นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยว่า งานแสดงสินค้า THAIFEX WORLD OF FOOD ASIA 2016 ในวันที่ 25-29 พฤษภาคมนี้ บริษัทได้นำสินค้าที่จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ทั้งหมด 14 แบรนด์ กว่า 200 รสชาติ อาทิ เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์, เซ็ปเป้ อโล เวร่า ดริ้งค์, โมกุ โมกุ, กาแฟเพรียว คอฟฟี่ น้ำผักผลไม้100% เซ็ปเป้ ฟอร์วันเดย์ เป็นต้น ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ชมและชิม นอกจากนี้ ยังถือโอกาสเปิดตัวสินค้าใหม่ 6 รสชาติ ภายใต้ 2 แบรนด์สินค้าอีกด้วย ในบรรยากาศบูธธีม The Edge of Future ที่สะท้อนให้เห็นถึงการสร้างสรรค์และการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อเตรียมตัวก้าวไปสู่ Global Brand ของเซ็ปเป้ โดยบูธเซ็ปเป้ อยู่ในตำแหน่งบูธ CC-01 อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ด้านภาพรวมการตลาด ในไตรมาสแรกปี 2559 ตลาดต่างประเทศมีการเติบโตอยู่ในระดับที่ดี สอดคล้องกับเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนตลาดเครื่องดื่มในประเทศ มีการแข่งขันสูงทั้งในด้านของโปรโมชั่นราคาและรายการส่งเสริมการขายที่ดุเดือดเพื่อช่วงชิงความเป็นผู้นำตลาดในช่วงหน้าร้อนซึ่งเป็นหน้าขาย ส่งผลตลาดเครื่องดื่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งที่ผ่านมา เซ็ปเป้ก็ออกแคมเปญใหม่ในกลุ่มสินค้าหลัก เพื่อกระตุ้นตลาดเช่นกัน โดยมุ่งเน้นการนำเสนอBenefits ที่โดนใจผู้บริโภค อาทิ แคมเปญ "แคลอรี่น้อย อร่อยแบบไม่ผสมน้ำตาล" ของเซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ ที่กระตุ้นผู้บริโภคให้เห็นความสำคัญของการดื่มเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ด้านสุขภาพและความงาม ทั้งยังมีแคลอรี่ต่ำ และไม่ผสมน้ำตาล กาแฟเพรียว คอฟฟี่ ที่ยังคงใช้กลยุทธ์มิวสิคมาร์เก็ตติ้งโดยมีกระแต อาร์สยามเป็นพรีเซ็นเตอร์ กับเพลงใหม่"สะบัด" ภายใต้แคมเปญ "ยิ่งร้อน ยิ่งเชค ยิ่งเพรียว" ด้วยการนำเสนอกาแฟเพรียวที่นำมาชงทานแบบเย็นได้ดีสำหรับหน้าร้อน และล่าสุดเซ็ปเป้ได้ออกสินค้าใหม่ "เซ็ปเป้ ฟอร์วันเดย์" น้ำผักผลไม้ 100% ที่ออกแคมเปญ"สุขภาพดีอย่ารอ" เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยสะท้อนวิถีชีวิตของคนที่ชอบผลัดวันประกันพรุ่งในการดูแลสุขภาพ ซึ่งทุกแคมเปญ ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี เพราะเป็นกลุ่มสินค้าที่ไม่มีการเติมน้ำตาลทราย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพและความงามเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ในปี 2558 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 2,625 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั้งในไทยและต่างประเทศ แต่เซ็ปเป้ยังคงสามารถยืนหยัดและผลักดันให้เกิดการเติบโตของธุรกิจเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง โดยในประเทศไทยสามารถก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในด้านส่วนแบ่งทางการตลาดใน 3กลุ่มผลิตภัณฑ์ ภายใต้ตราสินค้า อันได้แก่ เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ มีส่วนแบ่งการตลาด 33%, เซ็ปเป้ อโล เวร่า ดริ้งค์ มีส่วนแบ่งการตลาด 51%, และกาแฟเพรียว คอฟฟี่ มีส่วนแบ่งการตลาด 27%, ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ โมกุ โมกุ ยังคงได้รับการตอบรับอย่างต่อเนื่องในตลาดต่างประเทศ ซึ่งสามารถขยายตัวได้ดีในอีกหลายประเทศ พร้อมนำเสนอรสชาติใหม่ที่ถูกปากถูกใจผู้บริโภคทั่วโลก
สำหรับภาพรวมบริษัท ปัจุบันมีสินค้าวางจำหน่าย 14 แบรนด์สินค้า จำหน่ายในไทยและอีกเกือบ 70 ประเทศทั่วโลก บริษัทมีเป้าหมายที่จะผลักดันแบรนด์สินค้าไทยให้ก้าวไปในตลาดโลก โดยในปีนี้ ตั้งเป้ายอดขายรวมเติบโตDouble Digit Growth
"เซ็ปเป้ เรามุ่งมั่นพัฒนาสินค้า ตามพันธกิจที่จะตอบโจทย์อาหารและเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ ดังนั้น เราได้พัฒนาสินค้าโดยลดปริมาณการใช้น้ำตาลมาอย่างต่อเนื่องหลายปีแล้ว ซึ่งเราเป็นเพียงผู้ประกอบการเพียงไม่กี่รายที่สามารถพัฒนาเครื่องดื่มที่มีรสชาติดี โดยปราศจากน้ำตาล เราจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าที่เป็นนวัตกรรมที่ดีและมีคุณภาพต่อไป" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวเสริม