พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยในงานแถลงข่าวว่าสืบเนื่องจากการที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม เสด็จพระราชดำเนินเปิดงานแนะแนวอาชีพและงานแข่งขันฝีมือช่างแห่งชาติครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ.2513 ณ ลุมพินีสถาน กรุงเทพมหานคร และทรงมีพระราชดำรัสในพิธีเปิดงานดังกล่าวทรงกล่าวถึงปัญหาเรื่องช่างฝีมือซึ่งต้องปรับปรุงให้มีความประณีตและมีประสิทธิภาพได้มาตรฐาน จากพระราชดำรัสของพระองค์ได้แสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีความห่วงใยต่อกำลังแรงงานของไทย และทรงให้ความสำคัญกับมาตรฐานงานช่างของคนไทยเป็นอย่างยิ่ง กระทรวงแรงงานโดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) ได้น้อมนำแนวพระราชดำรัส พร้อมกับแนวคิดขององค์การการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติหรือเรียกว่า WorldSkills International ได้ดำเนินการจัดงานแข่งขันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ภายใต้ชื่อว่า "งานแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ" จัดแข่งขันมาอย่างต่อเนื่องรวม 26 ครั้ง และในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 27
กระทรวงแรงงานได้ร่วมกับภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษาจัดการแข่งขันและพัฒนารูปแบบการแข่งขัน เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนแสดงทักษะฝีมือให้เป็นที่รับรู้ของประชาชนทั่วไป สนับสนุนให้กำลังแรงงานไทยมีความพร้อมที่จะพัฒนาทักษะฝีมือของตนเองทัดเทียมมาตรฐานสากล ตามแผนพัฒนากำลังคน 20 ปีของรัฐบาล และนโยบายเร่งด่วน (Agenda Based) ด้านการยกระดับทักษะฝีมือแรงงาน รวมถึงเป็นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐเอกชน และสถาบันการศึกษาในการพัฒนาทักษะกำลังแรงงานให้ทันต่อวิทยาการและเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เยาวชนที่ชนะการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ จะได้รับคัดเลือกไปการแข่งขันฝีมือแรงงานทั้งในระดับอาเซียน และระดับนานาชาติ และในช่วงระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม-2 กันยายน 2561 ณ อิมแพค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี จะมีแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 12 ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ และไปแข่งขันในระดับนานาชาติ ณ สหพันธรัฐรัสเซีย เยาวชนที่เข้าแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติมีอายุระหว่าง 15-21 ปี (เกิดระหว่างปีพ.ศ.2540-2545) ยกเว้นสาขาเมคคาทรอนิกส์ อายุระหว่าง 15-24 ปี (เกิดระหว่างปีพ.ศ.2537-2545) และเป็นผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจากการแข่งขันระดับภาคจากทั่วประเทศ
พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว กล่าวต่อไปว่าการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ ครั้งที่ 27 (WorldSkills Thailand 2018) มีการจัดการแข่งขันทั้งหมด 28 สาขา มีผู้เข้าร่วมแข่งขัน 375 คน ดังนี้ กลุ่มสาขาที่หนึ่ง อาชีพเทคโนโลยีก่อสร้างและอาคาร 1.ปูกระเบื้อง 2.เทคโนโลยีระบบไฟฟ้าภายในอาคาร 3.ก่ออิฐ 4.ไม้เครื่องเรือน 5.ต่อประกอบมุมไม้ 6.เทคโนโลยีระบบทำความเย็น 7.อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (ประเภททีม) กลุ่มสาขาที่สอง อาชีพแฟชั่นและครีเอทีฟ 8.จัดดอกไม้ 9.แฟชั่นเทคโนโลยี 10.กราฟิกดีไชน์ กลุ่มสาขาที่สาม อาชีพเทคโนโลยีการสื่อสาร 11.เทคโนโลยีสารสนเทศ 12.เว็บดีไซน์ กลุ่มสาขาที่สี่ อาชีพเทคโนโลยีอุตสาหกรรมการผลิต 13.เมคคาทรอนิกส์ (ประเภททีม) 14.เขียนแบบวิศวกรรมเครื่องกลด้วยคอมพิวเตอร์ 15.เครื่องจักรกล CNC (เครื่องกลึง) 16.เครื่องจักรกล CNC (เครื่องกัด) 17.เทคโนโลยีงานเชื่อม 18.อิเล็กทรอนิกส์ 19.หุ่นยนต์เคลื่อนที่ (ประเภททีม) 20.มาตรวิทยาด้านมิติ (ประเภททีม) 21.ระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม (ประเภททีม) 27.ซ่อมบำรุงเครื่องจักรกล (ประเภททีม)กลุ่มสาขาที่ห้า บริการส่วนบุคคลและสังคม 23.แต่งผม 24.เสริมความงาม 25.ประกอบอาหาร 26.บริการอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มสาขาที่หก อาชีพขนส่งและโลจิสติกส์ 27.เทคโนโลยียานยนต์ และ 28.สีรถยนต์ มีเงินรางวัลให้เยาวชนที่ชนะการแข่งขันครั้งนี้ ดังนี้ ประเภทเยาวชน เหรียญทอง 30,000 บาท เหรียญเงิน 15,000 บาท เหรียญทองแดง 10,000 บาท และรางวัลชมเชย 5000 บาท ประเภททีมเยาวชน เหรียญทอง 60,000 บาท เหรียญเงิน 30,000 บาท เหรียญทองแดง 20,000 บาท และรางวัลชมเชย 10,000 บาท
"การแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติในครั้งนี้จะเป็นการสร้างแรงกระตุ้นให้กำลังแรงงานไทยเกิดความตื่นตัวสนใจที่จะพัฒนาความรู้ ความสามารถของตนเองให้ทัดเทียมกับมาตรฐานสากล เยาวชนและประชาชนทั่วไปมีความเข้าใจตระหนักในคุณค่าและประโยชน์ของการทำงานที่เน้นทักษะฝีมือในทุกกลุ่มอาชีพ จะส่งผลให้สถานประกอบการเห็นความสำคัญในการใช้กำลังแรงงานฝีมือเพื่อผลิตสินค้าและบริการที่มีคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาดการค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อไป" รมว. แรงงาน กล่าวทิ้งท้าย