“วิจัย-นวัตกรรม” โมเดลลดความรุนแรงพื้นที่ชายแดนใต้

อังคาร ๐๔ สิงหาคม ๒๐๒๐ ๑๕:๔๓
สกสว.ชู “วิจัยนวัตกรรม” โอโซนยืดอายุลองกอง พัฒนาพันธุ์ทุเรียนพื้นบ้าน และท่องเที่ยวชุมชน เสริมศักยภาพ จ.ยะลา ก่อนชูเป็นโมเดลลดความรุนแรง
วิจัย-นวัตกรรม โมเดลลดความรุนแรงพื้นที่ชายแดนใต้

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผศ.ดร.สุกานดา เหลืองอ่อน (ลูวิส) ผู้อำนวยการภารกิจการวิเคราะห์สถานการณ์ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สกสว. พร้อมด้วย รศ.ดร.ประภาภรณ์ ขอไพบูรณ์ ผศ.ดร.แพร ศิริศักดิ์ดำเกิง ในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิและผู้ประสานงานโครงการงานวิจัยประเด็นวิจัยเชิงยุทธศาสตร์จังหวัดชายแดนภาคใต้ (SRI 13) ของฝ่านโยบายชาติและความสัมพันธ์ข้ามชาติ (ฝ่าย 1) สกว. (เดิม)

สำหรับโครงการ SRI เป็นชุดโครงการที่ สกว. ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์ของชาติ ซึ่งจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นประเด็นหนึ่งที่ระบุไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ชุดโครงการ SRI 13 จึงเริ่มดำเนินการในปี 2560 โดยในปีแรกมีการสนับสนุนงบประมาณวิจัยไปในประเด็นความรุนแรงในจังหวัดชายแดนใต้ สกว.เล็งเห็นว่า จ.ยะลามีความน่าสนใจที่จะเป็นพื้นที่นำร่องในการทำโครงการวิจัยเพื่อพัฒนาท้องถิ่น จึงเกิดการทำบันทึกตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่างจังหวัดยะลากับ สกว. ในวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ.2561

ภายหลังจากการลงนามความร่วมมือดังกล่าว สกว.จึงให้งบประมาณสนับสนุนการวิจัยจาก 3 ฝ่ายคือ ฝ่ายนโยบายชาติและความสัมพันธ์ข้ามชาติ สนับสนุนงบประมาณ 7 โครงการ แบ่งเป็นงานวิจัยเกี่ยวกับฐานข้อมูลด้านต่างๆ ของจังหวัด เพื่อศึกษาวิเคราะห์ สร้างข้อเสนอแนะนโยบายพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 5 โครงการ การวิจัยเกี่ยวกับเรื่องศักยภาพองค์กรปกครองท้องถิ่น 1 โครงการ และการวิจัยการรักษาคุณภาพและยืดอายุการเก็บรักษาลองกอง 1 โครงการ สำหรับงานวิจัยฝ่ายเกษตร ได้ให้งบประมาณสนับสนุนโครงการพัฒนาคุณภาพผลผลิตและยกระดับทุเรียนพื้นบ้าน จ.ยะลา และฝ่ายวิจัยเพื่อท้องถิ่นให้งบประมาณวิจัยโครงการพัฒนาการท่องเที่ยว

ด้าน ผศ.ดร.แพร กล่าวเพิ่มเติมถึงผลจากการทำงานวิจัยเพื่อการพัฒนา จ.ยะลาว่า จากการดำเนินการวิจัยภายใต้ความร่วมมือ ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา งานวิจัยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ใน 4 มิติ คือ

งานวิจัยไม่ขึ้นหิ้ง แต่เป็นงานวิจัยของชุมชน เพื่อชุมชน โดยมุ่งเป้าหมายการนำองค์ความรู้ไปใช้ในการพัฒนาในมิติต่างๆ ได้จริง ในปีนี้ (63) งานวิจัยมุ่งเป้าไปที่การทำข้อมูลพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการทำงานขององค์กรปกครองท้องถิ่น การทำวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตผลทางการเกษตร คือ ทุเรียน และลองกอง ซึ่งเป็นพืชที่ช่วยเข้ามาสร้างรายได้ทดแทนยางพาราที่ราคาตกต่ำในพื้นที่ ตลอดจนการทำวิจัยการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่จะช่วยสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่อย่างยั่งยืนงานวิจัยที่สร้างการมีส่วนร่วมของคนในท้องถิ่น ตั้งแต่เริ่มคิดโจทย์วิจัย สกว. เล็งเห็นว่าการทำงานวิจัยที่จะตอบสนองความต้องการของชุมชนคือเริ่มจากการที่ให้คนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการบอกความต้องการของตัวเองว่าองค์ความรู้แบบไหนเพื่อใช้ในการหนุนเสริมศักยภาพของชุมชน ท้องถิ่นการบูรณาการงานหลายศาสตร์ เพื่อการยกระดับการทำงานพัฒนาจังหวัดอย่างรอบด้าน ข้อมูลพื้นฐานที่แข็งแรง เชื่อถือได้ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำงานวิจัยครั้งนี้ สำหรับงานวิจัยเกี่ยวกับองค์กรปกครองท้องถิ่นนั้นเป็นหน้าที่ของนักรัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และงานวิจัยลองกองกับทุเรียน เป็นงานของนักวิชาการจากคณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตร ส่วนสุดท้ายเป็นงานด้านการท่องเที่ยว โดยนักวิชาการจากคณะบริหาธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ โดยงานทั้งหมดนี้จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาท้องถิ่น โดยองค์กรปกครองท้องถิ่น ด้วยการใช้เศรษฐกิจฐานรากและการท่องเที่ยวโดยชุมชนเป็นตัวขับเคลื่อนพื้นที่วิจัย คือพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และการพัฒนาศักยภาพไปด้วยกัน กระบวนการทำงานวิจัยที่เกิดขึ้น เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามีส่วนร่วมนับตั้งแต่การคิดโจทย์วิจัย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูล ตลอดจนการรายงานความก้าวหน้าในระยะต่างๆ การให้ความเห็นเพิ่มเติมแก่นักวิจัยในตัวงานวิจัย กระบวนการทั้งหมดนี้ ไม่ได้เพียงสร้างการเรียนรู้และพัฒนศักยภาพของท้องถิ่น หากแต่นักวิจัยมีโอกาสในการพัฒนาตัวเองจากข้อมูลฐานรากในชุมชน สามารถนำความรู้และเครือข่ายการทำงานไปแลกเปลี่ยนกับนักศึกษาในห้องเรียนได้ต่อไป ที่สำคัญองค์กรสนับสนุนทุนหรือองค์กรที่กำหนดทิศทางการวิจัยของชาติ ได้เรียนรู้และพัฒนาศักยภาพในการกำหนดทิศทางวิจัยของประเทศต่อไป

อย่างไรก็ตามหากการทำวิจัยในชุดโครงการนี้สามารถดำเนินเนื่องไปอีกอย่างน้อย 5 ปี เพื่อพัฒนาศักยภาพองค์กรปกครองท้องถิ่น และขยายการทำวิจัยเพื่อรักษา พัฒนาคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนขับเคลื่อนการท่องเที่ยวชุมชนโดยคนในชุมชนในพื้นที่อื่นๆ เพื่อสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวที่รอบด้านและยั่งยืนต่อ อาจนำพาให้ จ.ยะลาก้าวพ้นจากปัญหาความยากจนและความรุนแรงเรื้อรังไปได้ในที่สุด

วิจัย-นวัตกรรม โมเดลลดความรุนแรงพื้นที่ชายแดนใต้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง