นอกจากนี้ยังพร้อมคุณสมบัติเด่นที่น่าสนใจ เช่น Beamforming, Multi-user MIMO และฟังก์ชั่นที่น่าประทับใจ Self Healing อีกทั้ง G10 ยังได้นำคุณสมบัติขั้นสูง IoT (Internet of Things) ผ่านทางตัวส่งสัญญาณและตัวรับสัญญาณอินฟราเรดที่ซ่อนอยู่ภายใน ก็ทำให้ G10 สามารถเรียนรู้โค๊ตอินฟราเรดของอุปกรณ์อื่นๆ ได้ด้วย เช่น โทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศหรือเกมคอนโซล ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการทำงานระยะไกลผ่านอุปกรณ์ดังกล่าว ผ่านทางแอพพลิเคชั่น ASRock Router ด้วยโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตก็ตาม
นอกจากนี้ ASRock Gaming Router G10 นี้ ยังมาพร้อมพอร์ต USB 3.0 มาให้ถึง 2 พอร์ต สำหรับการเชื่อมต่อเครื่องพิมพ์หรือการสร้างระบบเครือข่ายเบื้องต้นแบบง่ายๆ ในการจัดเก็บข้อมูลผ่าน NAS อีกทั้งยังสนับสนุนการเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม กับการตรวจสอบและจัดการอันชาญฉลาด ในการจัดควบคุมทราฟฟิกภายในอินเทอร์เน็ต ด้วยแบนด์วิทธ์ที่ดีสำหรับเกมออนไลน์หรือวีดีดโอเกมคอนโซลให้อัตโนมัติ เพื่อให้การเล่นเกมจะได้ไม่ถูกจำกัดโดยผู้ใช้อื่นๆ ที่ดูวีดีโอสตรีมมิ่งหรือโหลดบิตทอเรนต์
สุดท้ายก็คือ บางรุ่นจะมาพร้อมกับสิ่งที่เรียกว่า H2R ที่เป็นดองเกิลที่ถอดออกได้เป็น 2-in-1 ซึ่งทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อในการเดินทางได้อย่างอิสระ (AP) หรือ Access Point สำหรับการฉายภาพหน้าจอของอุปกรณ์มือถือ เช่นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตที่ใช้ขึ้นไปยังจอภาพ HDMI เช่นที่เรียกกันว่า Miracasting ที่เป็นเช่นนั้นได้ก็เพราะดองเกิลของ Google เหมือนกับ Chromecast ไม่สามารถทำหน้าที่ในการเป็น Access Point และเป็น ดองเกิล HDMI ในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ส่วนที่เป็นจุดแข็งของ H2R ยังอยู่ที่การเข้ากันได้กับอุปกรณ์โมบายประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Apple, Android และ Windows ในราคาที่เหมาะสม
สามารถติดตามข้อมูลได้ที่ :
http://www.asrock.com.tw/Networking/G10/index.html