นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า พายุดีเปรสชันฮาโตะได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังเดิม และพื้นที่ที่ต้องรองรับน้ำจากแม่น้ำต่างๆ ที่ไหลมาสมทบ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ประสานจังหวัดพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเน้นย้ำแนวทางปฏิบัติ ดังนี้ 1) การตรวจสอบข้อมูลพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ให้จังหวัดตรวจสอบข้อมูลพื้นที่เสี่ยงได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตเศรษฐกิจ พื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม สำหรับวางแผนการบูรณาการบริหารจัดการน้ำและรับมือสถานการณ์ภัยในพื้นที่ 2) การเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ภัย ให้จังหวัดประสานอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดเจ้าหน้าที่ติดตามข้อมูลปริมาณน้ำฝน สถานการณ์น้ำ และการคาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้สามารถประสานการแจ้งเตือนภัย ปฏิบัติการเผชิญเหตุ และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบได้อย่างรวดเร็ว 3) การบูรณาการทรัพยากรด้านสาธารณภัย โดยสนธิกำลังกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมด้านกำลังพล ทั้งทหาร ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต เจ้าหน้าที่มูลนิธิ อาสาสมัคร พร้อมวัสดุอุปกรณ์เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย เพื่อให้สามารถเข้าปฏิบัติการในพื้นที่ประสบภัยได้อย่างทันท่วงทีและทั่วถึงทุกพื้นที่ 4) การปฏิบัติการของกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ให้จังหวัดบูรณาการการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยกับทุกหน่วยงานในพื้นที่ โดยแบ่งมอบภารกิจและพื้นที่รับผิดชอบอย่างชัดเจนตามแผนเผชิญเหตุอุทกภัยจังหวัด เพื่อให้การสั่งการแก้ไขปัญหาและการสั่งใช้ทรัพยากรด้านสาธารณภัยมีเอกภาพ พร้อมเชื่อมโยงการอำนวยการและการสั่งการเชิงนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้แก่ประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ริมลำน้ำ ที่ลาดชันเชิงเขา บริเวณริมชายฝั่งทะเลและพื้นที่ที่เคยประสบปัญหาอุทกภัยให้ระมัดระวังอันตรายจากสถานการณ์ภัยในช่วงฝนตกหนักสะสมในพื้นที่ โดยติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ประชาชนเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยและใช้เป็นข้อมูลประกอบการวางแผนตัดสินใจแก้ไขปัญหากรณีเกิดสถานการณ์ภัยในพื้นที่
นายฉัตรชัย กล่าวต่อไปว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ประสานจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศ เพิ่มความถี่ในการตรวจวัดปริมาณฝน สังเกตการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป