"การแข่งขันรายการนี้ ถ้าจะว่าไปคงเหมือนกับการที่บอลไทยได้ไปบอลโลก ทุกคนดีใจ ทุกคนภูมิใจว่าคนไทยทำได้ แม้ผมจะเคยเข้าแข่งขันรายการนี้แล้วหลายครั้งและเคยได้อันดับ 6 เมื่อปี 2011 แต่ปีนี้มันมีความหมายพิเศษเพราะตัวแทนจากประเทศไทยชนะเลิศเป็นแชมป์ World Latte Art Champion 2017 มันทำให้โลกหันมามองว่า บาริสต้าจากประเทศไทยมีดีพอที่จะเป็นแชมป์โลกได้เหมือนกัน"
ความสำเร็จที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่เรื่องโชคดี แต่ทุกก้าวของการเป็นบาริสต้า อานนท์ บอกว่ามันมาจากประสบการณ์ที่ต้องสั่งสม ฝึกฝน เรียนรู้ ทั้งด้านความคิดและการปฏิบัติ "ผมสร้างบรรยากาศการทำงานในร้านให้เหมือนสนามแข่งจะได้ฝึกทุกวัน สร้างทุกวันให้เป็นวันแข่ง ทำกาแฟให้ดีที่สุดให้กับลูกค้าเหมือนส่งให้กรรมการ เวลาต้องเร็ว สะอาด และ เทลายต้องสวย"
นี่ไม่ใช่แค่เคล็ดลับความสำเร็จเดียวเพราะแม้จะเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าแข่งรายการนี้มาแล้ว แต่ยังไม่เคยสัมผัสกับตำแหน่งแชมป์อย่างแท้จริง จนต้องกลับมาทบทวนว่าเพราะอะไร "ก่อนไปแข่งผมนำทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาทบทวนใหม่หมด อะไรคือจุดแข็ง อะไรคือจุดอ่อน เมื่อเห็นข้อผิดพลาดก็ลงมือแก้ไข แต่สิ่งที่ค้นพบมันมากไปกว่าแค่การฝึกฝนและการแก้ไขข้อผิดพลาด เพราะมันคือการเอาชนะใจตัวเอง การลดความเป็นตัวตนลง การเปิดกว้างทางความคิดและการเปิดใจในการรับฟังแก้ไขข้อผิดพลาด และ เพิ่มพูลสิ่งที่จะทำให้เราชนะได้ ทำให้ผมกลับไปสู้ในเวทีเดิมได้อย่าง มั่นใจที่มากขึ้นอีกครั้ง"
การชนะรายการนี้ อานนท์ ทำความฝันได้สำเร็จ ความภูมิใจ ความดีใจ เสียงร่วมแสดงความยินดีจากทั้งคนในและนอกวงการมีมาอย่างท่วมท้น และ การเป็นแชมป์โลกย่อมมีรางวัลที่ยิ่งใหญ่ติดมือมาด้วยเสมอ "ผมช่วยทำลายกำแพงที่ปิดกันและเป็นสิ่งที่ค้างคาใจบาริต้าไทยมานาน ผมทำให้เห็นแล้วว่าคนไทยเป็นแชมป์โลก Latte Art ได้ ถ้าผมทำได้คนอื่นก็ทำได้ ตอนนี้คนทั่วโลกหันมามองกาแฟไทยกันมากขึ้นสิ่งนี้ไม่ใช่พึ่งเกิดขึ้นแต่ทุกคนมองว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็นเมืองกาแฟได้ เราเป็นเพียงไม่กี่ประเทศที่มีแหล่งปลูกกาแฟเอง มีคนคั่วกาแฟที่มีฝีมือ มีบาริสตาที่เก่ง ในเอเชียเมืองกาแฟไม่ใช่มีแค่ เกาหลี ญี่ปุ่น สิงค์โปร จีน แล้ว เพราะไทยก็เป็น 1 ใน 10 ของโลกเหมือนกัน ผมเป็นเพียงฟันเฟืองเล็กๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนเท่านั้น ที่สำคัญตอนนี้คือเราต้องมีความต่อเนื่อง เราต้องมีแชมป์โลกคนที่สอง ที่สาม ต่อไป เราเริ่มต้นมาถูกทางแล้ว เราเหมือน เมลเบิร์น ออสเตรเลีย เมื่อเริ่มต้นในปี 2006 จนวันนี้เมลเบิร์นเป็นเมืองกาแฟชั้นนำของโลก"
อานนท์ มีข้อแนะนำสำหรับบาริสต้าที่มีความฝันเดียวกับเขา และ ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างไทยให้เป็นเมืองกาแฟโลกว่า "ผมไม่อยากเป็นแชมป์โลกคนไทยคนสุดท้าย อยากให้บาริสต้าไทยออกมาแสดงฝีมือ ซึ่งผมพร้อมที่จะให้คำปรึกษาแนะนำในการเตรียมตัวเพื่อแข่งขัน โดยก้าวแรกที่ควรเริ่มต้นคือการแข่งขันรายการ Thailand National Latte Art Championship (TNLAC) ซึ่งเป็นการเฟ้นหาสุดยอดผู้ทำศิลปะฟองนมบนแก้วกาแฟแห่งประเทศไทย โดยปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 5 ผู้ชนะการแข่งขันก็จะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งในเวที ระดับโลก World Latte Art Champion ต่อไป ซึ่งที่นี่ก็เป็นก้าวแรกในการเป็นแชมป์โลกของผมเหมือนกัน"
ซึ่งในปีนี้การแข่งขัน Thailand National Latte Art Championship (TNLAC) 2018 กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้งในงานฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ 2017 เป็นความร่วมมือกันระหว่างสมาคมบาริสต้าไทย และ บริษัท ยูบีเอ็ม บีอีเอส การตัดสินจะใช้คณะกรรมการระดับสากลทั้งในและต่างประเทศร่วมกันในการตัดสิน โดยการแข่งขันฯ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-9 กันยายน 2560 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
อานนท์ ฝากถึงผู้เข้าร่วมในการแข่งขัน Thailand National Latte Art Championship (TNLAC) 2018 ครั้งนี้ว่า "การลงแข่งเป็นการฝึกฝน เรียนรู้สิ่งใหม่ และ ยังได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนในวงการเดียวกันมันเป็นความคุ้มค่าที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันครับ สำหรับคำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับผู้เข้าร่วมแข่งขัน คือ การเตรียมตัว ต้องมีการวางแผน ศึกษาข้อมูลเทรนด์กาแฟของโลก ต้องประเมิณตัวเองว่าเทลายไหนเพื่ออะไร เทแบบนี้แล้วได้คะแนนเท่าไหร่ และ ต้องเพิ่มเติมตรงไหนเพื่อให้ได้คะแนนที่ดีขึ้น ที่สำคัญต้องศึกษาและอ่านกฎ กติกา การแข่งขันให้ละเอียดชัดเจน ผมขอเอาใจช่วยทุกคน และ หากมาร่วมงานหรือชมการแข่งขัน Thailand National Latte Art Championship (TNLAC) 2018 ก็มาพูดคุยทักทายกับผมได้ครับ "