กระทรวงอุตฯ จับมือหน่วยงาน ศก.ร่วมเป็นเจ้าภาพใหญ่สัมมนาไทยแลนด์ 4.0 พร้อมขนนักลงทุนญี่ปุ่นกว่า 500 ราย จับจองพื้นที่อีอีซี

ศุกร์ ๑๕ กันยายน ๒๐๑๗ ๑๖:๓๖
· กระทรวงอุตฯ ดึงนักลงทุนไทย – ญี่ปุ่น 1200 ราย เปิดโต๊ะเจรจาบิ๊กแมทชิ่งธุรกิจ 4 โซน

กระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมนำหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ พร้อมคณะนักลงทุนญี่ปุ่นกว่า 560 ราย เพื่อหารือและขยายผลการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมร่วมกันในช่วงระหว่างวันที่ 11 – 13 กันยายน 2560 โดยเตรียมเป็นเจ้าภาพหลักพร้อมจัดกิจกรรมสำคัญต่าง ๆ อาทิ การนำคณะนักลงทุนญี่ปุ่นลงพื้นที่เยี่ยมชมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานของนิคมอุตสาหกรรมบนพื้นที่จริงของระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก การจัดสัมมนาใหญ่ในหัวข้อ Symposium on Thailand 4.0towards Connected Industries ที่ร่วมกับอีก 3 หน่วยงานเศรษฐกิจ การจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ประกอบการไทย ที่มีศักยภาพกว่า 300 ราย กับคณะของญี่ปุ่นที่ได้แบ่งเป็น 4 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 Automobiles โซนที่ 2 Electronicsโซนที่ 3 Medical & Agriculture, Biotechnology, Food และ โซนที่ 4 Service Industries โดยยังจะได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำหนดพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับที่ตั้งการลงทุน สำหรับนักลงทุนจากญี่ปุ่น ที่จะตัดสินใจลงทุนในประเทศไทยได้ตรงกับความต้องการของแต่ละสาขาต่อไป

ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 11 – 13 ก.ย. นี้ จะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับภาคอุตสาหกรรม การค้าและการลงทุนของไทยอย่างมาก เนื่องจากจะมีการเดินทางของคณะนักทุนญี่ปุ่นรายใหญ่กว่า 560 ราย ที่นำโดย Mr. Hiroshige Seko รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (METI) พร้อมด้วยหน่วยงานเศรษฐกิจภาครัฐ และภาคเอกชน อาทิ สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (KEIDANREN), องค์การส่งเสริมการค้าของญี่ปุ่นกรุงเทพ(JETRO), องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (JICA), องค์การสนับสนุน SMEs แห่งประเทศญี่ปุ่น (SMRJ) เพื่อหารือแนวทางการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและญี่ปุ่น สำหรับสิ่งที่เป็นประเด็นหลักที่นอกเหนือจากการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ และการรวมตัวนักลงทุนที่มีจำนวนมากที่สุดเพื่อเพิ่มน้ำหนักความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของประเทศไทยแล้ว กิจกรรมในครั้งนี้ยังเป็นการ ตอกย้ำทิศทางการดำเนินงานทั้งในเรื่องของการพัฒนา 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย การยกระดับพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก การส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ SMEs ตลอดจนแผนในการลงทุนด้านนวัตกรรม ระบบดิจิทัลและเทคโนโลยี โดยมียุทธศาสตร์ Connected Industries และ Thailand 4.0ที่จะนำพาทั้ง 2 ประเทศไปสู่เป้าหมายแบบต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ พร้อมเชื่อมเศรษฐกิจไทยไปสู่ระดับโลกได้มากขึ้น

สำหรับกระทรวงอุตสาหกรรมจะเป็นหนึ่งในเจ้าภาพหลักของการนำคณะเดินทางเพื่อชมความพร้อมของประเทศไทยในครั้งนี้ และเบื้องต้นได้เตรียมจัดกิจกรรมที่สำคัญ ๆ ได้แก่ การสร้างกรอบความร่วมมือและทำความเข้าใจในการพัฒนา 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย หรือ S-Curve การลงพื้นที่เยี่ยมชมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานของนิคมอุตสาหกรรมบนพื้นที่จริงของระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง นิคมอุตสาหกรรมเหมราช สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ สถาบันวิทยสิริเมธี ในจังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง ตลอดจนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาและกำหนดพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการลงทุน หรือเป็นที่ตั้งของ สถานประกอบกิจการแต่ละประเภทไว้ให้ชัดเจน เพื่อให้พร้อมสำหรับนักลงทุนจากญี่ปุ่นที่จะตัดสินใจลงทุนในประเทศไทยได้ตรงกับความต้องการของแต่ละสาขา

ดร.อุตตม กล่าวเสริมว่า กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จะเป็น 4 หน่วยงานเศรษฐกิจหลักในการจับมือกันร่วมจัดสัมมนาใหญ่ในหัวข้อ Symposium on Thailand 4.0 towards Connected Industries โดยในกิจกรรมนี้จะมีนักลงทุนญี่ปุ่นรายใหม่เข้าร่วมประมาณเกือบ 600 ราย นักลงทุนและผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่อยู่ในไทยอยู่แล้วอีกประมาณ 400 ราย รวมทั้งผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายเล็กของไทยอีกกว่า 300 ราย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจอุตสาหกรรมในประเภทอาหารและเกษตรแปรรูป ยานยนต์และชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ ผู้ประกอบการจากนิคมอุตสาหกรรม อาทิ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กลุ่ม SCG กลุ่มไทยเบฟกลุ่มเซ็นทรัล อายิโน๊ะโมโต๊ะ คูโบต้าคอร์ปอเรชั่น มิตซุยซูมิโตโม่อินชัวรันส์ ฯลฯ ที่จะเข้าร่วมรับฟังยุทธศาสตร์และแนวทางในการขับเคลื่อนพร้อมกัน พร้อมด้วยการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพกว่า 300 ราย กับคณะของญี่ปุ่นที่ได้แบ่งเป็น 4 โซนตามประเภทอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ โซนที่ 1 Automobiles (Smart Automobiles, Aviation, Maintenance, Related Industries)โซนที่Electronics (Smart Electronics, Robotics และ Digital) โซนที่ 3 Medical & Agriculture, Biotechnology, Food (Medical & Wellness Tourism, Medical Hub, Agriculture, Biotechnology, Food, Biofuel, Biochemical) และ โซนที่ 4 Service Industries (Trading, Retail, Logistics, Industrial Park) นอกจากนี้ ยังมีโซนที่ 5 ที่หน่วยงานภาครัฐของไทยที่เกี่ยวข้องกับการค้าการลงทุน เช่น การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมศุลกากร สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จะมาให้ข้อมูลกับนักลงทุนญี่ปุ่นด้วย

กระทรวงอุตสาหกรรมยังมีแผนที่จะเร่งให้นักลงทุนญี่ปุ่นมีการลงทุนในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ธุรกิจท้องถิ่น พร้อมอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นในไทยมาก่อนให้มากขึ้น โดยหลังจากนี้จะหยิบยกมาตรการการเพิ่มสิทธิประโยชน์ และการแก้ไขกฎหมายบางส่วนที่เอื้อต่อการลงทุนเพื่อชักจูงนักลงทุนญี่ปุ่นและชาติอื่น ๆ นอกจากนี้ กระทรวงฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังหวังเป็นอย่างยิ่งอีกว่า ผลที่จะได้รับที่นอกเหนือจากการที่ญี่ปุ่นจะลงทุนและใช้ไทยเป็นฐานการผลิตและเกิดการลงทุนต่อไปยังเพื่อนบ้านมากขึ้นแล้วนั้น ยังจะเกิดการร่วมลงทุนการซื้อขายวัตถุดิบและชิ้นส่วน การถ่ายทอดเทคโนโลยีที่ญี่ปุ่นมีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์อัจฉริยะ (Smart Product) อาทิ ด้านยานยนต์ อาหารแปรรูป ทั้งยังจะเป็นหนทางไปสู่การพัฒนานวัตกรรมในสาขาใหม่ ๆ ตามแผนพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ อุตสาหกรรมอากาศยาน อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ อีกด้วยดร.อุตตม กล่าวปิดท้าย

สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กระทรวงอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0 2202 4435 หรือเข้าไปที่www.industry.go.th หรือ facebook.com/industryprmoi

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๐ เม.ย. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตอกย้ำปณิธาน สร้างชีวิต มอบเครื่องเล่นสนาม อุปกรณ์ครุภัณฑ์ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคแก่เด็กนักเรียนในส่วนภูมิภาค ณ โรงเรียนวัดนาร่อง อ.เมือง
๓๐ เม.ย. เฮงลิสซิ่ง จับมือ วิริยะประกันภัย เสนอ ประกันภัยอุ่นใจ ทางเลือกใหม่สำหรับประกันภัยคุ้มครองบ้าน
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์-สมาคมกีฬาตะกร้ออาวุโส-สมาคมกีฬา จ.นครศรีฯ เอ็มโอยูเตรียมระเบิดศึกตะกร้อเยาวชนฮอนด้า ยูเนี่ยน
๓๐ เม.ย. หลักสูตรการประยุกต์ใช้ NODE-RED ในงานอุตสาหกรรม เชื่อมต่อ CLOUD PLATFORM NEXIIOT
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์ คว้า 2 รางวัลระดับโลก 3G Award 2024
๓๐ เม.ย. YouTrip เปิดอินไซต์ช่วงหยุดยาวคนไทยแห่เที่ยว ญี่ปุ่น-จีน ยอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 150%
๓๐ เม.ย. คณะการท่องเที่ยวฯ DPU ให้ความสำคัญต่องานบริการ จัด HT Makeup Competition 2024 เพิ่มทักษะแต่งหน้าให้กับ นศ.
๓๐ เม.ย. กิจกรรมดี ๆ สำหรับเยาวชนหญิงที่หลงใหลศิลปะการทำอาหาร ในโครงการ Women for Women (WFM) Internship Program ร่วมฝึกงานในร้านอาหารโพทง
๓๐ เม.ย. ผู้ถือหุ้น CIVIL โหวตอนุมัติ จ่ายปันผล 0.012 บาท/หุ้น ทิศทางธุรกิจปี 67 เติบโตต่อเนื่อง
๓๐ เม.ย. PRM จัดประชุม E-AGM ปี 67 อนุมัติจ่ายปันผล 0.26บ./หุ้น