การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ จัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 4 พฤษภาคม 2560 เวลา 16.00 –18.00 น. ณ ห้องออดิทอเรี่ยม ชั้น 5 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยมี ดร. อรรถชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดร. กันทิมา กุญชร ณ อยุธยา หัวหน้าคณะผู้บริหาร (ร่วม) ด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ มร. แอนดรูว์ กลาส ผู้อำนวยการ บริติช เคานซิล ประเทศไทย ร่วมเปิดการแข่งขัน พร้อมกับกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารวิทยาศาสตร์ชั้นนำของประเทศไทยในการเฟ้นหาผู้แทนเพียงหนึ่งเดียวของประเทศไทยในการแข่งขัน FameLab International ประกอบด้วย ดร. เอิ้น ปานระพี รพิพันธุ์ ผู้ผลิตรายการไอที 24 ชั่วโมง, ดร. โอ วรวรงค์ รักเรืองเดช ที่ปรึกษารายการ "วิทยสัประยุทธ์" "วิทย์สู้วิทย์", ดร. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ นักสื่อสารวิทยาศาสตร์ชั้นนำของประเทศไทยและ มร.แอนดรูว์ กลาส ผู้อำนวยการ บริติช เคานซิล ประเทศไทย
ผู้ชนะเลิศจากโครงการ FameLab คือ นาย ปริญญา ขินหนองจอก นักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และรองชนะเลิศอันดับหนึ่งคือ ดร. สุธีรา รัตนศิรินทรวุธ อาจารย์ฝ่ายวิจัย คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วนรองชนะเลิศอันดับสองคือ นางสาว กมลรัตน์ คูบุบผา นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และผู้ชนะเลิศรางวัลป็อบปูล่าโหวต คือ นางสาว อรณี ศรีใชยพล นักศึกษา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ผู้ชนะเลิศจากโครงการ SchoolLab คือ นายธนภัทร ถนอมดำรงศักดิ์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน และรองชนะเลิศอันดับหนึ่งคือ นางสาวจรรยพร โกฏิมนัสวิชย์ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายมัธยมศึกษา (มอดินแดง) และรองชนะเลิศอันดับสองคือ นายธีระพงษ์ พลตื้อ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน
ดร.อรรถชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า "เป้าหมายระยะยาวของกระทรวงวิทย์ฯคือการพัฒนาประเทศไปสู่ระบบเศรษฐกิจสร้างมูลค่า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้บรรลุเป้าหมายที่เราตั้งไว้ งานวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถทำงานเพียงคนเดียวได้ แต่เราต้องทำงานร่วมกับสาธารณชน ผู้วางนโยบาย และคนรุ่นใหม่ในให้เข้ามามีส่วนร่วมในเป้าหมายของเราครั้งนี้ ในปัจจุบันประเทศไทยและประเทศอื่นๆทั่วโลกกำลังเผชิญหน้ากับปัญหามากมายไม่ว่าจะเป็น ปัญหาโลกร้อน การประปา ความมั่นคงทางด้านอาหาร ปัญหาด้านสุขภาพ และความเหลื่อมล้ำทางสังคม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ปัญหา แต่เรายังต้องทำงานร่วมกันกับสาธารณชนทุกภาคส่วนในการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตที่เราไม่สามารถคาดเดาได้ วันนี้เรามีความยินดีที่ได้เห็นนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยรุ่นใหม่ที่ไม่ใช่แค่สื่อสารงานวิจัยของตนเอง แต่ยังสามารถทำให้ทุกคนเห็นความสำคัญของวิทยาศาสตร์ในสังคม"
ดร. กันทิมา กุญชร ณ อยุธยา หัวหน้าคณะผู้บริหาร (ร่วม) ด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "กลุ่มทรู ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมสนับสนุนโครงการFameLab ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งในปีนี้ยังเปิดตัวโครงการ SchoolLab สำหรับเยาวชนระดับมัธยมศึกษาอีกด้วย อันสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของกลุ่มทรู ในการสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ โดยเฉพาะความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เป็นเรื่องมีประโยชน์อย่างยิ่ง แต่การสื่อสารให้เป็นที่เข้าใจง่ายและน่าสนใจนั้นค่อนข้างยาก ดังนั้น โครงการนี้จะเป็นอีกหนึ่งเวทีที่ช่วยให้คนไทยได้ฝึกฝนและพัฒนาทักษะด้านนี้ให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ กลุ่มทรู ได้นำศักยภาพด้านการสื่อสารครบวงจร สนับสนุนการประชาสัมพันธ์โครงการ ผ่านช่องทางต่างๆ ให้ไปถึงกลุ่มเป้าหมาย ทั่วประเทศ ตลอดจนถ่ายทอดสดการแข่งขัน FameLab ผ่านช่องทรูปลูกปัญญา ซึ่งถือว่าเป็นช่องรายการยอดนิยมสำหรับเยาวชนและคนในวงการการศึกษาทั่วประเทศ และล่าสุด กลุ่มทรู ได้พัฒนาระบบโหวตออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.famelabvotethailand.comด้วย ซึ่งกลุ่มทรูเชื่อมั่นว่าโครงการนี้ จะเป็นเวทีให้คนไทยและเยาวชนไทย ที่มีทักษะความรู้ความสามารถด้านการสื่อสารเรื่องราววิทยาศาสตร์ ได้มีโอกาสสานต่อแรงบันดาลใจ และพร้อมที่จะก้าวสู่เวทีระดับนานาชาติต่อไป"
นายแอนดรูว์ กลาส ผู้อำนวยการ บริติช เคานซิล ประเทศไทย กล่าวว่า "พันธกิจของเราในการเป็นส่วนหนึ่งของแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทยให้รุ่งเรืองสะท้อนให้เห็นได้จากงานด้านวิทยาศาสตร์ของเรา เราสร้างความร่วมมือระดับนานาชาติเพื่อสนับสนุนนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ไปพร้อมๆกับการสร้างนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ โดยทำให้วิทยาศาสตร์กลายเป็นเรื่องสนุก เข้าใจง่าย และเข้าถึงทุกคนได้ไม่ยาก ซึ่งในโครงการ FameLab และโครงการ SchoolLab เราได้ทำงานร่วมกับนักเรียน นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยรุ่นใหม่ทั่วโลกในการสื่อสารงานวิทยาศาสตร์ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตสังคมของเราให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น"