Metanet เป็นผลงานการสร้างสรรค์ของ ดร. เครก เอส. ไรท์ หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ nChain ซึ่งได้ประกาศถึงโครงการนี้เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่การประชุม CoinGeek Week ซึ่งจัดขึ้นในกรุงลอนดอน โดย ดร. ไรท์อธิบายว่า
"สิ่งที่เรากำลังจะสร้างขึ้นคือ ทางเลือกที่ปลอดภัยของอินเทอร์เน็ต ด้วยการสร้างขึ้นบนบล็อกเชน อินเทอร์เน็ตจะกลายเป็นส่วนเสริม (sidechain) ของบล็อกเชนบิตคอยน์ Metanet เป็นเครือข่ายที่มีมูลค่า โดยเป็นระบบของข้อมูลและกิจกรรมออนไลน์ทั่วโลกที่เชื่อมต่อกันในเชิงพาณิชย์ "
อินเทอร์เน็ตได้เปลี่ยนแปลงวิธีการที่เราใช้ชีวิตและดำเนินงาน แต่อินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นในยุคก่อนบล็อกเชน โดยหากมองแบบผิวเผิน Metanet ฟังดูคล้ายกับอินเทอร์เน็ต แต่ Metanet ถูกขับเคลื่อนจากความแตกต่างทางเทคนิคในการเก็บและการเข้าถึงข้อมูลผ่านการทำธุรกรรมบนบล็อกเชน ซึ่งให้ความปลอดภัยและประสิทธิภาพเหนือกว่าเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน Metanet จะเปลี่ยนแปลงการทำงานของอินเทอร์เน็ต ด้วยการใช้ธุรกรรมบิตคอยน์เพื่อถ่ายโอนข้อมูลที่มีการบีบอัด และทำให้สามารถแลกเปลี่ยนหน้าเว็บและข้อมูลอื่นๆ ได้แบบกึ่งอัตโนมัติและเชื่อถือได้
Metanet จะเอื้อประโยชน์ต่อการเผยแพร่คอนเทนต์บนเว็บด้วยวิธีการใหม่ๆ และสะดวกต่อการใช้โมเดลธุรกิจอี-คอมเมิร์ซรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งสามารถเป็นไปได้ด้วยระบบธุรกรรมการเงิน Bitcoin microtransactions สิ่งนี้จะช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถได้รับการชำระเงินทันที (instant micropayments) สำหรับการคลิก คอนเทนต์ และข้อมูล การอาศัยความได้เปรียบจากความปลอดภัยและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของบล็อกเชนนั้น ทำให้ Metanet สามารถดำเนินการเพื่อลดโอกาสในการฉ้อโกง เนื่องจากคุณภาพและความสมบูรณ์ของข้อมูลที่สูงขึ้น โดยนำเสนอการจัดเก็บข้อมูลที่ได้รับการสนับสนุนจากเทคโนโลยีบล็อกเชน
ทั้งนี้ บริษัทต่างๆ จะสามารถสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ที่มีการเผยแพร่คอนเทนต์และการทำธุรกรรมการเงินบนบล็อกเชน ซึ่ง (จนถึงขณะนี้) ยังเป็นไปไม่ได้ในทางเศรษฐกิจบนระบบอินเทอร์เน็ต ยกตัวอย่างเช่น โซลูชันใหม่ๆ จะช่วยให้:
- การอนุญาตให้เข้าถึงคอนเทนต์บนเว็บ บัญชีโซเชียลมีเดีย และระบบการกระจายข้อมูลได้อย่างปลอดภัยในแบบเรียลไทม์ ด้วยอัตลักษณ์ส่วนบุคคล
- บริการค้นหา บริการข้อมูลและคอนเทนต์บนอินเทอร์เน็ต ที่ใช้ระบบชำระเงินแบบ micropayments โดยผู้ใช้ แทนที่จะเป็นรูปแบบการโฆษณาแบบดั้งเดิม
- โมเดลธุรกิจแบบคิดค่าบริการเป็นรายครั้ง (pay-per-use) สำหรับการเผยแพร่คอนเทนต์และสินทรัพย์ดิจิทัลในแบบเรียลไทม์และปลอดภัย
- ระบบกระเป๋าเงิน (wallet) ครบวงจรสำหรับการบูรณาการและมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นให้แก่ผู้ใช้งาน
- สัญญาอัตโนมัติสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ซื้อ และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ซื้อ (ทั้งแบบดิจิทัลและแบบจับต้องได้)
- การจัดการซัพพลายเชนแบบเรียลไทม์ในลักษณะที่สามารถตรวจสอบและติดตามได้
- ระบบอัตโนมัติของกรมธรรม์ประกันภัยแบบเรียลไทม์และเป็นอิสระจากรูปแบบ
- การจองตั๋วงานอีเวนต์ การขนส่ง และการจองโรงแรมแบบเรียลไทม์ที่ปลอดภัย
คุณจิมมี่ เหงียน ซีอีโอของ nChain Group ตั้งข้อสังเกตว่า:
"Metanet จะช่วยยกระดับในขั้นต้น และหลังจากนั้นก็จะขับเคลื่อนอินเทอร์เน็ตในท้ายที่สุด ซึ่งจะทำให้ Bitcoin SV เป็นระบบสาธารณะทั่วโลกที่รองรับกิจกรรมทางอินเทอร์เน็ตทั้งหมด นับเป็นแนวคิดที่น่าสนใจและมีความเป็นไปได้ไร้ขีดจำกัดบนพื้นฐานของความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และความสมบูรณ์ของข้อมูลที่เพิ่มขึ้นของบล็อกเชน และเป็นอีกส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ของดร.เครก ไรท์ ในการปลดปล่อยพลังที่แท้จริงของบิตคอยน์ เราได้ดำเนินการตามขั้นตอนเริ่มแรกแล้ว และจะร่วมงานกับพันธมิตรรายอื่นๆ เพื่อทำให้ Metanet เป็นจริง"
การกำหนดและส่งมอบโครงการ Metanet ในรูปแบบที่เป็นมิตรต่อธุรกิจนั้น ต้องอาศัยเวลา โดย nChain จะทำงานต่อไป และจะหาหุ้นส่วนความร่วมมือที่ได้รับการคัดสรรเพื่อช่วยเร่งพัฒนา Metanet ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
ดูการนำเสนอของดร.เครก ไรท์ ซึ่งประกาศถึงโครงการ Metanet ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=MXpHHZqe6vI
สำหรับคำอธิบายเพิ่มเติม โปรดดูบทสัมภาษณ์ดร.เครก ไรท์ ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=tuwNm9vzAnM
เกี่ยวกับ NCHAIN: nChain เป็นผู้นำระดับโลกในด้านการวิจัยและการพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชน ภารกิจของบริษัทคือการทำให้เครือข่ายบิตคอยน์เติบโตและมีการใช้งานอย่างกว้างขวางทั่วโลก โดยมุ่งเน้นไปที่ Bitcoin SV (BSV) ในฐานะที่เป็นบิตคอยน์ต้นแบบ ซึ่งจะเติมเต็มวิสัยทัศน์ของซาโตชิ (Satoshi Vision)
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/717215/nChain_Logo.jpg