พลอากาศเอกประจิน หนุนอีคอมเมิร์ซ ชี้ไม่มี รมต.ใหม่กระทรวงดีอีไม่กระทบการทำงาน

จันทร์ ๑๐ ตุลาคม ๒๐๑๖ ๑๖:๕๑
รก.รมว.ดีอี เดินหน้าหนุนอีคอมเมิร์ซตั้งเป้าโตปี 59 ทะลุ 2.5 ล้านล้านบาท ชี้แม้ยังไม่มีรมต.ใหม่ไม่กระทบการทำงาน

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงาน ไทยแลนด์ อีคอมเมิร์ซวีค เรื่อง "การเป็นกระทรวงดีอีไม่ได้เปลี่ยนแค่ชื่อ กระทรวงดีอี จะรุกการทำอีคอมเมิร์ซของประเทศ...เราควรเดินหน้าอย่างไร..." ว่า การเกิดขึ้นของกระทรวงดีอีมีความเปลี่ยนแปลงโครงสร้างโดยหัวใจหลักต้องนำความเป็นดิจิทัลมาปรับเปลี่ยวิธีการทำงานให้เป็นรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์อย่างแท้จริง โดยมีการปรับเปลี่ยนทั้งโครงสร้างกระทรวงและวิธีการทำงาน โดยต้องปรับปรุงประสิทธิภาพในการบริหารและลดความซ้ำซ้อนในการทำงาน ลดขั้นตอนการทำงานให้สั้นและรวดเร็ว ตัวบุคลากรต้องเปลี่ยนกระบวนคิดเพื่อใก้การทำงานมีความคล้องตัวสามารถสร้างรูปแบบการบริหารจัดการ แม้ว่าขณะนี้โครงสร้างของกระทรวงยังอยู่ระหว่างปรับเปลี่ยนแต่ไม่มีผลกระทบกับการทำงานตามภารกิจที่รัฐบาลมอบหมายเพราะหน่วยงานหลักยังคงอยู่ทั้งหมดไม่มีการเปลี่ยน

"สำหรับตัวรัฐมนตรีว่าการดีอีขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี โดยรัฐมนตรีคนใหม่จะต้องมีกาความรู้ความสามารถในการบริหารงานราชการและมีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคนิค ผมไม่ทราบเลยว่าจะเป็นใครอยู่ที่ท่านายกรัฐมนตรี ทุกคนก็รอดูว่าจะเป็นใคร แต่แม้ว่าตอนนี้รัฐมนตรีใหม่ยังไม่มาก็ไม่มีปัญหาในการทำงาน ส่วนโครงการอินเทอร์เน็ตหมู่บ้านกระทรวงจะนำความเห็นของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)มาทำทวนและปรับการดำเนินการใหม่โดยจะหารือร่วมกับกสทช.เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน " พล.อ.อ.ประจิน กล่าว

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวอีกว่า ในการรองรับกระทรวงดีอีสิ่งที่ทำแล้วคือแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมหรือแผนดีอี แผนระดับประเทศคือแผนดิจิทัลกัฟเวอร์เมนท์ ส่วนที่กำลังดำเนินการคือร่างแผนพัฒนาอีคอมเมิร์ซ และร่างแผนไซเบอร์ซีเคียวริตี้ของ โดยร่างแผนอีคอมเมิร์ซได้นำมารับฟังความคิดเห็นในงานอีคอมเมิร์ซวีคแล้วส่วนร่างแผนซีเคียวริตี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฏีกาคาดว่าภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 จะนำแผนมีมาใช้ได้ ซึ่งแผนจะเน้นการสร้างความมั่นคงและความเชื่อมั่นในระบบไซอร์ที่มองครอบคลุมทั้งมิติด้านเศรษฐกิจและสังคม

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สำหรับการพัฒนาอีคอมเมิร์ซ สิ่งที่กระทรวงอยากเห็นคือการใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตในการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นโดยอยากให้มีการเติบโตของการใช้จ่ายออนไลน์เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ทั้งนี้เพื่อทำให้ไปสู่เป้าหมายจะพยายามช่วยลดต้นทุนผู้ประกอบการ ทั้งต้นทุนด้านการชำระเงินและการขนส่งสินค้า การขยายตลาดทั้งระดับผู้ชายรายย่อยและระดับองค์กรธุรกิจ นอกจากนี้ต้องเตรียมการในการเพิ่มบุคลากรให้พอเพียง รวมถึงการคิดค้นสร้างนวัตกรรมและส่งเสริมบริษัท startup รายใหม่ไปพร้อมกัน ทั้งนี้รัฐบาลจะสร้างกลไกสนับสนุนทางด้านเงินทุน การเพิ่มศักยภาพและสิทธิพิเศษทางภาษี เพื่อให้ผู้ประกอบการมีคาวมเข้มแข็งโดยตั้งเป้าจะเพิ่มมูลค่าการซื้อขายออนไลน์ในปีนี้ให้ได้ถึง 2.5 ล้านล้านบาท

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๑๕ TRP คว้ารางวัลเกียรติยศ Siamrath Awards 2024 ตอกย้ำ ผู้นำศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะบนใบหน้าของประเทศไทย
๑๑:๔๖ ผถห.PIMO-ไพโม่ อนุมัติปันผลงวดครึ่งหลังปี 66 หุ้นละ 0.03 บาทต่อหุ้น
๑๑:๑๘ การประชุมเตรียมงาน10 รอบ นักษัตรพระราชสมภพ
๑๑:๐๓ ผู้บริหารบางจากฯ แบ่งปันประสบการณ์เส้นทางการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เชิญชวนช่วยกัน ลด ละ เริ่ม เพื่อโลกยั่งยืน ในงานสัมมนา Go Green 2024 : The Ambition of
๑๐:๑๔ 1 พ.ค. นี้ เตรียมพบกับฟิตเนสแห่งใหม่ ใจกลางศรีนครินทร์ กับบริการครบครัน ใกล้บ้านคุณ BB FITNESS@พาราไดซ์
๑๐:๑๐ HUAWEI Band 9 จับมือ 3 แพลตฟอร์ม Amado Shopping ช่องทางออนไลน์ Lazada และ Shopee ให้คุณเข้าถึงฟีเจอร์สมาร์ทวอทช์ด้วยราคาสมาร์ทแบนด์
๑๐:๔๙ ห้องอาหาร นิมมาน บาร์ แอนด์ กริล พร้อมเสิร์ฟความอร่อยแบบจัดเต็มกับ เทศกาลบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น สุดพิเศษ และ บุฟเฟ่ต์ Carvery Night
๑๐:๓๔ TSPCA จัดประชุมสามัญประจำปี 2567 เตรียมความพร้อมสู่สามทศวรรษสวัสดิภาพสัตว์เพื่อก่อเกิด สวัสดิภาพคน
๑๐:๓๒ พด. มุ่งพัฒนาศักยภาพดินในพื้นที่ปลูกพืช GI เสริมศักยภาพเกษตรกร เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน
๑๐:๐๔ ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ มอบของบริจาค พร้อมเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆ