งานนี้บอกได้เลยว่างานยักษ์ เพราะผู้เข้าแข่งขันจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายทุกรูปแบบ และเรียนรู้การนำเอาทักษะอื่นๆมาประยุกต์ใช้ในการแข่งขัน แต่ความคุ้มค่าอยู่ที่การได้ทำงานใกล้ชิดกับเชฟระดับโลกทั้ง 7 ท่านหรือ "Seven Sages" ซึ่งจะเป็นผู้ตัดสินผลการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ เริ่มจาก Gaggan Anand (ผู้ชนะ Asia's 50 Best Restaurants 2 ปีซ้อน), David Higgs, Carlo Cracco, Elena Arzak, Mauro Colagreco, Wylie Dufresne และ Roberta Sudbrack. เรียกได้ว่าเป็นการเดินทางที่แสนยาวไกลกว่าจะถึงการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในเดือนตุลาคม ผู้สมัครจากทั้ง 20ภูมิภาค จะถูกคัดเลือกโดย ALMA สถาบันการศึกษาและอบรมด้านอาหารอิตาเลียนระดับโลก (www.alma.scuolacucina.it) โดยมีเกณฑ์การตัดสิน 5 ข้อ ได้แก่ วัตถุดิบ, ความสามารถ, ความเฉลียวฉลาด, ความสวยงาม และการสื่อสาร (ingredients, skills, genius, beauty, and message)
"ผู้ตัดสินของเราลำบากใจมากครับ มันไม่ง่ายเลยในการเลือกผู้ที่จะผ่านเข้ารอบ Semi-final เพียงแค่ 10 คนต่อละภูมิภาค จากทั้งหมด 20 ภูมิภาคทั่วโลก เพราะว่าผู้สมัครแต่ละคนมีความสามารถสูงและน่าสนใจเยอะมากจริงๆ แต่มันก็น่าตื่นเต้นดีที่ได้รู้ว่าโลกของเรามีเชฟรุ่นใหม่ที่มีความสามารถล้นเหลือมากมายขนาดไหน พวกเขายังมีศักยภาพและความต้องการที่รอจะให้โลกได้ประจักษ์อีกด้วย"
Andrea Sinigaglia ผู้จัดการทั่วไปของ ALMA กล่าว
S.Pellegrino Young Chef ปี 2559 นี้ เปิดโอกาสให้เชฟรุ่นใหม่ที่มีความฝัน ได้มีโอกาสดีๆ ที่จะประกาศให้โลกได้รู้ถึงความสามารถของพวกเขา จัดโดยผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำแร่ชื่อดังระดับโลก "ซานเปลเลกรีโน" ด้วยจุดประสงค์และความมุ่งมั่นที่จะเผยแพร่วัฒนธรรมอาหารแบบไฟน์ ไดน์นิ่งให้แพร่ขยายไปทั่วโลก ทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้บุคคลที่สนใจได้แสดงความสามารถอีกด้วย
สำหรับรายชื่อผู้เข้ารอบ Semi-final ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ทั้ง 10 ท่าน, ซึ่งปีนี้มีผู้เข้ารอบจากประเทศไทยด้วย, ได้แก่
Beno Wicaksana, Sous Chef from 'Kubu Restaurant - Mandapa Ritz Carlton Reserve' - Ubud
เมนูส่งประกวด: Sear Scallop, Black Kluwek Topinambur, Lemongrass pumpkin espuma, and Kaffir lime jus
Brian Lin, Sous Chef from 'Les Amis' - Singapore
เมนูส่งประกวด: Chili Crab Turban Pasta
Goh Miow Di Mandy, Chef from 'Latitude Restaurant Genting Club' - Genting Highlands
เมนูส่งประกวด: A Stroll Through the Nature
Jatu Anurantha, Sous Chef from 'Il 'Ristorante Bulgari Resorts' - Bali
เมนูส่งประกวด: Smoked Wagyu Sirloin in Coconut Husk, Mushroom Potato Croquette, Parsnip Puree and...
Jim Ophorst, Chef from 'Seafood at Trisara' - Phuket
เมนูส่งประกวด: Sharing the gifts
Kim Seng Tan, Chef de Partie from 'Stellar at 1-Altitude' - Singapore
เมนูส่งประกวด: Chili Crab Ravioli with Umami Froth
Roberto Pinna, Chef from 'Shangri-la hotels and resorts' - Kota Kinabalu
เมนูส่งประกวด: Seppia
Rounak Kinger, Chef from 'b Cafe - Shangri-La Hotel' - Bengaluru
เมนูส่งประกวด: Malabari fish curry, coconut chutney
Tarun Bhatia, Chef de Partie from 'Ek Bar' - Delhi
เมนูส่งประกวด: Inspirational Daab Chingri
Tryson Quek, Chef from 'Antidote Bar' - Singapore
เมนูส่งประกวด: Neptune's Catch
สำหรับในเฟสที่ 3 นั้น ผู้ที่ได้รับคัดเลือกในแต่ละภูมิภาคจำนวน 10 คน จะต้องแข่งขันกันต่อภายในภูมิภาคนั้นๆ ในช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม จนถึง วันที่ 15 สิงหาคม 2559 โดยในช่วงนี้ ผู้เข้าแข่งขันต้องทำอาหารจานเด่นของตัวเอง เพื่อให้คณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยเชฟแถวหน้าของภูมิภาคทำการตัดสิน โดยตัดสินจากหลักการเดียวกัน 5 ข้อข้างต้น
สำหรับในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การแข่งขันจะถูกจัดขึ้นที่โรงเรียนสอนการประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2559 ตั้งแต่เวลา 12.00 – 15.00 น. ทำการตัดสินโดยกรรมการ 6 ท่านซึ่งเป็นเชฟแถวหน้าของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ เชฟเอียน กิตติชัย (ไทย), เชฟโบ ทรงวิศวะ (ไทย), Will Meyrick (อินโดนีเซีย), Umberto Bombana (ฮ่องกง), Emmanuel Stroobant (สิงคโปร์) และ Alvin Leung (ฮ่องกง).
และเมื่อถึงสิ้นเดือนสิงหาคม เราจะทำการประกาศรายชื่อเชฟผู้ผ่านเข้ารอบ 20 คนสุดท้ายอย่างเป็นทางการจากการคัดเลือกทั่วโลกทั้งหมด 20 ภูมิภาค เพื่อทำการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศต่อไป โดยเชฟผู้เข้าแข่งขันจะถูกจัดให้มีเชฟผู้ฝึกสอน (mentor) เป็นของตนเอง ผู้ที่จะสามารถให้คำแนะนำ ความรู้ กลเม็ดเคล็ดลับ และประสบการณ์จากเชฟมากความสามารถแต่ละท่าน เพื่อให้อาหารจานเด่นของผู้เข้าแข่งขันสามารถต่อยอดไปถึงรางวัลชนะเลิศได้
โดยการตัดสินในรอบสุดท้ายนั้น เชฟผู้เข้ารอบทั้ง 20 คนจะได้เดินทางไปแข่งขันยังเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เป็นเวลากว่า 2 วันเต็มที่พวกเขาจะต้องทำอาหารต่อหน้ากรรมการทั้ง 7 ที่จะเป็นผู้ตัดสินชี้ขาดในแคมเปญซานเปลเลกรีโนเฟ้นหาเชฟรุ่นใหม่ไฟแรงในปีนี้
บทความที่นำเสนอนั้นอาจขึ้นอยู่กับแต่ละภูมิภาคและโปรเจ็คที่จัดพร้อมกันทั่วโลก ทั้งนี้ทางเราจะประกาศรายชื่อเชฟผู้เข้ารอบและเมนูจานเด่นของแต่ละท่านที่เว็บไซต์ www.finedininglovers.com นิตยสารออนไลน์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารและไฟน์ ไดน์นิ่ง สร้างสรรค์โดยซานเปลเลกรีโนและอัคควา พันนา
ติดตามการแข่งขัน S.Pellegrino Young Chef ประจำปี 2559 ได้ตลอดเวลา จากแฮชแทค #SPYoungChef
หมายเหตุ ทั้ง 20 ภูมิภาคประกอบไปด้วย
อิตาลี
ฝรั่งเศส
เยอรมณี – ออสเตรีย
สวิตเซอร์แลนด์
สเปน – โปรตุเกส
สหราชอาณาจักรอังกฤษ – ไอร์แลนด์
รัสเซีย / บอลติกส์ / ซีไอเอส (อดีตสหภาพโซเวียต)
สแกนดิเนเวีย (นอร์เวย์/สวีเดน/ฟินแลนด์/เดนมาร์ค)
ยุโรปตะวันออก
สหภาพเบเนลักซ์ (เบลเยียม / เนเธอร์แลนด์ / ลักแซมเบิร์ก)
ประเทศในแถบทะเลเมดิเตอเรเนียน
สหรัฐอเมริกา
แคนาดา
แอฟริกา – ตะวันออกกลาง
ละตินอเมริกา – แคริบเบียน
แปซิฟิก (ออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์ / ประเทศบนหมู่เกาะแปซิฟิก)
จีน
ญี่ปุ่น
เอเชียเหนือ (เกาหลีใต้, ไต้หวัน, ฮ่องกง, ฟิลิปปินส์)
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อินเดีย, ศรีลังกา, เมียนมาร์, ไทย, ลาว, เวียดนาม, มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, กัมพูชา และ มัลดีฟส์)