ก.แรงงาน พัฒนาช่างฝีมือ ดัน ภูเก็ต เป็นศูนย์ท่าเทียบเรือสำราญระดับโลก

พฤหัส ๐๗ มิถุนายน ๒๐๑๘ ๑๑:๑๕
ก.แรงงาน ร่วมเอกชน พัฒนาช่างซ่อมเรือ ยกภูเก็ตเป็น Hub ท่าเทียบเรือสำราญระดับโลก เพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยว นำรายได้เข้าประเทศ

นายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่าจากการที่จังหวัดภูเก็ตได้กำหนดวิสัยทัศน์ในปี 2561-2564 ในการเร่งพัฒนายกระดับเมือง ให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่รู้จักไปทั่วโลกภายใต้ภาพลักษณ์ของ "เมืองไข่มุกอันดามัน"จังหวัดภูเก็ต จึงได้ดำเนินการเพื่อให้เป็นศูนย์กลางของท่าเทียบเรือสำราญ (Marina Hub) ของโลก โดยจังหวัดภูเก็ตมีท่าเทียบเรือ 38 แห่ง มีท่าเทียบเรือสำราญจำนวน 5 แห่ง แต่ในปัจจุบันธุรกิจด้านนี้กลับประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานฝีมือทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ในการซ่อมบำรุง ปรับเปลี่ยนอะไหล่กลไกต่างๆ และกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน จึงได้ดำเนินการพัฒนาทักษะช่างฝีมือป้อนสู่ตลาด สอดคล้องนโยบายเร่งด่วนของพลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และเป็นการส่งเสริม 1 ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย กลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ มีการขยายตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งเฉพาะจังหวัดภูเก็ตสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศประมาณ 313,000 ล้านบาท

นายสุทธิ กล่าวต่อไปว่ามอบให้หน่วยงานในสังกัดสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 21 ภูเก็ต ใช้แนวทางประชารัฐประสานความร่วมมือกับบริษัท โบ๊ทลากูน จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจท่าเทียบเรือรายใหญ่ในจังหวัดภูเก็ต ดำเนินการโครงการ "การพัฒนาฝีมือแรงงานในธุรกิจท่าเทียบเรือสำราญในจังหวัดภูเก็ต" ในเบื้องต้นดำเนินฝึกอบรมในสาขาที่ขาดแคลน จำนวน 4 สาขา ได้แก่ ช่างซ่อมเครื่องยนต์เรือ ช่างทาสีเรือ ช่างไม้เฟอร์นิเจอร์เรือ ช่างซ่อมไฟเบอร์เรือ ให้กับ ช่างฝีมือ ช่างในธุรกิจท่าเทียบเรือ แรงงานใหม่ คนที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพและนักศึกษาอาชีวะภายในจังหวัด เริ่มดำเนินการในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2561 คาดว่าจะมีผู้ให้ความสนใจเข้ารับการฝึกอบรมเป็นจำนวนมาก ส่วนความร่วมมืออื่นๆ เช่น ฝึกอบรมตามความต้องของนายจ้างและสถานประกอบกิจการในสาขาช่างและภาคบริการ จัดทำหลักสูตรกลางเพื่อใช้ขยายผลการฝึกอบรมให้กับจังหวัดอื่นๆและพื้นที่อันดามันต่อไป เป็นต้น

"จากสถิตการแจ้งเข้า-ออกของสำนักงานขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวี ภาค 5 จังหวัดภูเก็ต ระบุว่ามีเรือยอร์ชและเรือครูซเข้ามาจอดเทียบท่ารวมกันปีละประมาณ 1,200-1,400 ลำ เข้ามาพักเฉลี่ยครั้งละ 60 วัน ในแต่ละวันนักท่องเที่ยวจะใช้จ่ายเงินเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อคน ความร่วมมือในครั้งนี้นอกจากเป็นจะแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานได้อย่างถูกวิธีแล้ว ยังเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่คนไทยอีกด้วย" อธิบดีกพร. กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๐:๕๙ อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud