นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวถึงความร่วมมือกับบริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด ในครั้งนี้ว่า ไปรษณีย์ไทย ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่ง และให้บริการใกล้ชิดกับคนไทยมาอย่างยาวนาน พร้อมสนับสนุนการเติบโตของทุกธุรกิจแนวใหม่ อาทิ กลุ่มผู้ประกอบการ e-Commerce หรือ กลุ่มผู้ทำธุรกิจบนโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ค หรืออินสตาแกรม เป็นต้น
สำหรับบริการ "ส่งฟรีทั่วไทย" ของ ช้อปปี้ นั้น ไปรษณีย์ไทย ให้บริการจัดส่งสินค้าด้วยบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ EMS และส่งลงทะเบียน ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย โดยผู้ขายที่ลงทะเบียนขายสินค้าผ่านแอพลิเคชั่นช้อปปี้ สามารถใช้บริการไปรษณีย์เพื่อฝากส่งสินค้าไปยังผู้ซื้อได้ทุกที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ ซึ่งเชื่อว่าเครือข่ายที่ครอบคลุม และความน่าเชื่อถือในการจัดส่งสินค้าจะสามารถสร้างยอดขายในการทำธุรกิจของผู้ประกอบการ และผู้ซื้อก็จะได้รับสินค้าในราคาประหยัดลงอีกด้วย"
ด้าน คุณเทเรนซ์ แพง ผู้อำนวยการบริหารประจำภูมิภาค บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "สำหรับบริการส่งฟรีทั่วไทยของช้อปปี้ในครั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มโครงการถือว่าได้รับผลตอบรับดีมาก มีผู้สนใจใช้บริการถึง 95% รวมไปถึงยอดสั่งซื้อและจำนวนผู้ใช้งานแอพฯ ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนหนึ่งก็มาจากการเปิดบริการส่งฟรีทั่วไทยทั้ง EMS และลงทะเบียน ซึ่งทำให้ผู้ขายมีกำไรมากขึ้น ในขณะเดียวกันผู้ซื้อเองก็สามารถซื้อสินค้าได้ในราคาที่ประหยัดลง อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบสถานะการจัดส่งได้ทุกกระบวนการจากระบบการทำงานของไปรษณีย์ไทยไม่ว่าจะเป็นผู้ขายรายใหม่หรือปัจจุบัน อยู่ที่ใดในประเทศไทย ก็สามารถใช้บริการนี้จากช้อปปี้ได้ทันที หากเลือกใช้บริการจัดส่งผ่านไปรษณีย์ไทย
ในขณะเดียวกัน กระแสธุรกิจการซื้อขายบนโลกออนไลน์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ช้อปปี้ เชื่อว่าบริการดังกล่าวที่เปิดตัวขึ้นนี้จะทำให้ผู้ใช้บริการเริ่มรู้จักแอพพลิเคชั่นช้อปปี้มากขึ้นด้วย โดยความร่วมมือกับไปรษณีย์ไทยในการพัฒนากิจกรรมพิเศษต่างๆ ก็เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้กลุ่มผู้ประกอบการ e-Commerce ของไทยให้เติบโตสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล นอกจากนี้ ช้อปปี้ ยังมุ่งมั่นสร้างบริการดีๆ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจตลาดออนไลน์ในประเทศไทยต่อไปด้วย
"...ไปรษณีย์ไทยพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้ธุรกิจไทยเติบโตแข็งแกร่ง และพร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียน รองรับการเติบโตของธุรกิจ e-Commerce ได้มากยิ่งขึ้น ด้วยเครือข่ายที่แข็งแกร่งครอบคลุม พร้อมส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนไทย และพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้ก้าวไกลตลอดไป" นางสมร กล่าวในท้ายสุด