การแข่งขันในครั้งนี้จะใช้เวลาในการสมัคร คัดเลือกและแข่งขันยาวนานถึง 18 เดือน ในช่วงปี 2560 – 2561 โดยในปี 2560 นี้ จะอยู่ในส่วนของการคัดเลือกเบื้องต้น และการแข่งขันภายในภูมิภาค โดยผู้เข้ารอบจะทำการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในเดือนมิถุนายน 2561 เพื่อเป็นสุดยอดเชฟรุ่นใหม่ในการแข่งขัน S.Pellegrino Young Chef 2018 ทั้งนี้ การขยายระยะเวลาการแข่งขันออกไปก็เพื่อให้เชฟผู้เข้าแข่งขันทุกคนมีเวลาฝึกฝนและพัฒนาอาหารจานเด่นของตนเองมากยิ่งขึ้น โดยมีเมนทอร์ส่วนตัวคอยให้คำแนะนำและช่วยเหลือเพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันมีความพร้อมที่จะนำเสนอมากที่สุดในรอบสุดท้าย
ผู้ชนะการแข่งขัน S.Pellegrino Young Chef นั้นจะได้พบกับสุดยอดประสบการณ์และโอกาสระดับโลกที่จะเปรียบเสมือนใบเบิกทางที่สำคัญในสายอาชีพนี้ รวมถึงเขาจะมีโอกาสได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดงานต่าง ๆ ของซานเปลเลกรีโนทั่วโลก รวมถึงผู้เข้าแข่งขันท่านอื่น ๆ ด้วย
เชฟผู้สมัครทุกคนต้องมีความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ สามารถพูด อธิบายและเข้าใจภาษาอังกฤษได้ เนื่องจากเป็นภาษาหลักที่ใช้ในการดำเนินการแข่งขัน
การแข่งขันทำอาหารระดับโลก S.Pellegrino Young Chef จะแบ่งการแข่งขันเป็นทั้งหมด 4 เฟส ดังนี้
เฟสที่ 1- การสมัครออนไลน์ (กุมภาพันธ์ 2560 – เมษายน 2560)
ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 – 30 เมษายน 2560 เชฟรุ่นใหม่จากทั่วโลกจะมีโอกาสได้สมัครเข้าร่วมการแข่งขัน และลงทะเบียนเมนูอาหารที่จะส่งประกวดผ่านทางเว็บไซต์ Sanpellegrino.com เชฟผู้สมัครจะต้องมีอายุไม่เกิน 30 ปี และทำงานเป็นเชฟห้องอาหารมาแล้วอย่างน้อย 1 ปี สำหรับคุณสมบัติต่าง ๆ สามารถศึกษาได้จากเว็บไซต์ที่เปิดรับสมัคร
เฟสที่ 2 – ประกาศรายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบ Semi-Final (วันที่ 1 มิถุนายน 2560)
ผู้สมัครที่มีคุณสมบัติครบถ้วนจากทั้ง 21 ภูมิภาค จะถูกคัดเลือกโดย ALMA สถาบันการศึกษาและอบรมด้านอาหารอิตาเลียนระดับโลก (www.alma.scuolacucina.it) โดยจะทำการคัดเลือกเชฟ 10 คนในแต่ละภูมิภาคเพื่อทำการแข่งขันในภูมิภาคนั้น ๆ โดยจะคัดเลือกจาก กฏเหล็ก 5 ข้อดังนี้
วัตถุดิบที่เลือกใช้ : มีความสามารถในการเลือกใช้วัตถุดิบและส่วนผสมได้อย่างลงตัวและมีคุณภาพดีที่สุดที่สรรหาได้ เพื่อความสดใหม่และไม่เหมือนใคร
ทักษะและความสามารถ : มีความสามารถในการจัดการหรือเปลี่ยนแปลงวัตถุดิบให้ออกมาสำเร็จด้วยดี โดยที่ยังคงไว้ซึ่งคุณประโยชน์ของวัตถุดิบนั้นๆ
สติปัญญาและความเฉียบแหลม : มีความสามารถในการค้นหาสิ่งใหม่ ๆ ที่ท้าทาย, มองหาโอกาสและมีทัศนคติเพื่อเชื่อมโยงให้เข้ากับไฟน์ ไดน์นิ่งในแบบร่วมสมัยและเป็นตัวเอง ในขณะเดียวกันก็ต้องรักษาสมดุลของรสชาติและหน้าตาของอาหารได้เป็นอย่างดี
ความสวยงาม : มีความสามารถในการนำเสนอเมนูเด่นอย่างมีคุณค่า มีความหมายและสวยงาม
ความหมาย : มีความสามารถในการถ่ายทอดให้คณะกรรมการเข้าใจในความหมายที่ต้องการจะสื่อผ่านอาหารจานนั้น ๆ ได้และแสดงให้เห็นถึงมุมมองความคิดของตนเอง
เฟสที่ 3 – การแข่งขันภายในภูมิภาค ( วันที่ 7 มิถุนายน 2560 – ธันวาคม 2560)
ผู้เข้าแข่งขัน 10 ท่านที่ได้รับการคัดเลือกให้ผ่านเข้ารอบ Semi-Final ทั้ง 21 ภูมิภาคจะต้องทำการแข่งขันกันในแต่ละภูมิภาค ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2560 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560 โดยในช่วงนี้ เชฟผู้เข้าแข่งขันต้องทำอาหารจานเด่นของตัวเองและนำเสนอต่อกรรมการในแต่ละภูมิภาค ซึ่งประกอบด้วยเชฟแถวหน้าเช่นกัน โดยกรรมการจะใช้หลักกฎเหล็ก 5 ข้อเช่นเดิมในการตัดสินเลือกเชฟผู้ชนะในภูมิภาคนั้น ๆ
ในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2560 เชฟผู้ชนะ 21 คนจาก 21 ภูมิภาค จะได้เป็นผู้เข้ารอบสุดท้าย โดยเชฟแต่ละคนจะถูกจัดการให้มี "เมนทอร์ เชฟ" (Mentor Chef) ของตัวเอง ซึ่งเมนทอร์ เชฟ เหล่านั้นก็คือกรรมการจากแต่ละภูมิภาคนั่นเอง เมนทอร์แต่ละท่าน จะทำการฝึกสอน แนะนำ และให้คำปรึกษาเชฟผู้เข้าแข่งขันอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งรอบสุดท้ายนั่นเอง
เฟสที่ 4 – การแข่งขันเพื่อเฟ้นหาสุดยอดเชฟรุ่นใหม่รอบสุดท้าย (มิถุนายน 2561)
ในเดือนมิถุนายน 2561 เชฟผู้ชนะระดับภูมิภาคทั้ง 21 คน จะเดินทางไปรวมตัวกันที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เพื่อทำการแข่งขันรอบสุดท้าย โดยได้รับการสนับสนุนการเดินทางจาก S.Pellegrino ต่อหน้าคณะกรรมการทั้ง 7 ท่าน ผู้ซึ่งจะเป็นผู้ชี้ขาดว่าใครจะเป็นสุดยอด S.Pellegrino Young Chef 2018