นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ตามมติคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้เห็นชอบในหลักเกณฑ์โครงข่ายแบบเปิด (Open Access Network) ดังนี้ 1) โครงข่ายเน็ตประชารัฐเป็นโครงข่ายที่รัฐบาลลงทุน ซึ่งรัฐบาลเปิดให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ทุกราย สามารถเชื่อมต่อจากโครงข่ายเน็ตประชารัฐไปยังบ้านเรือนของประชาชน โดยไม่มีค่าการใช้หรือเชื่อมต่อ ซึ่งอ้างอิงตามราคาที่รัฐลงทุนแบบต้นทุนส่วนเพิ่มระยะยาว (Long Run Incremental Cost)
2) ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมที่ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. ทุกราย สามารถเชื่อมต่อโครงข่ายเน็ตประชารัฐได้ ณ จุดเชื่อมต่อที่มีความเป็นไปได้ทางเทคนิค ตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 มาตรา 25 โดยผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมที่ขอเชื่อมต่อโครงข่ายต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการทำหรือจัดให้มีจุดเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมเพิ่มเติม หรือสิ่งที่อำนวยความสะดวกเพิ่มเติมนั้นเท่าที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการดังกล่าว ตามประกาศ กสทช. เรื่องการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรมนาคม พ.ศ. 2556 ข้อ 24
และ 3) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการโครงการเน็ตประชารัฐต้องให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายอื่นเข้าใช้โครงข่ายเน็ตประชารัฐ และให้จัดส่งสำเนาสัญญาการใช้โครงข่ายฯ ให้สำนักงาน กสทช. ตามประกาศ กสทช. เรื่องการใช้และการเชื่อมต่อโครงข่ายฯ พ.ศ. 2556 โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมสามารถยื่นความประสงค์ได้ที่สำนักงาน กสทช.
ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลฯ ได้ดำเนินการขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในโครงการ "เน็ตประชารัฐ" ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อย พร้อมยังได้ดำเนินการผลักดันการใช้ประโยชน์จากโครงข่ายเน็ตประชารัฐ ซึ่งจะเน้นการนำบริการของภาครัฐสู่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกล เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการด้านต่างๆ อาทิ ด้านการศึกษา ด้านสาธารณสุข และสวัสดิการของรัฐ รวมถึงการยกระดับเศรษฐกิจชุมชน ผ่านบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi) โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย หมู่บ้านละ 1 จุด ตลอดจนการขยายโครงข่ายแบบเปิด (Open Access Network) เพื่อให้ผู้ให้บริการรายย่อยสามารถขอใช้โครงข่ายเน็ตประชารัฐ เชื่อมต่อไปให้บริการในเชิงพาณิชย์แก่ประชาชนในแต่ละหมู่บ้านได้ในราคาที่เป็นธรรม และเหมาะสมแก่สภาพพื้นที่ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากโครงข่ายอินเทอร์เน็ตที่รัฐได้ดำเนินการ ผลักดันประเทศสู่การเป็น "ไทยแลนด์ 4.0" สร้างความเท่าเทียมแก่ประชาชนในทุกพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม