วีเอ็มแวร์เร่งเครื่องสร้างนวัตกรรมด้านเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยบริการออโตเมชันคลาวด์

บริษัท วีเอ็มแวร์ (NYSE: VMW) ผู้นำด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมซอฟต์แวร์ระดับองค์กร เปิดตัว vRealize Automation Cloud Service สำหรับผู้ใช้ทั่วไปในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งประกอบด้วย VMware Cloud Assembly, VMware Service Broker และ VMware Code Stream เพื่อองค์กรในภูมิภาครวมถึงประเทศไทยเพิ่มความคล่องตัวในการส่งมอบแอปพลิเคชัน ให้สามารถใช้งานคลาวด์ที่ยืดหยุ่นและมีทางเลือกพร้อมควบคุมต้นทุนไปพร้อม ๆ กันได้ - ช่วยให้พวกเขาปรับตัวทันกับนวัตกรรมทางธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงที่เร็ว โดยขับเคลื่อนธุรกิจที่ดำเนินการในภูมิภาคนี้ผ่านการทำงานบนสมาร์ทโฟนและแอปพลิเคชัน

จากรายงานวิเคราะห์ตลาดซอฟต์แวร์บริหารจัดการระบบคลาวด์ โดย IDC วีเอ็มแวร์ครองอันดับหนึ่งเป็นเวลา 7 ปีซ้อน ในฐานะผู้นำด้านการให้บริการซอฟต์แวร์คลาวด์และระบบบริหารจัดการที่น่าเชื่อถือ การเปิดตัว vRealize Automation Cloud Service ครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มความสามารถให้กับดาต้าเซ็นเตอร์ รวมทั้งเปิดให้เข้าถึงข้อมูลได้อย่างความปลอดภัย ขณะเดียวกันก็ช่วยให้ธุรกิจในภูมิภาคสามารถรวมและปรับใช้ร่วมกับคลาวด์แต่ละประเภทได้:

VMware Cloud Assembly: ยกระดับประสบการณ์การใช้งานมัลติคลาวด์ด้วยการบริหารจัดการและเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานแบบอัตโนมัติ รวมทั้งการส่งมอบแอปพลิเคชันให้สอดคล้องกับแนวทางการทำงานของ DevOps

VMware Service Broker: ทำหน้าที่ส่งมอบบริการและนโยบายสำหรับมัลติคลาวด์จากแคตาล็อกเดี่ยวผ่านการรวมเนทีฟคอนเทนต์จากแพลตฟอร์มและคลาวด์ต่างๆ ไปยังแคตาล็อกเดียวด้วยการติดแท็ก

VMware Code Stream: ช่วยให้การส่งมอบดำเนินการไปได้อย่างง่ายดาย ด้วยการส่งมอบซอฟแวร์และแก้ปัญหาที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ผ่านไปป์ไลน์และการวิเคราะห์ จากรายงานการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจประจำปี 2563 (Doing Business 2020) ของประเทศต่าง ๆ รวม 190 ประเทศ จัดทำโดยธนาคารโลกระบุว่า ปีนี้ประเทศไทยครองอันดับที่ 21 ขยับดีขึ้น 6 อันดับ จากปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่สร้างการเติบโตภายใต้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งกำลังเป็นที่จับตามองของเหล่านักลงทุนที่ต้องการสร้างผลกำไรให้กับธุรกิจ เพื่อต่อยอดความสำเร็จและขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาค รวมทั้งรักษาชื่อเสียงในฐานะภูมิภาคที่โดดเด่นเรื่องการสร้างและใช้นวัตกรรมให้คงอยู่ต่อเนื่อง vRealize Automation Cloud Instance จากวีเอ็มแวร์ ช่วยให้องค์กรธุรกิจประสบความสำเร็จในการปรับรากฐานองค์กรสู่ดิจิทัลทรานส์ฟอเมชัน ด้วยการสตรีมไลน์และทำให้จัดการทรัพยากรด้านไอที รวมทั้งควบคุมและใช้งานคลาวด์ได้อัตโนมัติ ส่งผลให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถเร่งแนวทางการสร้างนวัตกรรมของพวกเขาไปพร้อม ๆ กับขยายธุรกิจไปทั่วภูมิภาคได้อย่างรวดเร็ว

นายเอกภาวิน สุขอนันต์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท วีเอ็มแวร์ กล่าวว่า “ปัจจุบันบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยต่างปรับตัวแบบก้าวกระโดดสู่เศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ขับเคลื่อนด้วยแอปพลิเคชัน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่พวกเขาจะต้องเพิ่มความร่วมมือและความคล่องตัวในการกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมทางธุรกิจ ทั้งนี้ด้วยความสามารถของ Automation Cloud Service จากวีเอ็มแวร์ จะช่วยเสริมทัพให้ธุรกิจมีรากฐานที่แข็งแกร่งขึ้น โดยพวกเขาสามารถปรับขยายและพัฒนานวัตกรรมทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว สอดรับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจแบบไดนามิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสภาวการณ์เช่นนี้” vRealize Automation Cloud Service ช่วยให้สามารถส่งมอบแอปพลิเคชันใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็วและจัดการวงจรของบริการเหล่านี้บนคลาวด์ได้ทุกรูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจและประสบการณ์คลาวด์ที่สอดคล้องกันได้ทั้งบน AWS, Azure, GCP หรือ VMC และเพื่อยกระดับการทำงานให้กับไอทีองค์กร บริการนี้จะช่วยลดความซับซ้อนของการใช้บริการพับบลิคคลาวด์ที่หลากหลายและสนับสนุนการทำงานร่วมกันระหว่างนักพัฒนาและผู้ให้บริการด้านไอที ภายใต้นโยบายและการจัดการด้านการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม

เกี่ยวกับวีเอ็มแวร์

วีเอ็มแวร์เป็นผู้นำระดับโลกด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีความซับซ้อน บริการคลาวด์, เน็ตเวิร์กกิ้ง, ระบบซีเคียวริตี้และดิจิทัลเวิร์คเพลสของวีเอ็มแวร์พร้อมมอบรากฐานดิจิทัลแบบไดนามิกและมีประสิทธิภาพให้กับลูกค้าทั่วโลก ภายใต้ความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์มากมาย โดยสำนักงานใหญ่วีเอ็มแวร์ตั้งอยู่ที่เมืองพาโล อัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย วีเอ็มแวร์ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นพลังสนับสนุนที่ดี จากแนวโน้มและผลกระทบการจัดการนวัตกรรมเชิงพื้นที่ในระดับโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่ https://www.vmware.com/company.html