นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า "ด้วยพันธกิจของกระทรวงวัฒนธรรม ที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญในการสนับสนุนและพัฒนาการเผยแพร่ศิลปะแขนงต่างๆของเยาวชนไทย รวมไปถึงร่วมผลักดันส่งเสริมการประกวดศิลปวัฒนธรรมในระดับนานาชาติ และในวันนี้ทางกระทรวงวัฒนธรรม มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการจัดการแข่งขันศิลปะการเต้นระดับประเทศ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี CSTD Thailand Dance Grand Prix 2018 ครั้งที่ 5 นับได้ว่าเป็นเวทีการแข่งขันศิลปะการเต้นมาตรฐานสากลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมวงการเต้นของเยาวชนในประเทศไทยให้ก้าวสู่เวทีระดับนานาชาติได้ โดยในนามขององค์กรภาครัฐขอชื่นชมในความมุ่งมั่นและความสำเร็จของสถาบัน CSTD ประจำประเทศไทย ที่ได้จัดเวทีให้เยาวชนไทยได้มีพื้นที่ในการเรียนรู้ศิลปะการเต้นแขนงต่างๆ และนำการแสดงศิลปะการเต้นหลากหลายรูปแบบที่เต็มไปด้วยคุณภาพมาร่วมแข่งขัน แบ่งปันประสบการณ์ร่วมกัน พร้อมส่งเสริมให้เยาวชนไทยได้มีพัฒนาการด้านศิลปะการเต้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้เข้าแข่งขันจะได้ใช้เวทีนี้แสดงความสามารถ แสดงฝีมือและศักยภาพด้านการเต้น พร้อมสร้างสรรค์ผลงาน สร้างชื่อเสียงภาพลักษณ์และเกียรติภูมิของประเทศไทย ให้เป็นที่ประจักษ์ในเวทีระดับนานาชาติ"
นางสาววัลลภา ปัจฉิมสวัสดิ์ ผู้แทนสถาบัน CSTD ประเทศไทย เปิดเผยว่า "ในการแข่งขัน CSTD Thailand Dance Grand Prix 2018 ครั้งที่ 5 นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งครั้งแห่งความภาคภูมิใจของสถาบัน CSTD ประจำประเทศไทยและ CSTD ประเทศออสเตรเลีย ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โปรดเกล้าพระราชทานถ้วยรางวัลคะแนนรวมสูงสุดถึง 2 รางวัลในครังนี้ ได้แก่ ประเภทสถาบันยอดเยี่ยม (Best School Aggregate Cup) และประเภทคะแนนรวมบุคคลสูงสุด (Aggregate Solo Cup) เป็นปีที่ 3 นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ยังความปลาบปลื้มมายังวงการศิลปะการเต้นของประเทศไทยและผู้เข้าแข่งขันทุกท่าน เป็นเกียรติยศแก่ตนเอง วงศ์ตระกูล และโรงเรียน ซึ่ง CSTD Thailand Dance Grand Prix เป็นเวทีแรกที่จัดการแข่งขันศิลปะการเต้นขึ้นอย่างมีมาตรฐานสากลปรากฏขึ้น ที่มีการแข่งขันระหว่างสถาบันการเต้นชั้นนำจากทั่วไทยจนถือเป็นการกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวในวงการสอนศิลปะการเต้นในการจัดการแข่งขันให้เกิดขึ้นในประเทศไทย และครั้งนี้ได้รับความสนใจจากนักเต้นทุกภูมิภาคทั่วประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน ประชันความสามารถกว่า 1,265 คนบนเวทีจาก607 ชุดการแสดง จากสถาบันสอนศิลปะการเต้นชั้นนำจากทั่วภูมิภาคของประเทศไทย หลากหลายรูปแบบการแข่งขัน อาทิ Classical Ballet, Lyrical Dance, Demi-Character, Modern Jazz Dance, Contemporary Dance, National Dance , Song &Dance, Repertoire และ Hip Hop & Street Dance โดยมีผู้เข้าแข่งขันทั้งแบบเดี่ยว (Solo), แบบคู่ (Duo)-แบบ 3 คน (Trio), แบบกลุ่มขนาดเล็ก (Ensemble) และกลุ่มใหญ่ (Troupe) เพื่อค้นหาสุดยอดนักเต้นเยาวชนตัวแทนประเทศไทยให้มีโอกาสก้าวสู่การแข่งขันในเวทีระดับนานาชาติ ในการแข่งขัน แข่งขัน 20th Asia Pacific Dance Competition 2018 ณ ประเทศสิงค์โปร์ ซึ่งถือเป็นการแข่งขันเต้นรายการสำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค เพื่อร่วมประชันฝีมือกับผู้เข้าแข่งขันกว่า 12 ประเทศ ที่จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม ถึง 3 กันยายน นี้"
ทั้งนี้การแข่งขัน CSTD Thailand Dance Grand Prix 2018 ครั้งที่ 5 ในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรที่เล็งเห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาศาสตร์การเต้น ได้แก่ สถานฑูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย, โรงละครอักษรา, บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด, บริษัท สิงห์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด, แดนซ์อาร์ต ฟาวเดชั่น สถาบันบางกอกแดนซ์, เพลินตา สตูดิโอ และยูสไมล์คิดส์ ร่วมสนับสนุนและพัฒนาเยาวชนไทย/บุคคลากรที่มีความสามารถในระดับอาชีพให้มีความก้าวหน้าในศิลปะการเต้นในประเทศไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง รวมทั้งเป็นหนึ่งในการขยายเครือข่าย ทั้งภายในและต่างประเทศให้เชื่อมโยงและขยายวงกว้างสู่ระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคต่อไป
"ด้วยพันธกิจของสถาบัน CSTD ประจำประเทศไทย มุ่งมั่นให้ความสำคัญกับศิลปะการเต้นของเยาวชนไทย พร้อมผลักดันและยกระดับให้มีความทัดเทียมในเวทีนานาชาติ ทั้งยังมุ่งสานฝันปลุกปั้นให้เด็กไทยมีพัฒนาศักยภาพให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นไป รวมถึงยังช่วยรักษาและเผยแพร่มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของศิลปะไทย ต่อยอดไปสู่ระดับสากล" นางสาววัลลภา กล่าวปิดท้าย