นายณันทพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ร่วมกับ พันเอกนิธิศ เปลี่ยนปาน รองผู้บัญชาการกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์, ผู้แทนจากมณฑลทหารบกที่ 11, ผู้แทนจากสถานีตำรวจท่องเที่ยว 4 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว, ผู้แทนจากสถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง, ผู้แทนจากสถานีตำรวจนครบาลวิภาวดี และผู้แทนจาก ท่าอากาศยานดอนเมือง ดำเนินการจัดระเบียบรถแท็กซี่และรถโดยสารสาธารณะที่ให้บริการ ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยจะ ตรวจสอบการให้บริการ ตรวจสอบความพร้อมของตัวรถให้อยู่ในสภาพพร้อมให้บริการอย่างมีคุณภาพและปลอดภัย รวมถึงตรวจสอบการฝ่าฝืนใช้รถแท็กซี่สิ้นอายุมาให้บริการอย่างเข้มงวด
นายณันทพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ปัญหาการให้บริการของรถแท็กซี่บริเวณท่าอากาศยานดอนเมืองในปัจจุบันพบว่าในช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีเครื่องบินลงจอดพร้อมกันหลายเที่ยวบิน ทำให้ปริมาณผู้โดยสารขาเข้ามีจำนวนมากและรถแท็กซี่ที่จุดบริการที่ทางท่าอากาศยานดอนเมืองจัดไว้มีไม่เพียงพอต่อความต้องการ ผู้โดยสารบางส่วนจึงต้องออกไปเรียกใช้บริการรถแท็กซี่บริเวณถนนวิภาวดีและบริเวณชั้น 2 ของท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งรถแท็กซี่กลุ่มดังกล่าวไม่ได้ลงทะเบียนไว้กับท่าอากาศยาน ดอนเมือง และอาจเป็นรถผิดกฎหมาย เช่น รถแท็กซี่ที่หมดอายุการใช้งานแล้วหรืออาจเกิดปัญหาการให้บริการ เช่น ปฏิเสธไม่รับ ผู้โดยสาร ไม่ใช้มาตรค่าโดยสารซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ดังนั้น เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้โดยสารและเสริมสร้างความปลอดภัย สร้างความมั่นใจในการใช้บริการรถแท็กซี่มากยิ่งขึ้น
กรมการขนส่งทางบก บูรณาการการทำงานร่วมกับ หน่วยงานทหาร ตำรวจ และท่าอากาศยานดอนเมือง จัดเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ขับรถแท็กซี่ทุกคนและรถแท็กซี่ทุกคันเป็นประจำทุกวัน ในช่วงเวลาเร่งด่วน ได้แก่ ช่วงเช้า 07.00 - 09.00 น. และช่วงเย็น 16.30 – 20.00 น. ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นไป รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการดำเนินการตรวจสอบ จะเน้นมาตรการความพร้อมของตัวรถ และผู้ขับรถ และตรวจสอบการให้บริการที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและภาพลักษณ์ประเทศ โดยเฉพาะการให้บริการที่ท่าอากาศยานดอนเมืองและท่าอากาศสุวรรณภูมิเช่น การปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร ไม่ส่งผู้โดยสารตามสถานที่ที่ได้ตกลงไว้ ไม่ใช้มาตรค่า โดยสาร และเรียกเก็บอัตราค่าโดยสารเกินที่ทางราชการกำหนด รวมถึงเข้มงวดตรวจสอบการใช้รถแท็กซี่สิ้นอายุการใช้งานมาให้บริการ หากตรวจสอบพบให้ลงโทษในอัตราโทษสูงสุดทุกกรณี ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นรถแท็กซี่ไม่ปลอดภัย เอาเปรียบผู้โดยสาร แจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะและรับเรื่องร้องเรียน สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
ลิงค์ http://dlt-safetydrive.com/2014/