คอนเน็กซ์-อีดี ร่วมพัฒนาโรงเรียน ยกระดับคุณภาพชีวิต เสริมกิจกรรม ดนตรี กีฬา มัคคุเทศก์น้อย สร้างคนดี-คนเก่ง

พุธ ๑๓ ธันวาคม ๒๐๑๗ ๑๕:๓๑
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ร่วมพัฒนาการศึกษาชาติร่วมกับโรงเรียน บ้าน และศาสนาในท้องถิ่น พุ่งเป้ายกระดับความรู้ทางวิชาการ เพิ่มทักษะการงานอาชีพ สร้างคนดี-คนเก่ง การเป็นผู้นำ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคมอย่างยั่งยืน

ซีพีเอฟ ร่วมสนับสนุนโครงการผู้นำเพื่อการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน (Connext Ed) ภายใต้โครงการประชารัฐตามนโยบายรัฐบาล ด้านการศึกษา ให้กับโรงเรียนตำบลบ้านโพธิ์ จังหวัดนครราชสีมา โดยมุ่งมั่นการสร้างความเป็นผู้นำ สู่การพัฒนาทักษะในครูและองค์ความรู้ในเด็ก ตลอดจนการสร้างทักษะอาชีพตามความถนัดและการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อยกระดับสังคมอย่างยั่งยืน

นายเอนก บุญหนุน ประธานบริหารโครงการ Connext ED บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า CPF มีความมุ่งมั่นและตั้งใจในการยกระดับการศึกษาของประเทศ แม้จะเป็นเรื่องยากแต่เราพยายามสร้างสำนึกในการทำงานร่วมกันระหว่าง โรงเรียน ชุมชน และศาสนา ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สิ่งที่เราดำเนินการภายใต้โครงการนี้ คือ การปรับฐานเศรษฐกิจผ่านโครงการเกษตรผสมผสาน ให้ทุกคนอิ่มท้อง สร้างแนวคิดให้กับชุมชน ว่าชุมชนคือโรงเรียนที่ 2 และโรงเรียนคือบ้านที่ 2 ซึ่งชุมชนและครูจะเป็นผู้หล่อหลอมให้เด็กเป็นคนดี ขณะที่ ICT เป็นเครื่องมือและองค์ความรู้ในการส่งเสริมให้ครูและนักเรียนคิดนอกกรอบ ที่สำคัญการสร้าง 7 อุปนิสัยของผู้มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแนวคิดของครู นักเรียนและคนในชุมชน สู่ความเป็นผู้นำ"

ในการสนับสนุนโครงการคอนเน็กซ์ อีดี บริษัทฯยังได้ส่งเสริมศักยภาพของคนรุ่นใหม่ในบริษัทเอกชนเข้ามาเป็นอาสาสมัครผู้นำ (School Partner) ในการยกระดับการศึกษาของประเทศด้วย โดยซีพีเอฟ มีอาสาสมัครผู้นำจำนวน 65 คน และมีโรงเรียนในความรับผิดชอบทั้งหมด 195 แห่ง ครอบคลุม 3 จังหวัด คือ นครราชสีมา บุรีรัมย์และชัยภูมิ

นายเอนก กล่าวต่อไปว่า เป้าหมายของ ซีพีเอฟ คือการปลูกฝังเด็กให้เป็นคนดี-คนเก่ง มีความรู้ทั้งทางวิชาการและวิชาชีพควบคู่กับคุณธรรม ที่สำคัญเด็กสามารถคิดอย่างสร้างสรรค์และเลือกแนวทางการดำเนินชีวิตได้ตามศักยภาพและความถนัดอย่างถูกต้อง โดยอาสาสมัครผู้นำของ ซีพีเอฟ จะร่วมหารือกับผู้บริหารโรงเรียนและครูอย่างใกล้ชิด เพื่อกำหนดกิจกรรมให้เหมาะสมกับทั้งตัวครูและนักเรียนรวมถึงการพัฒนาการงานอาชีพให้นักเรียนสามารถพัฒนาเป็นอาชีพได้ในอนาคต เช่น การปูพื้นฐานทางด้านการเกษตร การสร้างอาชีพของตัวเองในด้านการปรุงอาหาร การทำอิฐบล๊อก การให้บริการด้านมัคคุเทศก์ รวมถึงสร้างพื้นฐานทางอารมณ์ที่ดีผ่านเสียงดนตรี และการปลูกฝังการรู้แพ้รู้ชนะ มีน้ำใจเป็นนักกีฬา เป็นต้น ซึ่งจะเป็นผลดีในการยกระดับคุณภาพชีวิตและสังคมไทยให้ได้มาตรฐาน ขณะเดียวกันจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

นายวิรัช คุ้มกลาง ผู้อำนวยการโรงเรียนตำบลบ้านโพธิ์ กล่าวว่า ซีพีเอฟ เข้ามาให้การสนับสนุนงบประมาณในการจัดกิจกรรม 3 ด้าน คือ โครงการดนตรี โครงการกีฬา และโครงการมัคคุเทศก์น้อย รวมถึงการให้การสนับสนุน ICT เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนและครูได้เรียนรู้จากนอกห้องเรียนเพิ่มขึ้น ซึ่งแต่ละโครงการมีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาเด็กกลุ่มเสี่ยงจากยาเสพติด ขณะเดียวกันมุ่งเพิ่มทักษะด้านกีฬา การงานอาชีพและเพิ่มทักษะการสื่อสารอย่างถูกต้อง เพื่อให้เด็กนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนสามารถนำไปประกอบเป็นอาชีพได้ในอนาคต

สำหรับ 3 โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์และเป้าหมายแตกต่างกัน โดย "โครงการสุนทรียภาพต้องมีดนตรีในหัวใจ" เพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักเรียนให้มีความรับผิดชอบ ฝึกเรื่องระเบียบวินัย การใช้ดนตรีในการสื่อสาร และการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ส่วน "โครงการกีฬาพาสุข" ต้องการให้นักเรียนหันมาเล่นกีฬาเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงห่างไกลจากยาเสพติด

ขณะที่ "โครงการ English for Life by มัคคุเทศก์น้อย" เป็นการเพิ่มทักษะการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารให้กับนักเรียน เนื่องจากโรงเรียนอยู่ในแหล่งวัฒนธรรม มีปราสาทหินพนมวัน อุโมงค์ต้นตาล เป็นชุมชนทำสินค้าถักทอและเครื่องจักสาน ซึ่งการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษจะทำให้นักเรียนเป็นตัวกลางในการถ่ายทอดวัฒนธรรม และใช้ในการประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ท้องถิ่นอย่างยั่งยืนได้เป็นอย่างดีในอนาคต

"โรงเรียนเปิดให้นักเรียนเลือกและเข้าร่วมโครงการด้วยความสมัครใจ ซึ่งช่วงแรกจะชักชวนเด็กที่มีพรสวรรค์เข้ามาร่วมโครงการเพื่อเป็นตัวอย่าง และเป็นแรงจูงใจให้กับเด็กกลุ่มเสี่ยงให้เข้าร่วมกิจกรรม และจากการติดตามผลเราพบว่าเด็กมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปในทางที่ดีขึ้นทั้งในเรื่องการมีวินัยและความรับผิดชอบ" นายวิรัช กล่าว

ในปี 2018 โครงการมีเป้าหมายจะเดินหน้าให้บรรลุเป้าประสงค์ยุทธศาสตร์ 5 ประการ คือ 1.ความโปร่งใสของข้อมูลสถานการศึกษา 2. กลไกการตลาดและการมีส่วนร่วมของชุมชน 3. การพัฒนาและส่งเสริมผู้นำรุ่นใหม่ 4. การเรียนการสอนที่มุ่งให้เกิดเป็นศูนย์กลาง และ 5.การเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ของสถานศึกษา และจะขยายโรงเรียนประชารัฐเพิ่มขึ้นอีก 1,400 แห่ง รวมเป็นกว่า 4,700 โรงเรียนทั่วประเทศ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๐:๕๙ อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud