สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศจำนวน 447 แห่ง มีปริมาณน้ำในอ่างฯ รวมกันทั้งสิ้น 34,472 ล้าน ลบ.ม. (45% ของความจุอ่างฯ) ปริมาณน้ำใช้การได้ 10,802 ล้าน ลบ.ม. (21% ของความจุน้ำใช้การ)อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำใช้การน้อยกว่าหรือเท่ากับ 30% ของความจุอ่าง จำนวน 29 แห่ง คือ ภูมิพล สิริกิติ์ แม่งัดสมบูรณ์ชล แม่กวงอุดมธารา กิ่วคอหมา กิ่วลม แควน้อยบำรุงแดน แม่มอก ห้วยหลวง น้ำพุง จุฬาภรณ์ อุบลรัตน์ ลำตะคอง ลำพระเพลิง มูลบน ลำแชะ ลำนางรอง สิรินธร ป่าสักชลสิทธิ์ ทับเสลา กระเสียว วชิราลงกรณ์ ขุนด่านปราการชล คลองสียัด บางพระ หนองปลาไหล ประแสร์ นฤบดินทรจินดาและ แก่งกระจาน
2. สถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ แควน้อยฯ และป่าสักฯ) (ข้อมูล ณ วันที่ 12 พ.ค. 63)
ปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 8,380 ล้าน ลบ.ม. (34% ของความจุอ่างฯ) เป็นปริมาณน้ำใช้การได้ 1,684 ล้าน ลบ.ม. (9% ของความจุน้ำใช้การ)
3. ผลการจัดสรรน้ำฤดูฝนปี 2562/63 (ข้อมูล ณ วันที่ 12 พ.ค. 63)
ทั้งประเทศ แผนการจัดสรรน้ำ 11,975 ล้าน ลบ.ม. จัดสรรน้ำไปแล้ว 1,056 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 9เจ้าพระยา แผนการจัดสรรน้ำ 3,250 ล้าน ลบ.ม. จัดสรรน้ำไปแล้ว 347 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 11
4. แผน-ผลการเพาะปลูกข้าวนาปรังปี 2562/63 ในเขตชลประทาน (ข้อมูล ณ วันที่ 7 พ.ค.63)
ทั้งประเทศ แผนเพาะปลูกข้าวนาปรัง 2.31 ล้านไร่ เพาะปลูกแล้ว 4.21 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 182.27 ของแผนฯ เก็บเกี่ยวแล้ว 3.11 ล้านไร่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา แผนเพาะปลูกข้าวนาปรัง – ล้านไร่ (รณรงค์งดทำนาต่อเนื่องฤดูแล้ง ปี 2562/63) เพาะปลูกแล้ว 1.98 ล้านไร่ เก็บเกี่ยวแล้ว 1.87 ล้านไร่ โดยพื้นที่ทุ่งบางระกำ แผนเพาะปลูก 265,000 ไร่ เพาะปลูกแล้ว 133,090 ไร่ คิดเป็นเป็นร้อยละ 50.22 ของแผนฯ
5. คุณภาพน้ำ วันที่ 13 พ.ค.63 เวลา 05.00 น. : แม่น้ำเจ้าพระยา สถานีประปาสำแล จ.ปทุมธานี (สูงกว่าเกณฑ์เฝ้าระวัง) ท่าน้ำนนทบุรี จ.นนทบุรี (ปกติ) ทั้งนี้ กรมชลประทานได้บริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาความเค็ม โดยทำการผันน้ำบางส่วนจากแม่น้ำแม่กลองมายังแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำบางปะกง สถานีปราจีนบุรี (ปกติ) แม่น้ำท่าจีน สถานีปากคลองจินดา (ปกติ) และแม่น้ำแม่กลอง สถานีปากคลองดำเนินสะดวก (ปกติ)
6. จังหวัดที่มีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2562 จำนวน 29 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย เพชรบูรณ์ ตาก พิษณุโลก หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ ศรีสะเกษ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี จันทบุรี ชลบุรี และสงขลา รวมทั้งสิ้น 162 อำเภอ 858 ตำบล 7,434 หมู่บ้าน/ชุมชน 5 เทศบาล (ข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ณ วันที่ 12 พ.ค. 63)
7. กิจกรรมและการให้ความช่วยเหลือของศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแก้ไขและบรรเทาวิกฤตภัยแล้งฯ
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่าบัว สำนักงานชลประทานที่ 3 สำรวจติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ จากการสำรวจ น้ำสำหรับอุปโภค-บริโภค พบว่าไม่มีปัญหาและเกษตรกรในเขตชลประทานที่มีนาอยู่พื้นที่ลุ่มต่ำ ส่วนหนึ่งได้เริ่มทำการเพาะปลูกข้าวนาปี 2563 โดยใช้น้ำบาดาล ในการเตรียมแปลงเพาะปลูกโครงการชลประทานลพบุรี สำนักงานชลประทานที่ 10 นำรถบรรทุกน้ำให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้งในพื้นที่วัดสำโรงน้อย วัดหินปักใหญ่และวัดหินปักเหนือ ตำบลหินปัก อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี พร้อมจัดสรรน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เป็นไปตามแผนการจัดสรรน้ำที่วางไว้ อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้มีน้ำกินน้ำใช้อย่างเพียงพอโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเจ้าเจ็ด-บางยี่หน สำนักงานชลประทานที่ 11 นำรถบรรทุกน้ำให้การช่วยเหลือในพื้นที่หมู่ที่ 10 ตำบลหลักชัย อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนให้แก่เกษตรกรในเขตพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโพธิ์พระยา สำนักงานชลประทานที่ 12 ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง ณ บริเวณปากคลองส่งน้ำ 1ขวา-1ขวา ผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภค-บริโภค ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำจากวิกฤตภัยแล้งส่วนเครื่องจักรกลสูบน้ำ สำนักเครื่องจักรกล ดำเนินการสูบน้ำด้วยเครื่องสูบน้ำระบบไฮดรอลิก ขนาด 30 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง สูบน้ำจากคลอง ร.1 สูบน้ำเข้าท่าสูบน้ำ บ้านบางแฟบ หมู่ 2 ตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่ออุปโภค-บริโภคและช่วยเหลือนาข้าวที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งโครงการจ้างแรงงานชลประทาน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ประจำปีงบประมาณ 2563 แผนจำนวน 88,838 คน เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ปัจจุบัน ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2563 จ้างแรงงานไปแล้ว 44,464 คน คิดเป็นร้อยละ 50.05