ครั้งแรกของโลก ! ชาร์ป เผยผลวิจัย ร่วม ม.นางาซากิ ชี้ 'พลาสม่าคลัสเตอร์’ ลดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอากาศ (SARS-CoV-2) ได้ถึง 91.3%

อังคาร ๑๕ กันยายน ๒๐๒๐ ๑๓:๑๗
ชาร์ป คอร์ปอเรชั่น จับมือศูนย์วิจัยแห่งชาติเพื่อการควบคุมและการป้องกันโรคติดเชื้อ สถาบันเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น เผยผลวิจัย “ประสิทธิผลในการลดเชื้อไวรัส โคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ลอยอยู่ในอากาศ (SARS-CoV-2)” ซึ่งพบว่า เทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ ช่วยลดจำนวนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอากาศได้มากถึงร้อยละ 91.3 โดยการวิจัยนี้ถือเป็นครั้งแรกของโลกที่ค้นพบว่าพลาสม่าคลัสเตอร์ไอออนสามารถช่วยลดจำนวนเชื้อไวรัสที่แพร่ผ่านละอองฝอยขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิผล
ครั้งแรกของโลก ! ชาร์ป เผยผลวิจัย ร่วม ม.นางาซากิ ชี้ 'พลาสม่าคลัสเตอร์ ลดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอากาศ (SARS-CoV-2) ได้ถึง 91.3%

นายโรเบิร์ต อู๋ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด เปิดเผยว่า “ตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2562 จนถึงปัจจุบัน มีประชากรมากกว่า 25 ล้านรายทั่วโลกติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และกว่า 840,000 รายเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อดังกล่าว การแพร่ระบาดนี้จึงถือเป็นภัยคุกคามสำคัญที่คนทั่วโลกเผชิญ ดังนั้นการให้ความร่วมมือในการป้องกันการระบาดจึงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญ และพร้อมให้ความสนับสนุนทุกช่องทางเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว” ซึ่งการวิจัยล่าสุดเกิดขึ้นจากความร่วมมือของ ชาร์ป คอร์ปอเรชั่น และ มหาวิทยาลัยนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นองค์กรที่ทั่วโลกให้การยอมรับในด้านงานวิจัยเกี่ยวกับโรคติดต่อ โดยมีบุคลากรชั้นนำจากหลากหลายหน่วยงานอยู่เบื้องหลังการทำงาน ได้แก่ ศาสตราจารย์จิโร่ ยาซูดะ จากศูนย์วิจัยแห่งชาติเพื่อการควบคุมและการป้องกันโรคติดเชื้อ สถาบันเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยนางาซากิ ศาสตราจารย์อาซูกะ นันโบะ สมาชิกคณะกรรมการสมาคมไวรัสวิทยาแห่งประเทศญี่ปุ่น จากมหาวิทยาลัยนางาซากิ และ ศาสตราจารย์ฮิโระโนริ โยชิยามะ สมาชิกคณะกรรมการสมาคมไวรัสวิทยาแห่งประเทศญี่ปุ่น จากภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยชิมาเนะ งานวิจัยนี้จึงถือเป็นการค้นพบครั้งสำคัญที่จะช่วยให้ทุกภาคส่วนร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสได้ดียิ่งขึ้น

สำหรับการวิจัยครั้งนี้ ใช้ความเข้มข้นของพลาสม่าคลัสเตอร์ไอออนโดยเฉลี่ยที่ 10 ล้านประจุ ต่อ ลูกบาศก์เซนติเมตร ทำการทดลองในพื้นที่ที่มีปริมาตรประมาณ 3 ลิตร ทดสอบโดยการปล่อยละอองไวรัสเข้าไปในเครื่องมือทดสอบที่ติดตั้งเครื่องปล่อยอนุภาพพลาสม่าคลัสเตอร์ความเข้มข้นสูงอยู่ภายใน หลังจากนั้นเมื่อพลาสม่าคลัสเตอร์ไอออนทำปฏิกริยากับละอองไวรัสเป็นเวลา 30 วินาที จึงดูดละอองไวรัสมาทำการตรวจนับจำนวนพลัคที่เหลืออยู่ (Plaque Assay)* เปรียบเทียบกับกรณีที่ทดสอบโดยไม่ใช้พลาสม่าคลัสเตอร์ ซึ่งผลการทดสอบพบว่า เมื่อมีพลาสม่าคลัสเตอร์ ค่าไตเตอร์ไวรัสที่มีการติดเชื้อ (จำนวนการเกิดพลัค) ลดลง 91.3 %

ดร. จิโร่ ยาซูดะ จากศูนย์วิจัยแห่งชาติเพื่อการควบคุมและการป้องกันโรคติดเชื้อ สถาบันเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยนางาซากิ กล่าวเพิ่มเติมว่า “เป็นที่ทราบกันดีว่าสารฆ่าเชื้อโรคอย่างแอลกอฮอล์และสบู่นั้นมีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนของไวรัสบนวัตถุ แต่อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการติดเชื้อที่แพร่ผ่านละอองของเหลวและละอองฝอยขนาดเล็กในอากาศแล้ว ตอนนี้แทบจะยังไม่มีมาตรการที่มีประสิทธิภาพนอกเหนือไปจากหน้ากากอนามัยเลย จากผลงานวิจัยที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิผลของเทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ในการลดจำนวนเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ลอยอยู่ในอากาศ (SAR S-CoV-2) ฉบับนี้ คาดหวังว่าเทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์จะมีประโยชน์ในการช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อในพื้นที่ที่มีการใช้งานจริง ซึ่งรวมถึงสำนักงาน บ้าน สถานพยาบาล และในยานพาหนะ”

เทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ (Plasmacluster) เป็นเทคโนโลยีเอกสิทธิ์หนึ่งเดียวของ ชาร์ป ทำงานโดยการปล่อยประจุไอออน (Ion) ทั้ง ประจุไอออนบวก (H+) และประจุไอออนลบ (O2-) เพื่อทำลายผนังของเซลล์เชื้อรา (Mold) ไวรัส (Virus) แบคทีเรีย (Bacteria) สารก่อภูมิแพ้ (Allergy) และกลิ่นไม่พึงประสงค์ ซึ่งได้รับการทดสอบและรับรองประสิทธิผลการทำงานจากหลากหลายสถาบันวิจัยชั้นนำทั่วโลก ทั้งนี้ ชาร์ป คอร์ปอเรชั่น ยังมีแผนการทดสอบประสิทธิผลของเทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์อย่างต่อเนื่อง และมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคมต่อไป

ครั้งแรกของโลก ! ชาร์ป เผยผลวิจัย ร่วม ม.นางาซากิ ชี้ 'พลาสม่าคลัสเตอร์ ลดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอากาศ (SARS-CoV-2) ได้ถึง 91.3% ครั้งแรกของโลก ! ชาร์ป เผยผลวิจัย ร่วม ม.นางาซากิ ชี้ 'พลาสม่าคลัสเตอร์ ลดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอากาศ (SARS-CoV-2) ได้ถึง 91.3%

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๙ PROS จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2567 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวอนุมัติทุกวาระ
๐๙:๔๙ ซีพี - ซีพีเอฟ สนับสนุนโครงการ สานใจไทย สู่ใจใต้ รุ่นที่ 42 ส่งเสริมเยาวชนรุ่นใหม่ ตอบแทนคุณแผ่นดิน
๐๙:๑๓ นักวิชาการ TEI แนะมุมมองการสร้าง Urban Climate Resilience ต้องเร่งปรับตัวและเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
๐๙:๓๙ TEI เปิดวงเสวนา บทเรียนและทางออกการจัดการกากแคดเมียม ? พร้อมเร่งแก้ปัญหา โจทย์ใหญ่กากแคดเมียม จัดการอย่างไรให้ปลอดภัยและถูกต้อง
๐๙:๒๔ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต ร่วมกับกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้กับสตรีที่ด้อยโอกาสในโครงการส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรี ณ
๐๙:๑๑ เขตปทุมวันกำชับเจ้าของพื้นที่ตั้งวางสิ่งของ-อุปกรณ์การค้าริมกำแพงส่วนบุคคลให้เรียบร้อย
๐๙:๓๔ ม.หอการค้าไทย ปฐมนิเทศสำหรับผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านนวัตกรรมการบริการ รุ่นที่ 5 (Top Executive Program for Creative Amazing Thai Services :
๐๙:๐๒ เฮงลิสซิ่ง รับรางวัล หน่วยงานส่งเสริมสุขภาพการเงินพนักงาน ระดับดีเด่น โดย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
๐๙:๔๕ มูลนิธิเฮอริเทจ (ประเทศไทย) ส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดสมุทรสาคร
๐๙:๔๔ พาราไดซ์ พาร์ค ต้อนรับ The Little Gym เปิดสาขาที่ 3