ระบบดังกล่าวรองรับสูงสุด 64-wavelength 400G ซึ่งรองรับได้มากกว่าระบบ 100G ถึง 3.2 เท่า จึงสามารถตอบสนองความต้องการด้านการทำ scheduling แบบ cross-ring และ non-blocking ของเครือข่ายส่วนตัวขององค์กร รวมถึงลดอุปสรรคในการดำเนินงานและบำรุงรักษาเครือข่าย ตลอดจนช่วยให้การส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย 5G มีความเร็วสูงและเสถียร
ZTE และ China Telecom สาขาเซินเจิ้น วางระบบคลัสเตอร์ 400G OTN บริเวณ super-core node หลายจุดในเครือข่าย โดยแต่ละจุดรองรับ 128 service slot และ 64T cross-connect capacity
ระบบดังกล่าวตอบสนองความต้องการด้านการทำ scheduling แบบ non-blocking ของบริการ small-granularity จำนวนมากที่เกิดจากการเลิกใช้อุปกรณ์ SDH ส่งผลให้การส่งข้อมูลผ่าน 5G, บรอดแบรนด์ระดับกิกะบิต และเครือข่ายส่วนตัวขององค์กรมีความรวดเร็ว รวมถึงช่วยลดอุปสรรคในการดำเนินงานและบำรุงรักษาเครือข่ายอย่างมีนัยสำคัญ และช่วยให้ลูกค้าประหยัดต้นทุนการดำเนินงานและบำรุงรักษาเครือข่าย
นอกจากนี้ ZXONE 9700 ซึ่งเป็นอุปกรณ์ OTN เรือธงของ ZTE ยังถูกนำมาใช้งานกับระบบดังกล่าว โดยมีการใช้ CE band ด้วย อุปกรณ์นี้รองรับเครือข่ายสูงสุด 25.6T ซึ่งรองรับได้มากกว่าระบบ 100G ถึง 3.2 เท่า จึงสามารถตอบสนองต่อการขยายเครือข่ายและช่วยลูกค้าประหยัดต้นทุน
ขณะเดียวกันยังมีการใช้สถาปัตยกรรม 32-degree ROADM optical-layer เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่งข้อมูล โดยช่วยให้สามารถเชื่อมต่อแบบ MAN flatness และ full-Mesh multi-directional และรองรับ one-hop transmission ซึ่งช่วยลดการหน่วงเวลาส่งข้อมูลผ่าน OTN รวมถึงยกระดับประสบการณ์การใช้งาน และลดแรงกดดันแบนด์วิดท์บน MAN core node
อุปกรณ์ตระกูล ZXONE 9700 ของ ZTE ยังคงได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่ม “ผู้นำ” ในส่วนของ “Core Packet – Optical Transport” และ “Metro Packet – Optical Transport” จากการประเมินล่าสุดโดย GlobalData
ด้วยประสบการณ์ทางเทคนิคอันช่ำชองและสถานะอันแข็งแกร่งในตลาดการวางเครือข่ายไฟเบอร์ออปติก ZTE ได้วางเครือข่าย 100G/B100G รวมกว่า 400 เครือข่ายทั่วโลก โดยมีการวางสายไฟเบอร์ออปติกความยาวรวมกว่า 400,000 กิโลเมตร
รายงานล่าสุดของ Dell’Oro Group ซึ่งเผยแพร่เมื่อเดือนมีนาคม 2563 ระบุว่า อุปกรณ์เครือข่ายไฟเบอร์ออปติกของ ZTE ครองส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 2.4% ในปี 2562 ส่งผลให้ ZTE เป็นผู้จำหน่ายหนึ่งในสองรายที่มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นมากที่สุด ขณะเดียวกัน Omdia ระบุว่า ZTE ครองอันดับ 2 ในตลาด OTN switching ทั่วโลกในปี 2562
ZTE คือผู้จัดหาระบบโทรคมนาคมขั้นสูง อุปกรณ์มือถือ และโซลูชันเทคโนโลยีระดับองค์กรให้แก่ผู้บริโภค ผู้ให้บริการเครือข่าย บริษัท และภาครัฐ หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของ ZTE คือ ความมุ่งมั่นในการจัดหานวัตกรรมแบบบูรณาการและครบวงจรให้แก่ลูกค้า เพื่อมอบความเป็นเลิศและคุณค่าในขณะที่อุตสาหกรรมโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศมาบรรจบกัน ทั้งนี้ ZTE จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงและเซินเจิ้น (รหัสหุ้นฮ่องกง: 0763.HK / รหัสหุ้นเซินเจิ้น: 000063.SZ) โดยจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการในกว่า 160 ประเทศทั่วโลก
ปัจจุบัน ZTE ทำสัญญา 5G เชิงพาณิชย์ 46 ฉบับในตลาดหลัก ๆ เช่น ยุโรป เอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลางและแอฟริกา ทั้งนี้ ZTE จัดสรรรายได้ 10% ต่อปีให้กับการวิจัยและพัฒนา และมีบทบาทเป็นผู้นำในองค์กรพัฒนามาตรฐานสากล
สื่อมวลชนกรุณาติดต่อ: Margaret Ma, ZTE Corporation, โทร: +86 755 26775189, อีเมล: [email protected]