สศท.8 ย้ำผลสำเร็จ ผลิตข้าวอินทรีย์ดีจริง ได้ผลผลิตสูง ต้นทุนต่ำ พัฒนาวิถีชีวิตเกษตรกร

อังคาร ๒๓ สิงหาคม ๒๐๑๖ ๑๔:๕๐
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 เปิดผลศึกษาแนวทางพัฒนาเกษตรอินทรีย์จังหวัดพัทลุง เผย กลุ่มผู้ปลูกข้าวอินทรีย์ มีผลผลิตข้าวเฉลี่ย 557 กิโลกรัม/ไร่ สูงกว่ากลุ่มผู้ปลูกข้าวทั่วไปแบบใช้สารเคมีและกลุ่มที่อยู่ระหว่างปรับเปลี่ยน ย้ำ การทำเกษตรอินทรีย์ ต้องสร้างความเชื่อมั่นแก่เกษตรกรอย่างจริงจัง ในการเปลี่ยนค่านิยมและความเชื่อสู่วิถีการผลิตเกษตรอินทรีย์ที่ยั่งยืน

นายคมสัน จำรูญพงษ์ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลศึกษาแนวทางพัฒนาเกษตรอินทรีย์จังหวัดพัทลุง ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 จังหวัดสุราษฎร์ธานี (สศท.8) ได้ศึกษาสินค้าข้าวอินทรีย์ ตามแผนงานของมาตรการเกษตรอินทรีย์ของจังหวัดพัทลุงที่ได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายหลัก คือ อำเภอควนขนุน และให้ความสำคัญกับสินค้าข้าวเป็นลำดับแรก

การศึกษาครั้งนี้ ได้รวบรวมข้อมูลจากกรณีศึกษาเชิงกลุ่มประกอบด้วย กลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตข้าวอินทรีย์ที่ประสบความสำเร็จ ทั้งจากกลุ่มที่ได้การรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์จากหน่วยงานภาครัฐและกลุ่มที่ยังไม่ได้การรับรอง นอกจากนี้ ยังศึกษาข้อมูลจากตัวอย่างเกษตรกรรายย่อย ทั้งเกษตรกรผู้ปลูกข้าวอินทรีย์ที่ได้ใบรับรองแล้วและเกษตรกรผู้ปลูกข้าวทั่วไปแบบใช้สารเคมี เพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานด้านการผลิต รวมทั้งความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยแวดล้อมภายในและภายนอกที่ส่งผลต่อศักยภาพในการพัฒนาข้าวอินทรีย์ของจังหวัด เพื่อให้ข้อเสนอแนะแนวทางในการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ และการขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ในระดับจังหวัด

ผลจากการศึกษา พบว่า กลุ่มผู้ปลูกข้าวอินทรีย์ มีประสิทธิภาพการผลิตดีที่สุดเมื่อพิจารณาจากผลผลิตที่ได้รับและรายจ่ายเงินสดที่ใช้ในการเพาะปลูกข้าวนาปี โดยกลุ่มผู้ปลูกข้าวอินทรีย์มีผลผลิตข้าวเฉลี่ย 557 กิโลกรัมต่อไร่ มีรายจ่ายเงินสดจากการเพาะปลูกข้าวเฉลี่ย 2,004 บาทต่อไร่ ในขณะที่กลุ่มผู้ปลูกข้าวทั่วไปแบบใช้สารเคมี มีผลผลิตเฉลี่ย 535กิโลกรัมต่อไร่ มีรายจ่ายเงินสดจากการเพาะปลูกข้าวเฉลี่ย 2,435 บาทต่อไร่ ส่วนกลุ่มที่อยู่ระหว่างปรับเปลี่ยนจากการใช้สารเคมีเป็นการผลิตตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ มีผลผลิตเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ 534 กิโลกรัมต่อไร่ โดยมีรายจ่ายเงินสดจากการเพาะปลูกข้าวเฉลี่ย 2,216 บาทต่อไร่ ตามลำดับ

ด้านนายธรณิศร กลิ่นภักดี ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 กล่าวถึงศักยภาพการผลิตข้าวอินทรีย์ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ซึ่งมีจุดเด่นที่สำคัญ คือ สภาพแวดล้อมเหมาะกับการปลูกข้าวอินทรีย์กระจายในหลายพื้นที่ โดยมีศูนย์เรียนรู้การผลิตข้าวคุณภาพทั่วทุกพื้นที่ มีเกษตรกรต้นแบบที่พึ่งตนเองด้านพันธุ์ข้าวและสามารถบริหารจัดการกลุ่มตนเองได้ มีศูนย์วิจัยข้าวในพื้นที่และมีศูนย์เรียนรู้ดินและปุ๋ยชุมชนทุกตำบล มีวิสาหกิจชุมชนที่ประสบความสำเร็จในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่เป็นแหล่งเรียนรู้แบบครบวงจร มีข้าวสังข์หยดที่มีข้อบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค รวมทั้งบุคลากรภาครัฐที่เกี่ยวข้องยังมีความเชื่อมั่นในการทำเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้น จึงมีศักยภาพที่จะขยายผลในการเพิ่มผลผลิตเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารและเพิ่มมูลค่าจากสินค้าได้

สำหรับข้อเสนอแนะจากการศึกษาครั้งนี้ พบว่า ภาครัฐควรส่งเสริมและต่อยอดการวิจัยด้านเมล็ดพันธุ์ที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งสร้างโอกาสหรือจัดหาตลาดรับซื้อข้าวอินทรีย์ที่มีราคาสูงกว่าข้าวตามท้องตลาดทั่วไป เพื่อกระตุ้นให้เกิดการทำนาแบบอินทรีย์มากขึ้น ควบคู่กับการสนับสนุนให้เกษตรกรรวมกลุ่มและพัฒนาเครือข่ายเกษตรอินทรีย์เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ สามารถกำหนดราคาผลผลิตได้เองและมีการประกันราคาผลผลิตที่แน่นอน

ทั้งนี้ การพัฒนาการผลิตข้าวอินทรีย์ของกลุ่มเกษตรกร ยังจำเป็นต้องมีปัจจัยที่เกื้อหนุนเพื่อให้การดำเนินงานเกิดประโยชน์ต่อกลุ่ม โดยต้องส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์อย่างจริงจังและต่อเนื่อง และจำเป็นอย่างยิ่งจะต้องหาแนวทางเพื่อเปลี่ยนค่านิยมและความเชื่อของเกษตรกรที่ยังใช้ปุ๋ยเคมีให้หันมาสนใจเกษตรแบบธรรมชาติ ซึ่งเกื้อกูลต่อสภาพแวดล้อมและปลอดภัยต่อสุขภาพมากขึ้น อันจะนำไปสู่วิถีการผลิตเกษตรอินทรีย์อย่างยั่งยืนต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๗ ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๑๗:๕๓ NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๑๗:๐๕ แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๑๗:๓๒ แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๑๗:๒๕ RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๑๗:๔๘ ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๑๗:๐๕ เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๑๗:๐๖ ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๑๗:๔๙ ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud
๑๗:๐๐ เปิดรับสมัครแล้ว HaadThip Fan Run 2024 แฟนรัน ฟันแลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์ หาดสมิหลา จ.สงขลา