เพื่อสังคมต่างๆ มากมาย ระหว่างวันที่ 26 สิงหาคม ถึง 13 กันยายน 2563
โดยมีกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคมเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินโครงการ ซึ่งประกอบไปด้วยกิจกรรมการกุศล กิจกรรมบันเทิง และกิจกรรมส่งเสริมการตลาด เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจภายในประเทศ และเป็นการแสดงพลังความร่วมมือร่วมใจของคนไทย ที่จะช่วยเหลือและสนับสนุนคนไทยด้วยกัน พร้อมจะนำรายได้จากการจัดงานสมทบทุนมูลนิธิและองค์กรการกุศลต่างๆ ต่อไป
บรม พิจารณ์จิตร กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เผยว่า “เซ็นทรัล เอ็มบาสซี มีความยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านค้าภายในศูนย์ฯ และร้านค้าอื่นๆ รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยได้เปิดพื้นที่ภายในศูนย์การค้าฯ เพื่อเป็นช่องทางให้กับผู้ประกอบการต่างๆ ได้มีโอกาสนำเสนอธุรกิจและจำหน่ายสินค้าของตนเอง รวมทั้งยังเป็นการสร้างบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยให้คึกคักและเกิดการกระจายรายได้มากขึ้น โดยกิจกรรมต่างๆ ในครั้งนี้ เราได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ องค์กรเอกชนชั้นนำต่างๆ รวมถึงภาคประชาชน โดยมุ่งหวังว่าการร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือกันและกันจากทุกภาคส่วนนี้ จะเป็นอีกหนึ่งพลังที่จะสามารถขับเคลื่อนและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาคึกคัก พร้อมเป็นกำลังใจให้คนไทยสู้ต่อ จนสามารถผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปด้วยกันในที่สุด”
สำหรับหลากหลายกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคมที่กำลังจะเกิดขึ้น ประกอบด้วย
งาน “CHEERITY: Let’s Cheer up together at Central Embassy” ระหว่างวันที่ 26-30 สิงหาคม 2563 และ 7-13 กันยายน 2563
โดยในเฟสแรก ชวนทุกคนมาร่วมช้อป แชร์ และเชียร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบการธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ให้เดินหน้าต่อไปได้ในงาน “CHEERITY: Let’s Cheer up together at Central Embassy” ระหว่างวันที่ 26-30 สิงหาคม 2563 โดย เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ได้เปิดพื้นที่ภายในศูนย์การค้าฯ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายในการเช่าพื้นที่ ให้กับเหล่าผู้ประกอบการ พร้อมจับมือกับ 6 กลุ่มพันธมิตร ได้แก่ นิตยสารแพรว, BKKMENU, SpicyDisc, Intersect Design & Factory, นิสิตนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมถึงภาคประชาชน ร่วมด้วย ตลาดรวมใจ ไทยช่วยไทยโดย กลุ่มเซ็นทรัล ร่วมกันสร้างโอกาสและสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจ ทั้งรายใหญ่และรายย่อย รวมถึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอี กลุ่มเกษตรกร และชุมชน กว่า 150 ร้านค้า ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นำสินค้ามาออกบูธ พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษจากศูนย์การค้าฯ เฉพาะภายในงาน
อีกทั้งพบกับร้านค้าจากเหล่าเซเลบริตี้คนดังมากมายที่พร้อมใจกันนำของรักของหวงมาร่วมจัดจำหน่าย, กิจกรรมระดมทุนจากเหล่าศิลปินชื่อดัง ตลอดจนการร่วมบริจาคของร้านค้าและประชาชนเพื่อสมทบทุนเข้าโครงการเซ็นทรัลทำ เพื่อพัฒนาสังคม ริเริ่มโดยกลุ่มเซ็นทรัล พร้อมเพลิดเพลินกับช่วงเวลาสนุกๆ จากหลากหลายศิลปินที่มาร่วมส่งมอบความสุขและความสนุกบนเวที
นอกจากนี้ ในเฟสสองยังมีอีกหนึ่งงานไฮไลท์กับงาน “SACICT เพลิน CRAFT” ระหว่างวันที่ 7-13 กันยายน 2563 โดย ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT ร่วมกับ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และกลุ่มศูนย์การค้าในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป เปิดพื้นที่ให้กลุ่มครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม นักสร้างสรรค์งานหัตถกรรมร่วมสมัยของ SACICT นำความงดงามของศิลปหัตถกรรมไทยที่ถูกประยุกต์ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตคนเมือง ได้นำงานหัตถกรรมทั้งแบบดั้งเดิมที่มีความประณีต สวยงาม และงานคราฟต์ร่วมสมัยมาจำหน่ายในงานนี้ ตลอดทั้งงานจะจัดให้มีเวิร์คช็อปเพื่อให้ผู้ซื้อได้สร้างสรรค์งานคราฟต์ประเภทต่างๆด้วยตนเอง ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างโอกาสและเพิ่มช่องทางกระจายสินค้าหัตถกรรมไทย ตลอดจนเป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายและต่อยอดการค้าให้ผู้สร้างงานหัตถกรรมไทยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจและมีการใช้จ่ายภายในประเทศ
งาน “The World in One Bite” ระหว่างวันที่ 10-13 กันยายน 2563
เทศกาลอาหารนานาชาติครั้งยิ่งใหญ่ประจำปีจากกว่า 40 ภัตตาคารชื่อดังและร้านอาหารชั้นชื่อดังที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ในฐานะที่เป็น Food Destination แถวหน้าของกรุงเทพฯ ในมุมมองของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเปิดประสบการณ์ความอร่อยใหม่ๆ ให้กับเหล่านักชิมและนักช้อป ที่คัดสรรเมนูพิเศษอร่อยเด็ดมาเสิร์ฟภายในงาน อีกทั้งเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ อาทิ ฟู้ดเทสติ้ง ฟู้ดเวิร์กช็อป พร้อมโปรโมชั่นพิเศษและข้อเสนอจากบัตรเครดิตชั้นนำมากมายให้ลูกค้าได้อิ่มแบบสุดคุ้มตลอดงาน อีกทั้งยังได้มอบสิทธิพิเศษแก่ทีมแพทย์และบุคลากร เป็นส่วนลดสูงสุด 20% จากร้านอาหารชั้นนำภายในศูนย์การค้าฯ อีกด้วย
พร้อมกันนี้ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ยังได้อุดหนุนร้านอาหารชั้นนำภายในศูนย์การค้าฯ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพื่อนำอาหารกว่า 1,600 กล่อง มูลค่ากว่า 300,000 บาท ส่งมอบให้กับมูลนิธิ Scholars of Sustenance Foundation หรือโครงการรักษ์อาหาร เพื่อนำไปแจกจ่ายตามชุมชนรายได้ต่ำ สถานสงเคราะห์ และ บ้านเด็กกำพร้า ที่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนอาหารอีกด้วย
ตลอดจนยังมีกิจกรรมเพื่อสังคมอื่นๆ ที่จะจัดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ โดยทุกๆ กิจกรรม เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ได้จัดขึ้นภายใต้ความตั้งใจดีที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม รวมถึงหลากหลายธุรกิจร้านค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยการจัดเตรียมงานต่างๆ ได้คำนึงถึงมาตรการตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขอย่างรัดกุม เพื่อให้ทั้งผู้ประกอบการร้านค้า และผู้ที่มาร่วมงาน วางใจได้ถึงความปลอดภัย และสามารถร่วมมือร่วมใจ พร้อมเป็นกำลังใจให้คนไทยสู้ต่อ จนผ่านพ้นทุกปัญหาไปด้วยกันได้ในที่สุด
