นักลงทุนชาวจีนและอาเซียนที่เข้าร่วมงาน ยังจะได้เห็นการเปิดตัวแบรนด์การลงทุนระดับนานาชาติครั้งใหม่ของฟิลิปปินส์อย่าง "Make It Happen In The Philippines" ซึ่งเป็นแคมเปญแรกที่ผสมผสานหลากหลายตลาดและภาคส่วนเข้าด้วยกันอย่างยั่งยืน และเป็นหนึ่งเดียวที่ออกแบบมาเพื่อผลักดันการเป็นผู้นำด้านการลงทุนจากต่างประเทศโดยเฉพาะ
แบรนด์การลงทุนใหม่และแคมเปญการตลาดครบวงจรนี้จะกลายมาเป็นอัตลักษณ์องค์กรที่สอดคล้องสำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของฟิลิปปินส์ ซึ่งได้รับการพัฒนาและทดสอบในหมู่นักลงทุนต่างชาติในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียอย่างจีน รวมทั้งตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งรวมถึงสหรัฐและอังกฤษ
แบรนด์การลงทุน 'Make It Happen In The Philippines' ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามภายในงาน CIFIT ด้วยการนำเสนอเนื้อหา โบรชัวร์การตลาด และกำแพงเซลฟี่ที่โดนใจ เพื่อส่งเสริมความยืดหยุ่น ความสามารถในการปรับตัว และแนวความคิดเชิงบวกในการ “ทำให้เป็นจริง” โดยนักลงทุนจะได้สัมผัสกับแบรนด์ใหม่ดังกล่าว พร้อมมิติเรื่องราวความสำเร็จในการเติบโตทางเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ ผ่านการเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.philippines.business จากจอมอนิเตอร์และแล็ปท็อปบนเวทีในงานนี้ด้วย
ความสำเร็จในการเติบโตของฟิลิปปินส์ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความแข็งแกร่ง ประสิทธิภาพ และความสามารถในภาคส่วนระดับชั้นนำ รวมถึงการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (มูลค่า 37,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2561) ยานยนต์ การบินอวกาศ ไอทีและสุขภาพ ที่ดึงดูดกลุ่มธุรกิจระดับโลกจำนวนมาก เช่น ซีเมนส์ เอจี, มิตซูบิชิ และลุฟท์ฮันซา ซึ่งล้วนเป็นที่ยอมรับในตลาด
Ramon M. Lopez เลขานุการกรมการค้าและอุตสาหกรรมของฟิลิปปินส์ (DTI) กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีที่คณะกรรมการจัดงานของ CIFIT มอบรางวัลแห่งเกียรติยศที่แสนพิเศษนี้ให้กับเราเป็นเวลาสองปีติดต่อกัน ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงความสำเร็จของเราในฐานะแหล่งการลงทุนจากต่างประเทศระดับชั้นนำในตลาดอาเซียน
Lopez กล่าวต่อว่า “ฟิลิปปินส์ยังคงเป็นจุดหมายสำคัญในการทำธุรกิจของโลก และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของเอเชียและตลาดเกิดใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุด แม้จะอยู่ท่ามกลางวิกฤตด้านสุขภาพที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน แต่เราก็ได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วโดยใช้แรงกระตุ้นและมาตรการเพื่อรักษาความสะดวกในการทำธุรกิจและบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 ที่เกิดขึ้นกับธุรกิจต่าง ๆ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้แบ่งปันเรื่องราว "Make It Happen" ของเราและร่วมมือกับนักลงทุนจากทั่วโลกในงาน CIFIT 2020 และงานอื่น ๆ ต่อไป"
การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศนับเป็นองค์ประกอบสำคัญของเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ ซึ่งสร้างรายมูลค่าหลายพันล้านต่อปีและสร้างงานที่สำคัญให้กับประเทศ โดยมูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นร้อยละ 40 ในช่วง 3 ปีจนถึงปี 2562 เมื่อเทียบกับ 3 ปีก่อนหน้า [1] นอกจากนี้ โครงการสนับสนุนส่งเสริมและแบรนด์การลงทุน "Make It Happen In The Philippines" นี้ยังเน้นย้ำถึงความสามารถในการปรับชุดความคิดของฟิลิปปินส์ ซึ่งมีความสำคัญท่ามกลางการระบาดทั่วโลกเช่นในขณะนี้ด้วย
ทั้งนี้ ธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศต่างคาดการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ในรูปแบบตัววี โดยจะดีดตัวขึ้นระหว่างร้อยละ 6.2 ถึงร้อยละ 6.8 ซึ่งจะเกิดขึ้นได้จากข้อได้เปรียบด้านการแข่งขันของตลาด เช่น พนักงานที่อายุน้อยและมีความหวัง ความสามารถด้านการใช้ภาษาอังกฤษ และจรรยาบรรณในการทำงานที่มุ่งเน้นการบริการ ตลอดจนตำแหน่งยุทธศาสตร์ใจกลางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การพัฒนาอุตสาหกรรมไอทีและเขตเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว และการมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนผ่านโครงสร้างพื้นฐาน
นักลงทุนสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบรนด์การลงทุน 'Make It Happen In The Philippines' กิจกรรมการลงทุน และโอกาสในฟิลิปปินส์ บนแพลตฟอร์มส่งเสริมดิจิทัลหลายภาษาแพลตฟอร์มใหม่และพูดคุยกับคณะกรรมการการลงทุนได้ที่เว็บไซต์ www.philippines.business
เกี่ยวกับ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งฟิลิปปินส์
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) แห่งฟิลิปปินส์ เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม (DTI) และเป็นหน่วยงานหลักของรัฐบาลที่รับผิดชอบในการส่งเสริมการลงทุนในฟิลิปปินส์ โดยช่วยให้นักลงทุนฟิลิปปินส์และนักลงทุนต่างชาติประสบความสำเร็จในการลงทุนในขอบข่ายของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ต้องการ BOI มอบบริการอำนวยความสะดวกสำหรับการทำธุรกิจในฟิลิปปินส์ครบวงจรในที่เดียว ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโอกาสการลงทุนในฟิลิปปินส์ได้ที่ www.philippines.business
[1] ที่มา: World Bank