บีโอไอนำทัพนักลงทุนไทยรุ่นใหม่เยือน กัมพูชา-เวียดนาม

พุธ ๐๘ มิถุนายน ๒๐๑๖ ๑๓:๑๐
บีโอไอนำคณะผู้เข้าร่วมอบรมหลักสูตรสร้างนักลงทุนไทยในต่างประเทศ รุ่น 10 และ 11 เดินทางไปศึกษาลู่ทางลงทุนในประเทศกัมพูชาและเวียดนาม พร้อมพบปะหารือกับภาครัฐและเอกชน เยี่ยมชมกิจการต้นแบบของผู้ประกอบการสิ่งทอไทยที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรบีโอไอและได้เข้าไปลงทุนในกัมพูชาจนประสบความสำเร็จ

นางสาวชลลดา อารีรัชชกุล ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 6-10 มิถุนายน 2559 บีโอไอจะนำผู้ประกอบการที่เข้าร่วมอบรมในหลักสูตร "สร้างนักลงทุนไทยในต่างประเทศ" รุ่น 10 และ 11 รวม 57 ราย ซึ่งเป็นผู้ประกอบการจากหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร เกษตร เกษตรแปรรูป ชิ้นส่วนรถยนต์ เครื่องจักรกลการเกษตร สารเคมี พลาสติก บรรจุภัณฑ์ วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น เดินทางไปศึกษาลู่ทางการลงทุนที่ราชอาณาจักรกัมพูชา และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

เส้นทางของการศึกษาลู่ทางลงทุนครั้งนี้จะเน้นศึกษาโอกาสของการลงทุนในพื้นที่บริเวณเส้นทางเชื่อมต่อระหว่าง 3 ประเทศ คือ ไทย-กัมพูชา-เวียดนาม โดยเป็นการเดินทางสำรวจเส้นทางคมนาคมหลักที่ใช้ในการขนส่งสินค้า เริ่มจากกรุงเทพฯ –สระแก้ว-ปอยเปต-บันเตียเมียนเจย-ศรีโสภณ-พระตะบอง-พนมเปญ-สวายเรียง และโฮจิมินห์ ระยะทางรวมกว่า 950 กิโลเมตร ซึ่งตลอดเส้นทางจะประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่จะทำให้ผู้ประกอบการไทยได้ศึกษาโอกาสและลู่ทางการลงทุนได้อย่างแท้จริง ทั้งในรูปแบบของการพบหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่สำคัญของทั้ง 2 ประเทศ อาทิ การเข้าพบผู้ว่าจังหวัดและหอการค้าพระตะบอง ของกัมพูชา ซึ่งจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีและสร้างโอกาสของการขยายเครือข่ายเพื่อการลงทุนร่วมกันในอนาคต

การเยี่ยมชมกิจการของนักลงทุนไทยที่ได้ผ่านการอบรมตามหลักสูตรสร้างนักลงทุนไทยในต่างประเทศมาแล้ว และปัจจุบันได้เข้าไปดำเนินกิจการอุตสาหกรรมสิ่งทออยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรม ศรีโสภณ ของราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งนับว่าเป็นกิจการหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ยังมีโอกาสเข้าเยี่ยมชมโรงงานเบทาโกร ที่ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมพนมเปญ ที่มีชื่อเสียงและมีมาตรฐานของกัมพูชา

นอกจากนี้ บีโอไอยังได้จัดให้มีกิจกรรมการสัมมนา เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสและลู่ทางการลงทุนซึ่งในส่วนของราชอาณาจักรกัมพูชา โดยได้รับเกียรติจากเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ เป็นผู้กล่าวเปิดงาน และได้เชิญวิทยากรจากหน่วยงานส่งเสริมการลงทุน และหอการค้ากัมพูชา รวมถึงบริษัทที่ปรึกษาของบีโอไอในประเทศกัมพูชา เพื่อร่วมให้ข้อมูลทางด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน การแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากสถาบันการเงินไทยที่ได้ไปตั้งสาขาอยู่ในพนมเปญ ทั้งธนาคารกรุงเทพ และธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นต้น

ในส่วนของการจัดสัมมนาที่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามนั้น กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ จะร่วมให้ข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสและลู่ทางการลงทุน บริษัทที่ปรึกษาของบีโอไอในประเทศเวียดนามให้ข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสและลู่ทางการลงทุนเชิงลึก ขณะเดียวกันยังมีผู้แทนของนิคมอุตสาหกรรมอมตะ (เวียดนาม) ร่วมให้ข้อมูลที่น่าสนใจจากมุมมองของนักลงทุนตัวจริงอีกด้วย

"กิจกรรมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในโครงการอบรมสร้างนักลงทุนไทยในต่างประเทศ ซึ่งนอกจากจะมีกิจกรรม อบรมให้ความรู้เชิงลึกที่มีประโยชน์ในทุกด้านแก่ผู้ประกอบการไทยที่เข้ารับการอบรมแล้ว ยังจัดให้มีกิจกรรมการเดินทางเข้าไปศึกษาโอกาสและศักยภาพ รวมถึงศักยภาพของตลาดในต่างประเทศ เพื่อให้ได้เห็นลู่ทางและโอกาสตลาดในพื้นที่จริงสำหรับใช้ประกอบการตัดสินใจ โดยมั่นใจว่าการที่ผู้ประกอบการเข้าไปลงทุนในต่างประเทศนั้นในที่สุดแล้วจะช่วยนำประโยชน์กลับมาสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้ประเทศไทยอย่างยั่งยืน" นางสาวชลลดา กล่าว

นางสาวชลลดา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับราชอาณาจักรกัมพูชา มีศักยภาพทางด้านการรองรับลงทุนในหลายด้าน โดยเฉพาะบริเวณพระตะบอง ศรีโสภณ รอบโตนเลสาบ ที่เป็นพื้นที่กสิกรรมขนาดใหญ่ และมีพื้นที่เพาะปลูกที่อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเข้าไปทากิจกรรมเพาะปลูก ประกอบธุรกิจเกษตรและอาหารแปรรูป ขณะที่กรุงกรุงพนมเปญ มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น ซึ่งทำให้มีความต้องการในธุรกิจภาคบริการสูง จึงเหมาะที่จะเข้าไปประกอบกิจการด้านบริการ เช่น ร้านอาหาร ธุรกิจสปา ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจก่อสร้าง รวมไปถึงธุรกิจซ่อมบำรุงรถยนต์/จักรยานยนต์ เป็นต้น

สำหรับสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในปัจจุบันบริเวณโดยรอบนครโฮจิมินห์ มีการพัฒนาของโครงสร้างพื้นฐานที่ดี อยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบในการผลิต และมีแรงงานอาศัยอยู่ค่อนข้างมาก จึงเหมาะแก่การเข้าไปลงทุนจัดตั้งโรงงานผลิตเช่นกัน ขณะที่ในตัวเมืองสำคัญๆ และเกือบทุกพื้นที่ของประเทศสามารถเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป รวมถึงการเข้าไปลงทุนในธุรกิจบริการ เช่น ร้านอาหาร โรงแรมและที่พัก การเงินและประกันภัย ธุรกิจก่อสร้าง ตลอดจนบริการโลจิสติกส์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๗ ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๑๗:๕๓ NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๑๗:๐๕ แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๑๗:๓๒ แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๑๗:๒๕ RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๑๗:๔๘ ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๑๗:๐๕ เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๑๗:๐๖ ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๑๗:๔๙ ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud
๑๗:๐๐ เปิดรับสมัครแล้ว HaadThip Fan Run 2024 แฟนรัน ฟันแลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์ หาดสมิหลา จ.สงขลา