พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า การแข่งขันกีฬาสามัคคีสำหรับเด็กและเยาวชนในความอุปการะของกระทรวงฯ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๔๗ เป็นต้นมา ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ ๑๒ โดยใช้ชื่อในการแข่งขันกีฬาครั้งนี้ว่า "ล้านนาเกมส์" ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด "สร้างเด็ก สร้างคน ช่วยตน ช่วยชาติ" โดยกำหนดจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ ๒ - ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ณ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ ๗๐๐ ปี อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นกิจกรรมภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนที่อยู่ในความอุปการะของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพ มีความสามารถ ไม่น้อยไปกว่าเด็กและเยาวชนอื่นๆ ในสังคม ทั้งนี้ ยังเป็นการสร้างโอกาสให้เด็กและเยาวชนในความอุปการะ ของกระทรวงฯ ได้มีโอกาสแสดงออกถึงศักยภาพและความสามารถด้านกีฬาของตนเอง อีกทั้งเป็นการสร้างกระบวนการเรียนรู้ การปลูกฝังความมีระเบียบวินัย การรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย และการมีน้ำใจนักกีฬา อันเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาทักษะชีวิต ให้แก่เด็กและเยาวชน ให้เติบโตขึ้นเป็นบุคคลที่มีคุณภาพของสังคมในอนาคต
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการจัดการแข่งขันกีฬาฯ ครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม รวมจำนวนทั้งสิ้นจำนวน ๒,๐๐๐ คน จาก ๓๐ หน่วยงาน ในสังกัดกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ทั่วประเทศ โดยแบ่งกลุ่มสีเป็น ๔ กลุ่มสี ได้แก่ สีฟ้า สีชมพู สีเขียว และสีส้ม และได้จัดแบ่งการแข่งขันกีฬาสากลเป็น ๖ ประเภท ได้แก่ ฟุตบอล วอลเล่ย์บอล แบดมินตัน เซปักตะกร้อ เปตอง และกรีฑา รวมทั้งการแข่งขันกีฬาอนุบาล การแข่งขันกองเชียร์ และการแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน "กีฬา...ฮาเฮ" นอกจากนี้ ยังได้จัดกิจกรรมสานสัมพันธ์ "กาดมั่ว ครัวฮอม" เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้เกิดปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นภาคเหนือ ทำกิจกรรรมร่วมบนเวที และกิจกรรมเครื่องเล่นต่างๆ ซึ่งนอกจาก จะเกิดความสนุกสนานแล้ว ยังก่อให้เกิดความผูกพัน ความรัก และความสามัคคีในหมู่คณะ
"กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีความมุ่งหวังให้เด็กและเยาวชนทุกคนที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันกีฬาในครั้งนี้ ได้ใช้เวลาที่อยู่ร่วมกันตลอดการจัดกิจกรรม ทุ่มเทความพยายาม ความสามารถอย่างเต็มที่ เรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้ และเป็นผู้รับ รู้จักการมีน้ำใจต่อกันผ่านการแข่งขันกีฬา รวมทั้งการร่วมสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในหมู่คณะ และมุ่งเน้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุกด้านแก่ตัวเด็กและเยาวชน ตลอดจนสามารถนำประสบการณ์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมไปปรับใช้ ในชีวิตประจำวันของตนเอง ซึ่งจะทำให้เด็กและเยาวชนเป็นบุคคลที่มีคุณภาพ และสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ต่อไปในอนาคต" พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวในตอนท้าย