นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูหนาวประชาชนที่อาศัยบริเวณตอนบนของประเทศจะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศหนาวเย็น อีกทั้งยังเป็นช่วงที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย ไฟป่า หมอกควัน อุบัติเหตุทางถนน และอุบัติภัยจากการท่องเที่ยว รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยหนาว จึงได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว และวางมาตรการเชิงรุกป้องกันภัยในช่วงฤดูหนาวอย่างเข้มข้น ทั้งการเตรียมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว โดยให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเป็นศูนย์กลางในการบูรณาการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดทำแผนปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวให้สอดคล้องกับสภาพอากาศและความเดือดร้อนของประชาชน ควบคู่กับการจัดทำบัญชีผู้ประสบภัยหนาว โดยดำเนินการสำรวจความต้องการเครื่องกันหนาว พร้อมจัดลำดับความสำคัญในการช่วยเหลือ เพื่อวางแผนแจกจ่ายเครื่องกันหนาวอย่างทั่วถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว โดยจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดเป็นศูนย์กลางประสานการจัดหาสนับสนุนและแจกจ่ายเครื่องกันหนาว โดยปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ
กรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2556 รวมทั้งหลักเกณฑ์ และแนวทางที่กำหนดอย่างเคร่งครัด โดยคำนึงถึงประโยชน์และความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก รวมถึงแจกจ่ายเครื่องกันหนาวอย่างทั่วถึง เน้นกลุ่มเปราะบางเป็นหลัก โดยเฉพาะผู้สูงอายุ คนพิการ เด็กที่ไม่มีผู้อุปการะ ผู้มีรายได้น้อย และผู้ได้รับความเดือดร้อนจากอากาศหนาว อีกทั้งประสานหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนสนับสนุนเครื่องกันหนาว และกำหนดพื้นที่แจกจ่ายเครื่องกันหนาว เพื่อป้องกันความซ้ำซ้อนและกระจายการช่วยเหลือให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ การป้องกันภัยในช่วงฤดูหนาว โดยวางมาตรการป้องกันเชิงพื้นที่ เน้นการรณรงค์ให้เกษตรกรใช้วิธีไถกลบตอซังหรือใช้สารย่อยสลายแทนการเผาวัสดุการเกษตร คุมเข้มการเผาในพื้นที่ป่าไม้พื้นที่เกษตรกรรม และเขตชุมชน เพื่อลดผลกระทบจากไฟป่าและหมอกควัน จัดเจ้าหน้าที่ เครื่องมืออุปกรณ์ดับเพลิงและกู้ภัย รถดับเพลิงให้พร้อมปฏิบัติการระงับเหตุเพลิงไหม้ อีกทั้งติดตั้งสัญญาณไฟจราจรและไฟส่องสว่างบริเวณจุดเสี่ยง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางถนนในช่วงหมอกลงจัด ติดตั้งป้ายเตือนอันตรายบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวและให้คำแนะนำการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว ตลอดจนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวังภัยในช่วงฤดูหนาว โดยให้ข้อมูลสภาพอากาศและความเสี่ยงภัยในช่วงฤดูหนาว ทั้งอัคคีภัย ไฟป่าจากสภาพอากาศแห้ง อุบัติเหตุทางถนนในช่วงหมอกลงจัด และการดูแลรักษาสุขภาพในช่วงอากาศหนาว เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลอย่างครอบคลุมทุกมิติ ถือเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนวาระ"ประเทศไทยปลอดภัย (Safety Thailand)"