรน้ำ มาตรการป้องกัน แก้ไขปัญหา และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยของภาครัฐ พร้อมบูรณาการความร่วมมือฝ่ายพลเรือนและหน่วยทหารลงพื้นที่สำรวจปริมาณน้ำตามแหล่งน้ำ ความต้องการใช้น้ำ และเฝ้าระวังบริเวณจุดเสี่ยงที่มักมีการลักลอบสูบน้ำและเกิดปัญหาแย่งน้ำ จัดทำประชาคมกำหนดกติกาการใช้น้ำให้เป็นไปอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม อีกทั้งรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนร่วมกันใช้น้ำที่มีปริมาณจำกัดให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งได้จัดรถบรรทุกน้ำแจกจ่ายน้ำบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งจัดทำบัญชีปริมาณน้ำในพื้นที่ เพื่อสนับสนุนการสูบน้ำดิบเข้าสู่ระบบประปาหมู่บ้านและถังน้ำกลางประจำหมู่บ้านให้ประชาชนได้ใช้อุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอ อย่างไรก็ตาม แม้ระยะนี้หลายพื้นที่จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง แต่ปริมาณฝนไม่มากเพียงพอที่จะเติมน้ำในเขื่อนและคลี่คลายสถานการณ์ภัยแล้ง ทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนและแหล่งน้ำสาธารณะยังต่ำกว่าเกณฑ์ค่าเฉลี่ย จึงขอให้ประชาชนจัดหา

ทำความสะอาด ซ่อมแซมภาชนะกักเก็บน้ำให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี เลือกใช้อุปกรณ์ประหยัดน้ำ สำรองน้ำไว้อุปโภคบริโภคและใช้น้ำ อย่างประหยัด ส่วนเกษตรกรควรติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ โดยเลือกปลูกพืชอายุสั้นที่ใช้น้ำน้อยแทนการทำนาปรัง เพื่อป้องกัน

มิให้ผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหาย จะช่วยให้มีน้ำอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้ง

0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๗ ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๑๗:๕๓ NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๑๗:๐๕ แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๑๗:๓๒ แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๑๗:๒๕ RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๑๗:๔๘ ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๑๗:๐๕ เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๑๗:๐๖ ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๑๗:๔๙ ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud
๑๗:๐๐ เปิดรับสมัครแล้ว HaadThip Fan Run 2024 แฟนรัน ฟันแลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์ หาดสมิหลา จ.สงขลา