นางสาววันเพ็ญ มิ่งขวัญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มทีวาย กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟน แบรนด์ Hocom จากประเทศจีน เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯนำสมาร์ทโฟนน้องใหม่ ภายใต้แบรนด์ Hocom เข้ามาทำตลาดประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2560 ถึงแม้ว่า จะเป็นแบรนด์เล็กๆ แต่เต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพ เนื่องจากทางบริษัทฯก่อนที่จะผลิตโทรศัพท์ Hocom ออกมาจำหน่าย เราเป็นผู้นำด้านการผลิตโทรศัพท์มือถือให้แบรนด์ดัง ออกมาจำหน่ายตามท้องตลาดมากมาย ดังนั้น จึงมีแนวคิดผลิตโทรศัพท์มือถือ Hocom ออกมาตีตลาดในเมืองไทย ภายใต้เป้าหมาย คือ การสร้างสรรค์เทคโนโลยี มิติใหม่ในความมหัศจรรย์ ในด้านการสื่อสาร ซึ่งเชื่อว่าจะถูกใจคนที่ชื่นชอบเทคโนโลยีอย่างแน่นอน
"เป้าหมายสูงสุดของเรา คือ การเป็นผู้นำอันดับ1 ของกลุ่มโทรศัพท์มือถือ Out brand เพราะเรามีต้นทุนการผลิตที่ดีเยี่ยม ส่งผลให้เราเป็นผู้นำผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ประกอบกับ มีศูนย์บริการทันสมัย โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบการถ่ายรูป สามารถถ่ายรูปได้อย่างง่ายดาย สะดวกสบาย ไม่จำเป็นต้องไปโหลดผ่านแอปพลิเคชั่นใดๆ ภาพคมชัด สวยงาม ในเรื่องของราคาทุกคนสามารถจับต้องได้ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายเราจะเจาะกลุ่มลูกค้าใช้แรงงาน รายได้ระดับปานกลาง" นางสาววันเพ็ญ กล่าว
นางสาววันเพ็ญ มิ่งขวัญ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านการตอบรับแบรนด์ดีขึ้นตามลำดับ เพราะมีการบริหารงานในรูปแบบตัวแทนจำหน่าย ซึ่งปัจจุบันมีเครือข่าย 5 จุดใหญ่ ประกอบด้วย จุด (1) จังหวัดนครราชสีมา ดูแลรับผิดชอบในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และล่าง จุด (2) คุณหนึ่งโมบายวัน ดูแลรับผิดชอบในเขตภาคตะวันออก และตะวันตก จุด (3)จังหวัดอุบลราชธานี ดูแลรับผิดชอบในจังหวัดอุบลราชธานี จุด (4 ) เดอะคอนเน็ตสโตร์ ดูแลรับผิดชอบในส่วนจังหวัด ตาก ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และระนอง จุด (5) ห้างหุ้นส่วน น้อยโมบาย จำกัด ดูแลรับผิดชอบในจังหวัดสกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ บึงกาฬ หนองคาย ทั้งนี้ ในเรื่องรายได้ปี 2561 มีรายได้เฉลี่ย 10+ เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2560 ธุรกิจเติบโต เฉลี่ยประมาณ 17+ โดยปี 2562 ตั้งเป้ารายได้เฉลี่ย 20+
สำหรับกลยุทธ์ด้านการตลาด เราจะเน้นกลยุทธ์ที่จะทำให้กลุ่มผู้ซื้อสมาร์ทโฟนของเรามีการรับรู้ และเข้าใจ ว่า ผลิตภัณฑ์ของเรามีคุณภาพดี เทียบเท่า โทรศัพท์มือถือ inter brand การใช้งานจับต้องได้จริง และสามารถเลือกใช้สมาร์ทโฟนของ Hocom ในทุกพื้นที่ รวมทั้งเตรียมเปิดบริการศูนย์ซ่อม ศูนย์จำหน่ายไปยังอำเภอต่างๆเพื่อรองรับผู้ใช้บริการทั่วประเทศไทย
ส่วนแผนการธุรกิจในอนาคต เตรียมแตกไลน์ธุรกิจ มาเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องปรับอากาศ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ออกมาจำหน่ายในประเทศไทยในราคาที่ไม่แพง ทุกคนจับต้องได้ และจะขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในแถบกลุ่มประเทศอาเซียน คาดว่า โครงการนี้ จะเริ่มดำเนินการภายในปี 2564