“ในคราวนี้ ซีเอ เทคโนโลยีได้นำเสนอซอฟต์แวร์ที่เป็นแกนกลางสำคัญในการจะเปลี่ยนระบบเอ็นเตอร์ไพรซ์ปัจจุบันให้เป็นโรงงานผลิตแอพพ์คุณภาพสูง โดยโซลูชั่นใหม่ล่าสุดอย่าง DevOps ของเรามาพร้อมศักยภาพการทำงานใหม่ที่เป็นเจ้าบุกเบิกในวงการที่สามารถเร่งกระบวนการพัฒนาและติดตั้งใช้งานแอพพ์ ด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่า เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ” ราช ราว ผู้จัดการทั่วไปสายงานนำเสนอแอพพลิเคชั่น บริษัทซีเอ เทคโนโลยี กล่าว “แอพพลิเคชั่นคือแนวหน้าของการทำธุรกิจและเราเดินหน้าให้ลูกค้าของเราได้เปรียบเสมอในยุคการแข่งขันซอฟต์แวร์ระดับโลก”
โซลูชั่น CA DevOps จะช่วยให้ภาคธุรกิจที่ใช้งานสามารถรวมประสานการทำงานระหว่างทีมพัฒนาซอฟต์แวร์เข้ากับทีมปฏิบัติงาน เพื่อสร้างแนวทางการทำงานร่วมกันแบบไร้รอยต่อในงานพัฒนา และติดตั้งใช้งานแอพพลิเคชั่น โดยมีลูกค้าของทางซีเอ เทคโนโลยีได้รายงานว่าช่วยเพิ่มผลิตภาพการทำงานได้มาก (มากสุดถึง 60 เปอร์เซ็นต์)เพิ่มความเร็วในการพัฒนาแอพพ์(ระหว่าง 25 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์) และร่นเวลาที่ใช้ในงานติดตั้ง (ลดงานที่ต้องจัดการเองลงมากถึง 15 เท่า)
ราเมช กันภาธี หัวหน้าฝ่าย DevOps ประจำภูมิภาคอเมริกาเหนือ บริษัท Tech Mahindra กล่าวว่า“โซลูชั่น DevOps ของซีเอ ใช้งานง่ายเน้นนวัตกรรมใหม่ในการรับมือกับหลายเทคโนโลยีที่ต้องใช้งานและช่วยลดคอสต์ในการพัฒนา ทดสอบและประกันคุณภาพการใช้งาน ด้วยการใช้ระบบ CA Service Virtualization และCA Release Automation เราสามารถลดรอบเวลาการนำเสนอเซอร์วิสได้ลงกว่า 20-22 เปอร์เซ็นต์ ลดบั๊กลงได้ราว 30-35 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งลดเวลารวมในการพัฒนาได้อีก 25-30 เปอร์เซ็นต์ ผลก็คือกำหนดรีลีสของแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่เรามีลดลงอย่างเห็นได้ชัดจากที่เคยเสียเวลาเป็นวัน จะเหลือเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น”
ขีดความสามารถต่างๆ ต่อไปนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโซลูชั่น DevOps ที่มีนำเสนอในงาน CA World ’14
งานพัฒนาคู่ขนานอย่างยืดหยุ่น–
ประสิทธิภาพใหม่ที่ช่วยเร่งงานพัฒนา รวมการเชื่อมต่อระหว่างโซลูชั่น CA Service Virtualization 8.0 และโซลูชั่นAPI ชั้นนำจากซีเอ เทคโนโลยีช่วยเร่งการตรวจสอบหาจุดผิดพลาดและจุดบกพร่องต่างๆ รวมทั้งจำลองสร้างสภาพการทำงานได้อย่างทรงพลังเพื่อทดสอบก่อนการใช้งานจริง เร่งการพัฒนาแอพพลิเคชั่นและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม
“APIs กำลังกลายมาเป็นอินเทอร์เฟสหลักของลูกค้าในการใช้งานโปรดักต์และเซอร์วิสที่เน้นเทคโนโลยี และเป็นช่องทางสำคัญที่จะเพิ่มรายได้ มีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ ซึ่งการรวมระบบ CA Service Virtualization และการทดสอบอัตโนมัติเข้ากับขีดความสามารถในการจัดการ API ตรงนี้ ได้ทำให้ซีเอ เทคโนโลยี เป็นผู้นำตลาดในการพัฒนาแบบคู่ขนาน ที่จะช่วยเพิ่มคุณภาพของแอพพลิเคชั่น โดยทางเราคิดว่า ซีเอ เทคโนโลยีได้ตัดสินใจถูกแแล้ว ที่รวมสองระบบฟังก์ชั่นนี้เข้าด้วยกัน” เมลินดา บาเลา ผู้อำนวยการโปรแกรมฝ่ายจัดการระบบแอพพลิเคชั่น และยุทธศาตร์แอพพลิเคชั่น บริษัทวิจัย IDC. กล่าวพร้อมเสริมว่า “ซีเอ เทคโนโลยีเป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆ ที่นำเสนอประสิทธิภาพรวมที่สร้างความแตกต่างนี้ ซึ่งจะช่วยให้การใช้งานแอพพลิเคชั่นเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว”
การติดตั้งใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง–
เชื่อมต่อกับทูล DevOps แบบโอเพ่นซอร์สทุกแบบ เพื่อนำเสนองานรีลีสแอพพ์แบบอัตโนมัติที่ได้ทั้งคุณภาพงานและความเร็วในการรีลีส
มีประสิทธิภาพการเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สเจ้าอื่นๆ ได้อย่างครบถ้วน ในระบบ CA Release Automation 5.5. ที่นำเสนอการเชื่อมระบบให้กับลูกค้าได้ง่ายภายในเวลาไม่กี่นาทีและสั่งติดตั้งใช้งานได้อัตโนมัติในทุกขั้นตอนการใช้งานแอพพ์ ลดเวลาที่เสียไปในการติดตั้งจากหลายวันลงเพียงไม่กี่นาที
“ระบบ CA Service Virtualization และ CA Release Automation ได้ผนึกเข้ากันอย่างสมบูรณ์แบบ และเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับบริษัทที่มองหาทางเร่งการนำเสนอแอพพลิเคชั่น” จันดรานชู สิงห์ นักวิเคราะห์อาวุโส จากบริษัทวิจัย Ovum ได้พูดถึงโซลูชั่น DevOps จากซีเอ เทคโนโลยี ไว้ในรายงาน OVUM SWOT เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
การทำงานที่ยืดหยุ่น –
มีระบบวิเคราะห์การทำงานแอพพลิเคชั่นในเชิงลึก เพื่อประสิทธิภาพการใช้งานที่เหนือกว่าสำหรับยูสเซอร์
ระบบ CA Mobile App Analytics (CA MAA) นำเสนอประสิทธิภาพการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมตั้งแต่โมไบล์ไปจนถึงระบบเมนเฟรม ในทุกแอพพลิเคชั่นที่รันในระดับเอ็นเตอร์ไพรซ์และโครงสร้างระบบไอทีที่สนับสนุน เมื่อรวมเข้ากับการกำหนดเป้าหมายKPI ทางธุรกิจ จะช่วยให้ลูกค้าผู้ใช้งานสามารถระบุและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิม และยังตามติดประสิทธิภาพการใช้งานแอพพลิเคชั่นว่าตรงตามเป้าวัดหลักที่ตั้งไว้หรือไม่
ผลักดันการใช้งาน DevOps ด้วยโครงข่ายเซอร์วิสระดับโลก
จากงานศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้ ชี้ว่ามีมากกว่าครึ่งของบริษัทองค์กรที่ต้องการ งานสนับสนุนให้คำปรึกษาเพื่อให้งานที่ตั้งเป้าในการเปลี่ยนมาใช้ระบบงานแบบDevOps เดินหน้าลุล่วงไปได้
และเพื่อตอบสนองความต้องการตรงนี้ ทางซีเอ เทคโนโลยี จึงได้นำเสนอ ก้าวใหม่ของงาน DevOps ขึ้นมาด้วยการสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งในกลุ่มพาร์ตเนอร์ ที่รวมถึงการฝึกอบรม ประเมินผล และเซอร์วิสในด้านอื่นๆ ที่สำคัญเพื่อเร่งมือและปรับเพิ่มประสิทธิภาพการนำวิธีการแบบ DevOps มาใช้งานสำหรับลูกค้า และเครือข่ายของพาร์ตเนอร์ที่กำลังขยายตัวนี้จะช่วยนำไปสู่การใช้งานตามแนวคิด DevOps ในองค์กรระดับเอนเตอร์ไพรซ์ได้สำเร็จตามเป้า
"สถานการณ์จริงในโลกดิจิตอลทุกวันนี้ ได้สร้างแรงกดดันให้กับทางผู้บริหารไอทีที่จะต้องเน้นเร่งเวลาที่แอพพ์ออกสู่ตลาด ในขณะที่จะต้องไม่พลาดหรือบกพร่องในด้านงานคุณภาพและเซอร์วิสไปพร้อมๆ กัน ซึ่งการรวมงานกันของชุดโซลูชั่น DevOps จากซีเอ เทคโนโลยีเข้า กับ PricewaterhouseCoopers ( PwC) ที่มีประสบการณ์ในเชิงลึกของอุตสาหกรรม และความเข้าใจในงานไอที จะช่วยให้เราสามารถช่วยลูกค้าได้ตรงเป้า” โรหิต อันทาว หัวหน้าฝ่ายงาน DevOps ระดับเอนเตอร์ไพรซ์ บริษัท PwC กล่าว และเสริมว่า “การทำงานร่วมกันจะช่วยให้เราสามารถรับมือกับปัญหาสำคัญๆ ที่บริษัทระดับเอ็นเทอร์ไพรซ์ทุกวันนี้กำลังเผชิญอยู่"
“DevOps กลายมาเป็นพื้นฐานหลักที่ลูกค้าของเราในยุทธศาสตร์การนำเสนอแอพพ์อย่างต่อเนื่อง” วิลาส พาติล รองประธานฝ่ายเซอร์วิสโครงสร้างพื้นฐานไอที บริษัท Cognizant กล่าว “นี่คือเหตุว่าทำไมทาง Cognizantและซีเอ เทคโนโลยีได้ขยายความร่วมมือของเราออกไป เพื่อให้บริษัทต่างๆ ได้บรรลุเป้าในการผลักดันการรุดหน้าทางนวัตกรรมใหม่ๆ และเพิ่มคุณค่าทางธุรกิจด้วยแนวคิดการใช้งาน DevOps และด้วยการร่วมมือระหว่างประสบการณ์ของทาง Cognizant ที่ผ่านมาในงานด้าน DevOps และเทคโนโลยีของซีเอ เทคโนโลยี เราจะสามารถช่วยให้บริษัทลูกค้าสามารถเปลี่ยนงานรีลีสแอพพลิเคชั่นให้เป็นระบบอัตโนมัติ ลดข้อผิดพลาด นำเสนอแอพพ์ใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ไม่เสียเวลาเป็นวันหรือหลายวันเหมือนที่เคยเป็น”
ข้อมูลวิจัยตลาด
มีบริษัทเอ็นเตอร์ไพรซ์จำนวนมากกว่า 88 เปอร์เซ็นต์ กำลังวางแผนที่จะรับเอายุทธศาตร์ด้าน DevOps มาปรับใช้งาน เพื่อผลักดันงานพัฒนาซอฟต์แวร์และงานติดตั้งแอพพลิเคชั่น และจากการสำรวจมีเกือบครึ่งของกลุ่มผู้นำ(49 เปอร์เซ็นต์) ที่ได้รับเอาวิธีการแบบ DevOps และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมาใช้แล้วเพื่อเร่งงานแอพพลิเคชั่น ในขณะที่กลุ่มในงานสำรวจที่จัดว่าเป็นผู้ตาม มีการนำมาใช้แล้วเพียง6 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น