ส.ป.ก. ขอชี้แจงกรณีเป็นข่าวเปิดโปงพฤติกรรมการฟอกป่า จังหวัดเพชรบูรณ์

ในปี พ.ศ.2551 เกษตรกรได้นำ ส.ป.ก. 4-01 ไปขึ้นทะเบียนสวนป่ากับกรมป่าไม้และได้รับการ ขึ้นทะเบียนแล้วแต่ภายหลังจากนั้น 3 วัน กรมป่าไม้ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการออก ส.ป.ก. 4-01 ในพื้นที่ RF จึงทำการยกเลิกการขึ้นทะเบียนสวนป่าดังกล่าว เกษตรกรจึงรวมตัวกันร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับผู้ตรวจ การแผ่นดิน และได้มีผลวินิจฉัยว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวประชาชนผู้ได้รับสิทธิได้ครอบครองและทำประโยชน์ โดยไม่เหลือสภาพป่าธรรมชาติอยู่ก็ไม่สมควรคืนพื้นที่ดังกล่าวให้กับกรมป่าไม้ แต่สมควรคืนสิทธิให้แก่ผู้ร้อง ส.ป.ก.เพชรบูรณ์จึงยังไม่ได้ดำเนินการเพิกถอน ส.ป.ก. 4-01 แต่อย่างใด โดยได้ถือตามผลการวินิจฉัยของผู้ตรวจ การแผ่นดินดังกล่าว

ในปี พ.ศ. 2556 กรมป่าไม้ได้ขอให้ ส.ป.ก. เพิกถอนหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ ส.ป.ก. 4-01 จำนวน 1 แปลง ซึ่งเป็นของนายสำเริง หอมจีนแต่เนื่องจากที่ดินบริเวณนั้นมีการออก ส.ป.ก. 4-01 ไปหลายแปลง หากจะเพิกถอนเพียงรายเดียวอาจถือได้ว่าเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมได้ ดังนั้น ส.ป.ก.เพชรบูรณ์จึงได้เตรียมการที่จะเสนอคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดทำการเพิกถอน ส.ป.ก. 4-01 ในพื้นที่ RF ทั้งหมด

ตามประเด็นที่เป็นข่าวว่าเจ้าหน้าที่ของ ส.ป.ก. ถูกกล่าวอ้างว่ามีส่วนร่วมอยู่ในกระบวนการฟอกสวนป่า ในรายการข่าว 3 มิติ เมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2559 ในครั้งนี้ส.ป.ก. เห็นว่ากรณีดังกล่าวไม่น่าจะเป็นขบวนการฟอกสวนป่าแต่อย่างไรเพราะที่ดินแปลงนี้ได้มีการออก ส.ป.ก. 4-01 โดยไม่ถูกต้องมาตั้งแต่ปี 2547 และมีความพยายามที่จะเพิกถอนแล้วในปี 2548 แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ แต่การตัดไม้ในที่ดินดังกล่าวได้เกิดขึ้น ในปี 2559 ซึ่งเป็นเวลามากกว่า 11 ปี คงไม่มีขบวนการทุจริตที่ไหนที่มีการวางแผนโดยใช้ระยะเวลายาวนานเช่นนี้ แต่เห็นว่าข้อเท็จจริงเป็นเรื่องที่เกษตรกร ได้ทำการปลูกไม้ในพื้นที่ที่ ส.ป.ก. เพชรบูรณ์ ได้ไปออก ส.ป.ก. 4-01 ในพื้นที่ RF โดยไม่ถูกต้อง แต่มิได้มีเจตนาทุจริตฟอกสวนป่าแต่อย่างไร ซึ่งในประเด็นการออก ส.ป.ก. 4-01 ที่ไม่ถูกต้องนี้ ส.ป.ก จะได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็วต่อไป โดยคาดว่าจะสอบสวนแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน และจะเร่งรัดให้ ส.ป.ก.จังหวัดทุกแห่งเร่งดำเนินการเพิกถอน ส.ป.ก. 4-01 ที่ออกในเขตป่าสงวนหรือพื้นที่กันคืนโดยเร็ว