ด้วยตนเองโดยเด็ดขาด จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการได้รับอันตราย ส่งผลให้สามารถควบคุมสถานการณ์มิให้ขยายวงกว้าง
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า บ่อยครั้งที่รถบรรทุกก๊าซประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำ ทำให้เกิดการระเบิดและไฟไหม้รถ ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนนได้ การเรียนรู้การปฏิบัติตนเมื่อประสบหรือพบเห็นอุบัติเหตุรถบรรทุกสารเคมี จะช่วยลดความเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะข้อควรปฏิบัติ ดังนี้ แจ้งหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้องมาระงับเหตุ โดยให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสถานที่เกิดเหตุ กลิ่น สี ประเภทของสารเคมี ชนิดของวัตถุอันตราย จำนวนและอาการของผู้ที่ได้รับอันตราย หากพบเห็นอุบัติเหตุรถบรรทุกสารเคมี ควรให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะและรูปทรงของถังบรรจุสารเคมี หมายเลขสหประชาชาติและสัญลักษณ์บนถังบรรจุสารเคมี จะเป็นประโยชน์ต่อการระงับเหตุ
มิให้ขยายวงกว้าง รวมถึงสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ออกให้ห่างจากจุดที่เกิดเหตุ โดยอพยพไปอยู่บริเวณด้านเหนือลม ซึ่งมีอากาศถ่ายเทสะดวกในระยะไม่ต่ำกว่า 300 เมตร หากกำลังขับรถให้ปิดกระจกรถและเครื่องปรับอากาศ พร้อมใช้หน้ากากอนามัยหรือผ้าสะอาดปิดจมูกและปาก เพื่อลดการสูดดมสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง
ที่ทำให้สถานการณ์รุนแรงและขยายวงกว้างมากขึ้น โดยห้ามประกอบกิจกรรมที่ทำให้เกิดประกายไฟบริเวณที่สารเคมีรั่วไหล อาทิ สตาร์ทรถยนต์ จุดไฟแช็ก เพราะจะทำให้เกิดระเบิดและเพลิงไหม้ อีกทั้งห้ามสัมผัสสารเคมีที่รั่วไหล ไม่เข้าใกล้บริเวณที่กั้นเป็นเขตอันตราย เพราะเสี่ยงต่อการได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกายมากขึ้น ห้ามเข้าไประงับเหตุด้วยตนเองอย่างเด็ดขาด เพราะหากแก้ไขผิดวิธีจะได้รับอันตรายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้สถานการณ์รุนแรงมากขึ้น ห้ามขับรถผ่านบริเวณ
ที่รถบรรทุกสารเคมีประสบอุบัติเหตุ ควรดับเครื่องยนต์และจอดรถให้ห่างจุดเกิดเหตุในบริเวณที่ปลอดภัย โดยเฉพาะหากเป็นสารเคมีที่มีคุณสมบัติไวไฟ จะมีความเสี่ยงต่อการระเบิดและเพลิงไหม้ได้ ทั้งนี้ การเรียนรู้วิธีปฏิบัติตนอย่างถูกต้องและปลอดภัยเมื่อประสบเหตุหรือพบเห็นอุบัติเหตุรถบรรทุกสารเคมี จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการได้รับอันตราย ทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์มิให้ขยายวงกว้าง