สำหรับกิจกรรมภายในงานมีการแสดงนิทรรศการ "ตามรอยพระราชปณิธาน ปราชญ์แห่งดิน" ประกอบด้วย นิทรรศการสหประชาชาติสดุดี นิทรรศการฟื้นฟูปฐพีด้วยพระปรีชาพ่อ นิทรรศการสานต่องานพ่อทำ และนิทรรศการน้อมนำศาสตร์พระราชาสู่ความยั่งยืน นิทรรศการจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การเสวนาวิชาการ การประกวดวาดภาพและสุนทรพจน์ระดับเยาวชน การแข่งขันตอบปัญหา กิจกรรมสาธิตและฝึกปั้นภาชนะจากดิน กิจกรรมนั่งรถพ่วงชมแปลงเกษตรทฤษฏีใหม่ แปลงปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูกตามพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9 สวนไม้มงคล หลุมดินปัญหา พลับพลาที่ประทับและต้นประดู่ทรงปลูก รวมถึงการออกร้านจำหน่ายสินค้า และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรตลอดการจัดงาน
"กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอยืนยันเจตนารมณ์จะสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยการน้อมนำพระราชดำรัส ดำเนินตามพระราชกรณียกิจ เพื่อรักษาและใช้ประโยชน์ทรัพยากรดินและน้ำตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาการเกษตรของไทย และยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้เกิดความมั่นคงในอาชีพและรายได้ สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีเกียรติและมีความสุข ตามพระราชปณิธานของพระองค์สืบไป" นายกฤษฎา กล่าว
ทั้งนี้ สหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติ (IUSS) ได้มีมติเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2555 ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัล "นักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม" (The Humanitarian Soil Scientist) แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เป็นพระองค์แรกของโลก เพื่อยกย่องและถวายราชสดุดีพระเกียรติคุณให้เป็นที่ประจักษ์ถึงพระวิสัยทัศน์ และพระราชกรณียกิจเกี่ยวกับการพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรดินอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร นอกจากนี้ ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญที่ 68 มีมติเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2556 รับรองให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็น "วันดินโลก" (World Soil Day) และปี 2558 เป็นปีดินสากล (International Year of Soils 2015) มีผลให้วันดินโลกได้รับการบรรจุในปฏิทินปฏิบัติงานขององค์การสหประชาชาติอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ ปี 2557 เป็นต้นไป