ศปถ.กำหนดแนวทางการใช้ความเร็วที่เหมาะสมในพื้นที่ชุมขน...ลดเสี่ยงอุบัติเหตุบนท้องถนน

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า การขับรถเร็วเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนทางหลวง คิดเป็นกว่าร้อยละ 76 เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนจากการขับรถเร็ว ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย จึงได้ผลักดันการกำหนดการใช้ความเร็วในการขับรถที่เหมาะสมกับสภาพการจราจร พร้อมจัดทำแนวทางการบริหารจัดการความเร็วในพื้นที่ชุมชน เพื่อให้จังหวัดยึดเป็นแนวทางในการปฏิบัติและควบคุมการใช้ความเร็ว โดยประสานให้กระทรวงคมนาคมจัดทำข้อแนะนำการใช้ความเร็วที่เหมาะสมในเขตชุมชน (เขตกรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา หรือเทศบาล) ให้สอดคล้องกับสภาพถนนแต่ละประเภท โดยประเภทที่ 1 รถบรรทุกที่มีน้ำหนักรถ รวมทั้งน้ำหนักบรรทุกเกิน 1,200 กิโลกรัม หรือรถบรรทุกคนโดยสาร หากขับขี่ในถนนที่มี 2ช่องทางจราจร ให้ใช้ความเร็ว ไม่เกิน 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถนน 4 ช่องทางจราจร ไม่เกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และถนนมากกว่า 4 ช่องจราจร ไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประเภทที่ 2 รถยนต์อื่น นอกจากรถประเภทที่ 1 ขณะที่ลากจูงรถพ่วง รถยนต์บรรทุกที่มีน้ำหนักรถ รวมทั้งน้ำหนักบรรทุกเกิน 1,200 กิโลกรัม หรือรถยนต์สามล้อ หากขับขี่ ในถนนที่มี 2 ช่องทางจราจร ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถนน 4 ช่องทางจราจร และถนนมากกว่า 4 ช่องจราจร ไม่เกิน 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประเภทที่ 3 รถยนต์อื่น นอกจากรถที่ระบุในประเภทที่ 1 และ 2 หรือรถจักรยานยนต์ หากขับขี่ในถนนที่มี 2 ช่องทางจราจร ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถนน 4 ช่องทางจราจร ไม่เกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และถนนมากกว่า 4 ช่องจราจร ไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมทั้งให้เจ้าพนักงานจราจรออกประกาศข้อบังคับกำหนดความเร็วตามข้อแนะนำความเร็วที่เหมาะสมในเขตชุมชน รวมถึงให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานผู้รับผิดชอบกำกับดูแลเส้นทาง ดำเนินการจัดทำและติดตั้งป้ายกำหนดความเร็วในแต่ละจุดให้เพียงพอและชัดเจนตามมาตรฐาน เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทราบและปฏิบัติตามความเร็วที่กำหนด โดยในระยะแรก ให้จังหวัดคัดเลือกถนนในเขตชุมชนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ จำนวน 1 เส้นทาง เพื่อกำหนดความเร็วที่เหมาะสมกับพื้นที่ชุมชน และติดตั้งป้ายกำหนดความเร็วที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกจังหวัด เพื่อให้มีผลบังคับใช้ได้ทันในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2560 สำหรับเป็นถนนต้นแบบในการดำเนินการควบคุมความเร็วในพื้นที่ชุมชนอื่นๆ ของจังหวัดต่อไป ซึ่งถือเป็นแนวทางสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกการบังคับใช้กฎหมาย จึงช่วยลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนน และยกระดับการบริหารจัดการความปลอดภัยทางถนนให้มีมาตรฐานสากล เพื่อขับเคลื่อนวาระประเทศไทยปลอดภัย (Safety Thailand)