ครบรอบ 80 ปี คณะบัญชี จุฬาฯ จัดปาฐกถา ชี้ทิศทาง นำเศรษฐกิจไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

จันทร์ ๐๙ เมษายน ๒๐๑๘ ๑๕:๔๖
ในโอกาสครบรอบ 80 ปีของการสถาปนาคณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "ปฏิวัติธุรกิจ ปฏิรูปการศึกษาBusiness Transformation through Flagship Education" โดย ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ศาสตราภิชานกองทุนเพื่อการบริหารวิชาการและการศึกษาของคณะฯ และดำรงตำแหน่ง ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ และอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย โดยกล่าวถึงเศรษฐกิจโลกที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปี 2561-2562 จะมีการขยายตัวถึงร้อยละ 3.9 ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีขยายตัวตาม แต่อย่างไรก็ตามในการส่งเสริมให้เศรษฐกิจไทยมีการเติบโตที่ยั่งยืน ภาครัฐยังต้องให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างพื้นฐานใน 3 เรื่อง คือ การพัฒนาคน การลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ และความล้าสมัยของโครงสร้างสถาบันทางเศรษฐกิจ

ดร.ประสารกล่าวว่าที่ผ่านมาแผนเศรษฐกิจของไทยเราให้ความสำคัญกับเรื่องของปริมาณมากกว่าการพัฒนาในเชิงคุณภาพ ทำให้เศรษฐกิจไทยโดยรวมมีปัญหาในเชิงโครงสร้างซึ่งเป็นปัจจัยฉุดรั้งการพัฒนาประเทศโดยเฉพาะภายใต้ความพยายามขับเคลื่อนประเทศของภาครัฐ และเอกชน กลับเดินหน้าได้ช้ากว่าที่คาด และมีอาการไม่ต่างอะไรกับการเป็นอัมพาตทางเศรษฐกิจ ซึ่งต้องรีบเร่งรักษาเสียแต่เนิ่นๆ

"ทศวรรษก่อนวิกฤติต้มยำกุ้ง เราเคยเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 9 ต่อปี แต่ระยะหลังเราโตเฉลี่ยแค่ร้อยละ 4 นั่นเพราะผลประโยชน์จากการพัฒนายังไม่กระจายไปสู่ประชาชนกลุ่มต่างๆ อย่างทั่วถึง ประเทศไทยติดอยู่ในกลุ่มที่มีปัญหาความเหลื่อมล้ำระดับต้น ๆ ของโลก เป็นความเหลื่อมล้ำทั้งในด้านเศรษฐกิจ และการศึกษา ทำให้คุณภาพการศึกษาต่ำลง ซึ่งส่งผลเป็นลูกโซ่ต่อผลิตภาพคนไทย และศักยภาพทางเศรษฐกิจให้ต่ำลงตาม โดยการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงนี้ แม้จะเป็นสัญญาณที่ดี แต่ในความเป็นจริงแล้วถือเป็นการขยายตัวตามวัฎจักรเศรษฐกิจ แต่ไม่ได้มาจากศักยภาพทางการแข่งขันที่แท้จริงของไทย ดังนั้นภาครัฐ และเอกชนควรมองไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง เพื่อพยายามแก้ปัญหาโครงสร้างดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกอันเกิดจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ที่ทำให้โครงสร้างสถาบันทางเศรษฐกิจที่เคยออกแบบไว้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อหลายสิบปีก่อน กลายเป็นความล้าสมัยที่ไม่สามารถตอบโจทย์ประเทศ และปรับตัวให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ ซึ่งถือเป็นมิติที่มีความสำคัญ เพราะภาครัฐเป็นผู้กำหนดนโยบาย กฎหมาย กฎเกณฑ์ และกติกา ซึ่งจะมีผลต่อการสร้างแรงจูงใจ และระบบนิเวศ ที่เอื้อให้เศรษฐกิจสามารถพัฒนาได้เต็มศักยภาพ"

"3 เรื่องหลักที่เราควรทำพร้อมกันนับจากนี้ คือ เรื่องของคุณภาพคน ต้องเน้นการเพิ่มทักษะความสามารถของคนทำงานทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร หรือแรงงาน และคนทำงานในด้านอื่นๆ ทำให้คนของเรามีความรู้ ในเชิงของความสามารถในการใช้เทคโนโลยีซึ่งจะยกระดับความสามารถของภาคธุรกิจไทย เราต้องปรับโครงสร้างพื้นฐานการศึกษา เพื่อให้เด็กไททุกคนไม่พลาดโอกาสในการเติบโตขึ้นมาเป็นคนระดับคุณภาพของประเทศ ขณะเดียวกันโครงสร้างพื้นฐานด้านสถาบันต่างๆ ซึ่งอดีตได้ออกแบบไว้ดีแต่ใช้ได้ดีในอดีตต้องปรับปรุงให้เข้ากับบริบทในยุคที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเช่น การวางทิศทางนโยบายประเทศ หรือการบริหารจัดการรัฐวิสาหกิจ หากทำทั้งสามอย่างนี้ได้ดี ก็จะทำให้การเติบโตของไทยเป็นไปอย่างมีศักยภาพ"

ทั้งนี้ ดร.ประสารกล่าวว่าการปฏิรูปการศึกษาไม่เพียงเป็นช่องทางยกระดับศักยภาพในการแข่งขันของประเทศเท่านั้น แต่ยังมีนัยถึงการปลดล็อคศักยภาพลูกหลานไทยให้สามารถเดินหน้าได้เต็มศักยภาพ และเป็นความหวังของประเทศได้อย่างเต็มภาคภูมิ และช่วยลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ โดยในการปฏิรูปการศึกษาจะต้องดำเนินการใน 4 มิติพร้อมกันคือ การสร้างความเท่าเทียมด้านการศึกษา การสร้างคุณภาพไม่ใช่เน้นแค่ปริมาณ การปฏิรูปการศึกษาให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก และบทบาทของมหาวิทยาลัยในการสร้างองค์ความรู้ นวัตกรรม การนำความรู้ไปพัฒนาสังคม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง