นายวรยุทธ เนาวรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ประธานในพิธี กล่าวว่า ในยุคดิจิตัล "คน" ถูกมองเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ามากที่สุดในการสนับสนุนให้องค์การประสบความสำเร็จ บนความเชื่อที่ว่าบุคลากรจะสามารถคิดค้นนวัตกรรมประดิษฐ์สิ่งใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นกับตนเองและสามารถสร้างศักยภาพได้โดยผ่านกระบวนการพัฒนารูปแบบต่าง ๆ คนยังเป็นกุญแจ สำคัญที่ช่วยในการกระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาในทุก ๆ มิติ หน่วยงานภาครัฐ สถานประกอบกิจการ และพนักงาน จึงมีส่วนสำคัญในการพัฒนา องค์กร เศรษฐกิจ และสังคม ถือว่าการดำเนินการตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ.2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย โดยภาครัฐเป็นส่วนสนับสนุนและส่งเสริมให้มีการพัฒนาพนักงาน สถานประกอบกิจการก็ได้รับประโยชน์ทั้งการลดหย่อยภาษีอากร เงินอุดหนุนต่างๆ ได้พนักงานที่มีความรู้ มีมาตรฐาน เพิ่มผลิตภาพแรงงาน ลดความสูญเสียในกระบวนการผลิต และตัวพนักงานเอง ก็ได้รับการพัฒนาทักษะ ความรู้ ทัศนคติ มีมาตรฐานในการทำงาน ตลอดจนได้รับค่าจ้างที่เป็นธรรม ส่งผลให้เศรษฐกิจ ในภาพรวมดีขึ้น สังคมก็ดีขึ้นตามไปด้วย
นางณฐมน ปัทมะสุคนธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานลำพูน ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าในปีงบประมาณ 2561 มีสถานประกอบกิจการของจังหวัดลำพูนที่ได้รับการส่งเสริมตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 จำนวน 105 แห่ง ยื่นขอรับรองหลักสูตรจำนวน 700 ครั้ง รวม 1,881 หลักสูตร มีพนักงานได้รับการพัฒนาฝีมือแรงงานจำนวน 47,094 คน และมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการฝึกอบรม 10,562,064.88 บาท และในจำนวนดังกล่าวมีสถานประกอบกิจการที่เห็นความสำคัญในการพัฒนาฝีมือแรงงานให้แก่ลูกจ้างในปีที่ผ่านมา เกินกว่าร้อยละ 70 ของลูกจ้างทั้งหมด จึงได้รับเงินช่วยเหลือหรืออุดหนุนจากกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน 200 บาทต่อคน จำนวน 11 แห่ง เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 482,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 10.48 ของสถานประกอบกิจการที่ยื่นขอรับรองหลักสูตร และคาดว่าในปีนี้ จะมีสถานประกอบกิจการยื่นขอรับเงินช่วยเหลือหรืออุดหนุนเพิ่มมากขึ้น