“จันทพร พลอินตา” ครูผู้สอนชีวิต-คิดวิเคราะห์ด้วย “ภาษาไทย” น้อมนำตามรอย “พระราชดำรัส” มุ่งมั่นใช้การศึกษาพัฒนาท้องถิ่น

ศุกร์ ๒๓ มิถุนายน ๒๐๑๗ ๑๑:๓๓
"คุณครูอดทนนะ คุณครูจะช่วยเขาได้ เพราะว่าที่นี่ต้องการครู ไม่ต้องนึกถึงสิ่งที่เขาสบายกัน ไม่ต้องสนใจ ขอให้ครูอดทน..."

พระราชดำรัสสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมีพระราชปฏิสันถารอย่างไม่ถือพระองค์ เมื่อครั้งที่ทรงติดตาม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินยัง โรงเรียนบ้านแจ่มหลวง ตำบลวัดจันทร์อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ในปี พ.ศ.2522 เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ "จันทพร พลอินตา" มุ่งมั่นทำหน้าที่ "ครู" เพื่อเด็กบ้านป่าปลายดอยด้อยโอกาสในพื้นที่ทุรกันดารห่างไกลมาตลอดทั้งชีวิต โดยใช้ "ภาษาไทย" เป็นเครื่องมือเปิดโลกกว้างการเรียนรู้ที่นำไปสู่การพัฒนาชุมชนท้องถิ่น จนได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้ได้รับรางวัล "ครูยิ่งคุณ" ประจำปี 2560 จาก มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี

"ปีนั้น(2521) สอบบรรจุได้ที่อำเภอฮอด แต่จับพลัดจับผลูสลับกับเพื่อนได้มาอยู่ที่อำเภอแม่แจ่ม พอดีกับที่โรงเรียนบ้านแจ่มหลวงที่อยู่ลึกเข้าไปอีกไม่มีครู ก็เลยอาสาไป การเดินทางตอนนั้นต้องไปเริ่มต้นที่อำเภอสะเมิงพอหมดทางถนนที่รถแล่นได้ ก็ต้องเดินเท้าขึ้นดอยตามหลังม้าไปอีก 2 วันกว่าจะถึงโรงเรียน ไปถึงวันแรกก็เอาลูกอมไปแจกเด็กๆ เสร็จแล้วก็ได้ยินเสียงพูดเป็นภาษากระเหรี่ยงว่าไม่อร่อยแล้วคายออกมา ปรากฏว่าเขากินทั้งๆ ที่ยังไม่แกะห่อ ตอนนั้นเลยเกิดแรงบันดาลใจว่าเด็กๆ ยังต้องการความรู้และทักษะชีวิตอีกเยอะมาก พอปี 2524 ก็ได้ย้ายมาอยู่โรงเรียนวัดแม่กำปอง ตอนนั้นยังเป็นอำเภอสันกำแพง แม้จะอยู่ใกล้บ้านเกิดโดยห่างไปเพียง 11 กิโลเมตร แต่ก็ใช้เวลาเดินทางจากแม่ออนถึงแม่กำปองกว่า 6 ชั่วโมง ทั้งลุยโคลนขุดดินเข็นรถเครื่อง และพื้นที่ตรงนี้เองก็ยังเป็นสีชมพูที่มีความขัดแย้งอยู่ ทั้งโรงเรียนมีครู 3 คน เด็ก 70 กว่าคน ต้องสอนแบบ 20 วันไม่หยุดเลย อีก 10 วันหยุดกลับบ้านเพราะการเดินทางยากลำบากมาก" ครูจันทพรเล่าถึงการทำงานในยุคแรกๆ

ณ ที่แห่งนี้ "ครูจันทพร" ได้เกิดความคิดที่จะใช้ "การศึกษา" พัฒนาคนในชุมชนท้องถิ่นจากการที่ได้เห็นว่าผู้ปกครองของเด็กๆ ส่วนใหญ่ไม่ได้เรียนหนังสือแม้จะเขียนหรือเซ็นชื่อก็ยังทำไม่ได้ จึงไปติดต่อเพื่อหาครู กศน. เข้ามาสอน แต่เพราะหนทางไกลและลำบาก ผลสุดท้ายจึงลงเอยด้วยการทำหน้าที่สอนหนังสือเด็กๆ ในตอนกลางวัน และพอตกกลางคืนก็เปลี่ยนหน้าที่ไปเป็นครู กศน. สอนผู้ใหญ่ในชุมชนควบคู่กันไป

"ไม่ได้คิดว่าจะเป็นภาระเลย แค่อยากเห็นชาวบ้านเขามีความรู้ เพราะได้เห็นมาตั้งแต่แม่แจ่มแล้วว่าการไม่มีความรู้นั้นเป็นอย่างไร ประกอบกันในช่วงนั้นคนในชุมชนก็มีปัญหาเรื่องความเชื่อที่ไม่ลงรอยกัน ก็เลยคิดว่าถ้าเราให้การศึกษาก็จะทำให้เขามีความคิด แล้วระหว่างที่สอนก็จะสอดแทรกเรื่องต่างๆ ให้เขามีความรักในประเทศชาติและบ้านเกิด เป็นคนไทยเหมือนกันจะขัดแย้งกันยังไงก็คุยกันได้ ตอนนั้นก็สอนแบบไม่สอน ชวนเขามาพูดคุยกัน ร้องเพลง เล่านิทานพื้นบ้าน แล้วสอนภาษาไทยแทรกไปด้วย" ครูจันทพรเล่า

ตลอดระยะเวลา 24 ปีกับการทำหน้าที่ๆ มากกว่าแค่การสอนหนังสือของ "ครูจันทพร" ที่โรงเรียนวัดแม่กำปอง ได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่างๆ มากมาย จากหมู่บ้านเล็กๆ ในป่าที่น้อยคนจะรู้จัก สู่พื้นที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ระดับโลกที่ใครๆ อยากที่จะเข้ามาสัมผัสความสวยสดงดงามสักครั้งหนึ่งในชีวิต ปัจจุบัน "ครูจันทพร" ย้ายลงมาสอนอยู่ที่ โรงเรียนวัดห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน และใช้ประสบการณ์ในการสอนหนังสือกว่า 40 ปี คิดค้นพัฒนา "นวัตกรรมการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ทักษะกระบวนการแบบองค์รวม" หรือ "5T Model" เพื่อเชื่อมโยงการเรียนรู้ในวิชาภาษาไทยให้สามารถบูรณาการสอนได้กับทุกสาระวิชา จนได้รับรางวัลพระราชทาน "บัณณาสสมโภช ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี" อย่างต่อเนื่องจำนวนถึง 3 องค์ในรอบ 10 ปี และยังออกแบบสื่อการเรียนการสอนใหม่ๆ อยู่เสมอเพื่อให้การเรียนรู้ภาษาไทยของเด็กๆ เป็นเรื่องสนุก และสามารถพัฒนากระบวนการคิดวิเคราะห์ให้เกิดขึ้นได้

"เมื่อเราเป็นครู เราต้องรู้ว่าหัวใจครูนั้นอยู่ที่เด็ก เด็กต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง หัวใจครูอยู่ที่เด็ก ดังนั้นเราต้องทุ่มเททั้งการสอนและการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมให้กับเด็ก คุณธรรมต้องนำวิชาการ และต้องมีความเมตตากับเด็ก เอาหัวใจเรามอบให้เด็ก แล้วเด็กก็จะมาอยู่ในหัวใจของเรา" ครูจันทพรกล่าวสรุป

สำหรับ รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี นับเป็นรางวัลระดับนานาชาติเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระปรีชาด้านการศึกษาโดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตตั้งนาม "รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี" เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติครูผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิตลูกศิษย์ สร้างคุณประโยชน์ต่อการศึกษาในประเทศต่างๆ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และติมอร์ เลสเต รวม 11 ประเทศ ประเทศละ 1 รางวัล ที่ขับเคลื่อนและดำเนินงานโดย มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี,สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา, กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน โดยจัดให้มีการมอบรางวัลในทุก 2 ปี ซึ่งในปีนี้นับเป็นครั้งที่ 2 โดยจะพระราชทานรางวัลในวันที่ 11 ตุลาคม 2560.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง