ด้วยเหตุนี้เอง สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA จึงจัดกิจกรรมโรดโชว์นิทรรศการ "ร้อยคนไทยหัวใจนวัตกรรม" (100 Faces of Thailand's Innovation Inspirers) ประเดิมที่แรก ณ จังหวัดภูเก็ต โดยภายในงานได้รับเกียรติจาก นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายสาคร ชนะไพฑูรย์ ที่ปรึกษา สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ให้การต้อนรับ ซึ่งนิทรรศการร้อยคนไทยหัวใจนวัตกรรมได้รวบรวมแนวคิด ผลงาน ความสำเร็จของผู้นำการเปลี่ยนแปลงจากหลากหลายอาชีพในประเทศไทย เพื่อปลุกกระแสให้คนไทยเกิดความตื่นตัว กล้าที่จะคิดนอกกรอบ ก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์
หนึ่งในแขกรับเชิญพิเศษที่มาร่วมแชร์แรงบันดาลใจภายในงานที่จัดขึ้น ณ จังหวัดภูเก็ต อย่าง รศ.อรชุมา ยุทธวงศ์ โค้ชระดับตำนานผู้เป็นกระจกสะท้อนพรสวรรค์ด้วยพรแสวงแห่งตน ให้แนวคิดที่น่าสนใจผ่านเวทีนี้เพื่อจุดประกายให้คนตามหาแรงบันดาลใจของตัวเองเจอว่า อันดับแรกของการตามหาแรงบันดาลใจ คือ ต้องรู้จักตัวเองก่อน ซึ่งปกติมนุษย์เราจะมีตัวตนซ้อนกันอยู่ 3 รูปแบบ
ตัวตนแรก คือ ตัวจริง เราต้องรู้ว่าตัวเราเองเป็นเช่นไร เมื่อหาตัวเองเจอแล้วก็ทำให้ตัวตนนี้มีความสุขอยู่เสมอ ตัวตนที่ 2 คือ ตัวรับแขก เป็นการปฏิบัติตัวตามความคาดหวังของสังคม เรียกอีกอย่างว่าตัวกาลเทศะ เช่น ถึงแม้เบื่ออยู่ก็ต้องยิ้ม แม้จะง่วงก็ต้องไปเรียน ส่วนตัวตนที่ 3 คือ ตัวบทบาท ซึ่งหมายถึงการที่เราตั้งใจทำงาน ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่หากทุกคนสามารถสวมบทบาท 3 ตัวตนนี้ได้อย่างสมบูรณ์ ก็จะเจอกับความสุขของชีวิต ยิ่งถ้ารู้ว่าตัวเองเชี่ยวชาญเรื่องอะไร ก็สามารถใช้ความเชี่ยวชาญที่เรารู้ นำไปสู่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้
"ในชีวิตจริง เราต้องทำอะไรหลายอย่างที่ไม่อยากทำ เพราะเรารู้ว่าเป็นหน้าที่ แต่ทุกอย่างต้องมีความพอดี ไม่ใช่เห็นตัวเองใหญ่จนไม่คำนึงถึงคนอื่นเลย และไม่ใช่คำนึงถึงคนอื่นมากเกินไปจนรู้สึกตัวเองตัวเล็กนิดเดียว เราต้องหาตัวเองให้เจอว่า เราอยากทำอะไร แล้วทำหน้าที่ของตัวตนทั้ง 3 ส่วนให้ดีที่สุด ความสุขก็จะเกิดขึ้นได้" รศ.อรชุมา กล่าว
ครูแอ๋ว – อรชุมา กล่าวว่า ที่ผ่านมาทุกครั้งที่เป็นแอคติ้งโค้ช จะไม่ได้รู้สึกว่านี่คือการมาสอน แต่มองเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกัน ระหว่างครูแอ๋วและนักแสดง โดยแอคติ้งโค้ชทำหน้าที่เตรียมพร้อมนักแสดงเพื่อให้ผู้กำกับดำเนินการถ่ายทำไปได้ง่ายยิ่งขึ้น สิ่งที่ได้จากงานครั้งนี้ คือ การทำงานใช้ศาสตร์หรือศิลป์อย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ควบคู่กันไป เพราะต่อให้สมองทำความเข้าใจแบบเข้าถึง แต่ใจไม่ได้ คือไร้แรงบันดาลใจก็ไปไม่ได้อยู่ดี
จะเห็นได้ว่าการที่เรารู้จักและเข้าใจตัวตน จากนั้นใช้ความเข้าใจนี้บวกกับใจของเรา ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางที่นำเราไปสู่ความสำเร็จได้ เมื่อแรงบันดาลใจมีอยู่ในตัวของทุกคนแล้ว เพียงแต่วันนี้อาจจะหลบซ่อนอยู่ลึกๆ ทำให้เรายังค้นหาไม่เจอ ขอเพียงแค่วันนี้กล้าที่จะเริ่มต้นทบทวนตัวตน รู้และเข้าใจ หาสิ่งที่อยากทำให้เจอ เมื่อเจอแรงบันดาลใจแล้ว ก็เดินหน้าสร้างสรรค์ตามสิ่งที่ใจปรารถนา เราเชี่ยวชาญอะไร ก็ใช้สิ่งที่เราเชี่ยวชาญต่อยอดเชื่อมโยงกับความสามารถอื่นที่เรามี เพียงแค่นี้ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่น่าสนใจได้แล้ว สำหรับผู้สนใจนิทรรศการ "ร้อยคนไทยหัวใจนวัตกรรม" สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊คแฟนแพจ : ร้อยคนไทยหัวใจนวัตกรรม หรือที่เฟซบุ๊คแฟนเพจ NIA : National Innovation Agency, Thailand